รีวิว First Ride ฮอนด้า CRF450RL ตัวแรง สายพันธ์แชมป์ ในราคาที่ใช่
เอ.พี. ฮอนด้า ผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทย เปิดตัว
CRF450RL (339,000 บาท) เอนดูโร่ไบค์ สายพันธ์แชมป์เมื่อช่วงปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา นับเป็นตัวแรงทางฝุ่นแบบที่ขี่บนถนนได้จริง กับราคาที่ใช่ เรียกว่าดีงามทั้งความแรงและค่าตัว เหมาะกับสายบิดทางฝุ่นที่กำลังมองหาเอนดูโร่แรงแบบรถสูตรไว้ใช้แข่ง ขี่ลุยวันว่าง หรือขี่ออนโร้ดเดินทางไปสนุกเองก็ยังได้ ทีมงาน
มอเตอร์ไบค์กูรู ของ เช็คราคา.คอม มีโอกาสได้ร่วมขี่ทดสอบครั้งแรงอย่างเป็นทางการที่ สนามทดสอบชั่วคราว เขาไม้แก้ว ชลบุรี เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2564
VIDEO
ทดสอบแบบจับรถครั้งแรกก็ไปลุยเลย เสมือนยูสเซอร์ใหม่ที่ได้รถครั้งแรก
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก CRF450RL กันก่อน เอนดูโร่ไบค์ตัวแรง นำเข้าใหม่ล่าสุดได้นรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากรถแข่งอย่างเต็มรูปแบบ ติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 449 ซีซี Unicam OHC ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำคู่ พร้อมพัดลมไฟฟ้า ตัวรถน้ำหนักเบา ควบคุมง่าย คล่องตัว ด้วยโครงสร้างเฟรมและสวิงอาร์มแบบอลูมิเนียม ถังน้ำมันไทเทเนียมความจุ 7.6 ลิตร แข็งแรงและน้ำหนักเบา รวมถึงแบตเตอรีลิเธียมขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาเช่นเดียวกัน โดยรวมตัวรถมีน้ำหนักเพียง 131 กก.
ด้านการควบคุมแม่นยำด้วยแฮนด์บาร์ยี่ห้อ RENTHAL งานอลูมิเนียมเมดอินอิงแลนด์ เกรดเดียวกับรถแข่ง มีนวมกันกระแทกและการ์ดแฮนด์ Knuckle Guard ให้พร้อมเสมือนตัวแข่งจริงๆ ที่สำคัญคือ รองรับการขี่ลุยทุกรูปแบบ ด้านระบบช่วงล่าง หน้า-หลังใช้แบรนด์ SHOWA โช้กอัพหน้าแบบอัพไซด์ดาวน์ขนาด 49 มม. เยี่ยมสุดๆ ด้วยการปรับตั้งค่าได้อย่างละเอียดทั้ง Pre-Load, Compression และ Rebound Damping หน้าและหลังเลย นอกจากนี้ล้อซี่ลวด DID น้ำหนักเบา หน้า 21 นิ้ว - หลัง 18 นิ้ว มีการ์ดกันกระแทกใต้ท้องเครื่องยนต์ รวมทั้งที่ดิสก์เบรก ช่วยปกป้องเวลาลุยทุกทางหินและกรวดได้ดี
ช่วงการทดสอบขี่ ทางผู้จัดมีรถ
CRF450RL ให้ทดสอบต่อกลุ่มทั้งหมด 5 คัน แบ่งเป็น 4 กลุ่มได้ขี่กลุ่มละ 2 ช่วง เช้า-บ่าย โดยแต่ละช่วงขี่กันทั้งหมด 2 รอบ (รอบประมาณ 4.9 กม.) ผู้เขียนได้อยู่ในกลุ่มที่ 4 สภาพอากาศวันทดสอบร้อน สภาพเส้นทางการทดสอบที่จัดเป็นทางขี่ส่วนใหญ่เป็นดิน ทราย กรวด และหิน มีความหลากหลายให้ได้ลองทั้งทางลาดลง เนิน ทางแคบ ทางทรายร่วน
การขี่ในช่วงเช้า 2 รอบ ระยะทางกว่า 9 กม. แม้ดูไม่มากแต่สำหรับการขี่เอนดูโร่ก็นับว่าไม่น้อยเลย หลังคร่อมตัวรถที่เบาะสูงถึง 944 มม. ผู้เขียนที่สูง 171 ซม. ใส่บูธอัลไพน์สตาร์เทค 10 ก็ต้องเขย่งข้างประคองรถไว้ตอนจอดพร้อมออกตัว แต่เมื่อรถลอยออกไปแล้วก็โอเค การขี่มักยืนสลับนั่งไปตลอดเส้นทาง ช่วงแรกมีอาการดับบ่อยระหว่างเลี้ยงรอบและเปลี่ยนเกียร์ ด้วยความที่น้ำหนักก้านมือคลัตช์ค่อนข้างแข็ง ต้องขี่ไปปรับตัวไปพอสมควร การขี่ผ่านพื้นผิวที่มีความต่างกันหลากหลาย ในใจผู้ขี่ก็อดหวั่นไม่ได้หลายจังหวะว่าเราจะผ่านไปได้จริงหรือ ... แต่ด้วยคอนเซปต์ All Ways Unlimited ให้ทุกทาง...ไร้ขีดจำกัด ตัวรถฮอนด้า CRF450RL สามารถผ่านไปได้ง่ายๆ อย่างน่าประทับใจมากๆ ไม่ว่าร่องขวาง เบี่ยง ลึกตื้น ทรายร่วน หินลอย ดินแตก หญ้าแห้ง ฯลฯ ทีนี้พอมั่นใจว่ารถสามารถผ่านสิ่งเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายแล้ว ก็คลายความกังวลไปได้มาก หันมาสนุกกับการขี่ พร้อมเพิ่มความเร็วได้มากขึ้น โดยเฉพาะช่วงบ่ายหลังพักกลับออกมาขี่ใหม่
