5 จุดสังเกตุ "รถมอเตอร์ไซค์" ในช่วงหน้าฝน
รถยนต์และรถมอเตอร์ก็เหมือนร่างกายของมนุษย์ที่ต้องการการอัพเดท บำรุง อัพเกรด หรือสารอาหารที่มาหล่อเลี้ยงร่างกายให้แข็งแรง ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ก็ต้องการอะไหล่ใหม่ที่เข้ามาเติมเต็มให้รถมอเตอร์ไซค์ที่คุณรักอยู่คู่ไปกับคุณนานเท่านาน และช่วยเซฟชีวิตให้คุณหากเกิดเหตุฉุกเฉินแบบไม่คาดคิด ยิ่งใกล้หน้าฝนเข้าไปทุกทีเช่นนี้ การเดินทางต้องมีสติและรถมอเตอร์ไซค์ต้องอยู่ในสภาพที่เกือบ 100% ให้มากที่สุด เพื่อตัวคุณเอง และเพื่อนร่วมทางครับ วันนี้ทีมงาน Motorbike GURU by Checkraka.com เลยขอมาเตือนสติ ให้เหล่าไบค์เกอร์มาสังเกตุ 5 จุดที่ต้องระวังในรถที่คุณรัก ว่ามีจุดไหนที่ต้องระวัง ต้องเปลี่ยน หรือต้องดูแลเป็นพิเศษ
1. ยาง
ยาง ตัวที่ทำให้รถของเราขับเคลื่อน (ไม่มีล้อมียางแล้วจะไปยังไงละไอ้ทิต) ยิ่งในช่วงที่เข้าหน้าฝน ยางที่คุณใช้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากไปหรือเปล่า? จนทำให้หน้ายางดอกเริ่มเตียน ร่องเริ่มหายกลายเป็นหน้าเรียบ หรือหนักสุดจนแตกลาย จนไม่น่าจะไหว (แต่ก็ฝืนไปเพราะไม่มีเวลาเปลี่ยน...ข้ออ้างชัดๆ) ก็สมควรแก่เวลาแล้วที่คุณจะเปลี่ยนมันซักที เพราะหากเป็นอย่างที่กระผมบอกมันจะเป็นอันตรายต่อตัวคุณเอง และเพื่อนร่วมทาง ยิ่งถ้าฝนตกถนนลื่นละก็ เตรียมใจสวดมนต์ไว้บ้างก็ดีครับ เพราะถ้าคุณประมาทแม้แต่นิด เบรคกระทันหันบวกกับยางที่หมดประสิทธิภาพด้วยแล้ว ลงไปวัดถนนแน่นอน เพราะฉะนั้นก่อนหน้าฝนหรือเดินทางไกล สำรวจยางทั้ง 2 ล้อสักนิด (ทำไมแต่งรถไม่ต้องคิดเยอะเท่าเปลี่ยนยางละ) เพื่อความปลอดภัย
2. แบตเตอรี่ และ สายไฟ ต่างๆ
แบตเตอรี่ และ สายไฟ ต่างๆ ในส่วนห้องเครื่องของรถมอเตอร์ไซค์แม้จะมีพื้นที่เล็กๆ ที่หลายคนอาจจะมองไม่เห็นเพราะต้องแกะ แงะ งัดมันออกมา และปัจจุบันการประกอบรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆ ก็มีการเก็บสาย และห่อหุ้มสายไฟไว้อย่างมิดชิด แต่ทว่าสำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นเก่าๆ หรือที่ใช้งานมานานแล้วและไม่เคยได้สังเกตุกันเลยว่าข้างในจะมีจิ้งจกนอนตาย หนูกัดสายไฟ หรือสายเปื่อยจนไม่ทันสังเกตุ ยิ่งฝนตกหนัก และบางพื้นที่น้ำท่วมต้องระวัง อาจจะเครื่องดับ เครื่องน๊อกลงมาเข็น กันวุ่นวายจนสุดท้ายรถของคุณอาจจะจากไปเลยก็..เป็น...ได้
ภาพจาก : Chai Echo
3. เบรค