ช่วงบ่ายการขี่ 2 รอบ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะสนุกไปกับการขี่ได้จริงๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะระบบช่วงล่างที่ดีมากๆ เวลาโดดลงตัวรถสามารถรักษาสมดุลให้ไปต่อได้สบาย หรือในจังหวะต่างๆ ก็เช่นกัน ด้วยนำหนักที่เบาเพียง 131 กก. ทำให้การควบคุมรถทำได้ง่าย จริงๆก็เป็นเรื่องธรรมดาของเอนดูโร่ไบค์ มีเพียงแค่สปีดการเลี้ยวที่ผู้เขียนไม่ชำนาญมากพอที่จะสไลด์เข้าเหมือนนักขี่ประสบการณ์สูง การขี่ทดสอบครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนยูสเซอร์ใหม่ที่มีประสบการณ์ขี่รถเอนดูโร่มาพอสมควร ไม่ใช่ฮาร์ดเอนดูโร่ แต่ก็สามารถสนุกไปกับ
CRF450RL ได้อย่างไม่เคอะเขิน แม้จะเป็นรถกึ่งสูตรก็ตาม และพอใจกับการควบคุมตัวรถตลอดการทดสอบที่ไม่มีล้มกลิ้งไปคลุกดินทรายเล่นเหมือนอย่างที่หวั่นเกรงก่อนการขี่ นับเป็นเอนดูโร่ไบค์ ที่น่าสัมผัส ถ้าไลฟสไตล์คือ ลุยเป็นหลัก
CRF450RL ก็น่าจะเป็นรถคู่ใจคันใหม่ของสายลุยหลายคน
สรุป อรรถรสการขี่ครั้งแรกกับฮอนด้า
CRF450RL ในสนามทดสอบจำลองที่เน้นทางฝุ่นและทรายล้วน นับว่าให้ความสนุกสนานและประทับใจเป็นอย่างมาก แม้ไม่ใช่ผู้ที่คลุกคลีอยู่กับแนวเอนดูโร่ก็ตาม แต่ด้วยมุมมองแบบยูสเซอร์ใหม่ที่อยากเข้ามาสัมผัสฮอนด้า
CRF450RL ดูว่าเอนดูโร่ไบค์ สายพันธ์แชมป์ ที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น แล้วนำเข้ามาขายนั้น พบว่าสมรรถนะตัวรถโดดเด่นกับเส้นทางแบบนี้ชัดเจน และดูเหมาะกับไว้วิ่งทางฝุ่นล้วนมากกว่า เพราะเป็นรถที่พัฒนามาจากรถสูตร CRF450RX ที่ทุกอย่างเหมือนกันเกือบหมดโดยเฉพาะภายนอกที่ต่างแค่ 450RL มีไฟหน้าและหางติดป้ายทะเบียน น้ำหนักตัวที่ 131 กก. ซึ่งเทียบกับรถทั่วไปในคลาสเดียวกันนับว่าให้แรงบิดต่อน้ำหนักยอดเยี่ยม ความต่างจากรถสูตรจริงๆ คือ 450RL ได้รับการปรับแต่งให้ขี่ง่ายกว่าด้วยแรงบิดที่เริ่มดึงตั้งแต่ประมาณที่ 3,500 รอบต่อนาทีเท่านั้น ต่างจากรถสูตรที่เน้นรอบสูง แล้ว 450RL เหมาะกับใคร ... เหมาะกับผู้ที่ต้องการรถไปใช้แข่งอันนี้แน่นอน และได้ราคาที่ดีด้วย (339,000 บาท), ผู้ที่ชอบขี่เอนดูโร่ลุยเส้นทางธรรมชาติในวันว่างกับพรรคพวก และการที่รถมีไฟหน้า มีทะเบียน ก็อาจเพิ่มความสะดวกให้กับหลายคน เพราะขี่ออกจากบ้านไปได้เลย ส่วนผู้ที่อยากนำไปทำเป็นรถโมตาร์ดก็น่าจะได้พื้นฐานตัวรถที่ดีไปปรับแต่งเพิ่มเติมได้สบาย อย่างไรก็ตาม มุมมองผู้เขียน
CRF450RL เป็นรถที่ผู้ขี่ต้องมีทักษะและประสบการณ์ด้านเอนดูโร่มาพอสมควร ถึงจะเข้าถึงและสนุกไปกับตัวรถได้อย่างเต็มที่มากกว่า
CRF450RL สุดยอดรถเอ็นดูโร่ไบค์รุ่นล่าสุดในตระกูล CRF Series คือ รถโปรดักชันไบค์ระดับท็อปคลาสที่ใช้พื้นฐานเดียวกับรถแข่งที่คว้าแชมป์โมโตครอสชิงแชมป์โลก MXGP ถึง 2 ปีซ้อน(2019-2020) รวมถึงแชมป์ดาการ์ แรลลี 2 ปีซ้อนเช่นกัน(2020-2021) โดยตัวรถได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซปต์ "All Ways Unlimited ให้ทุกทาง...ไร้ขีดจำกัด" รูปลักษณ์โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ให้ความดุดันในสไตล์ออฟโร้ด ไฟหน้าโฉบเฉี่ยวทันสมัย All LED แบบ Hexagon ส่องสว่างชัดเจน หน้าจอ Digital Meter แสดงฟังก์ชันครบถ้วนทุกรายละเอียด