เบรค เบรคใครคิดว่าไม่สำคัญ...จำไว้ว่าเบรค หรือผ้าเบรคทั้งหลายซื้อรถมาก็ต้องเปลี่ยนบ้างตามอายุขัย ต้องดูกันบ้างว่าได้เวลาเปลี่ยนหรือยัง ยิ่งเข้าหน้าฝนด้วยแล้วหากผ้าเบรคของคุณอ่อนแอลง (ก็เหมือนร่างกายนั่นแหละ) และคุณยังขับขี่มาด้วยความเร็ว บวกถนนที่ลื่นด้วยแล้ว หึๆ สวดมนต์รอไว้อีกเช่นกัน เพราะประสิทธิภาพการทำงานของเนื้อผ้าเบรคที่จะจับตัวให้รถหยุดได้ทันทีนั้นมันลดน้อยลง แม้ทักษะคุณจะดีแค่ไหนในการควบคุมรถ หากเกิดเหตุฉุกเฉินไฟแดงกระทันหัน รถวิ่งตัดหน้า บวกกับพื้นถนนลื่น ถ้าเบรคหมดและไม่พร้อมใช้งานก็เตรียมรับแรงกระแทกได้เลยครับ เพราะฉะนั้นเปลี่ยนไปอย่าเสียตังค์ เพราะค่าหมอค่ายาแพงกว่าค่าผ้าเบรคอีกนะจ๊ะ จะบอกให้ (อ่านวิธี
5 สังเกตุผ้าเบรคใกล้หมด )
4. ท่อ หรือปลายท่อ
ท่อ หรือปลายท่อ รถที่ท่ออยู่ด้านล่างสุดต้องระวังเวลาขี่ผ่านน้ำท่วมขัง จริงๆ ควรเลี่ยงหากเจอแหล่งน้ำท่วมหนัก โดยเฉพาะรถออโต้เพราะชุดเครื่องคลัตช์อยู่ต่ำทำให้น้ำเข้าท่อ เกิดอาการสำลัก เครื่องดับสตาร์ทไม่ติด เพราะฉะนั้นเข้าหน้าฝนวางแผนหาเส้นทางสำรองไว้บ้างก็ดี เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ
5. หลอดไฟ
หลอดไฟ ส่วนสำคัญเหมือนดวงตา หากฝนตกหนักและคุณขับขี่ในเวลากลางคืน หากหลอดขาดไปซัก 1 ดวง หรือหลอดไฟฟ้าขาดไม่ติดเลยซักดวง คงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ เพราะนอกจากคุณจะไม่เห็นทางข้างหน้า ที่คุณขับขี่ฝ่าฝนมาด้วยความเร็ว (หรือไม่เร็วก็ตาม) รถที่สวนทางก็อาจจะไม่เห็นคุณเช่นกัน และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุแบบที่คุณไม่ทันตั้งตัว หรือหากเจอ กบ เขียด งูเลี้ยวเคี้ยวขอเลื้อยมาระหว่างทางมืดๆ ที่ไม่มีไฟส่องสว่างแล้วละก็ หึๆไม่ลื่น ก็ลงข้างทาง เพราะฉะนั้นก่อนเดินทาง หรือใกล้หน้าฝนแบบนี้สังเกตุหลอดไฟ ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยวของคุณสักนิด เปลี่ยนให้มันสดใส ดวงละไม่กี่บาท ดีกว่าต้องมาเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ทั้งรถทั้งคน เดี๋ยวจะหาว่ากระผมไม่เตือนนะครับพี่น้อง.....
ทั้งนี้การขับขี่ไม่ว่าจะกลางวัน กลางคืน หรือจะฝนตกถนนลื่นการมีสติเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ขับขี่ในขณะที่ดื่มสุรา หรือง่วง และที่สำคัญหมั่นดูแลรักษาพาหนะของคุณให้รถมีสภาพที่ขับขี่ได้ 100% ไม่กระทำผิดกฎจราจร และมีนำใจให้กับเพื่อนร่วมทาง จะได้กลับบ้านกันอย่างปลอดภัย...