รีวิว Honda X-ADV แอดเวนเจอร์ไบค์ แนวใหม่ สบายกว่าที่เคย

Honda X-ADV แอดเวนเจอร์ไบค์สไตล์ใหม่ นับเป็นบิ๊กไบค์ในคลาส 750 ซีซี ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นและแปลกตา นับตั้งแต่เปิดตัวมาในไทยก็ได้รับการตอบรับจากกลุ่มนิยมมอเตอร์ไซค์แนวท่องเที่ยวมาตลอด โดยเฉพาะผู้ที่อยากได้รถที่ขี่ง่าย คุมง่าย แต่ลุยได้ ซึ่งในตลาดไม่มี ด้วยความที่รูปทรงเหมือนสกู๊ตเตอร์คันใหญ่ แต่ก็นับเป็นสกู๊ตเตอร์ไม่เหมาะเพราะเครื่องยนต์วางตำแหน่งเยื้องด้านหน้าและใช้โซ่ขับเคลื่อนเหมือนมอเตอร์ไซค์ทั่วไป นับเป็นความแปลกใหม่ไม่น้อย ทีมงานมอเตอร์ไบค์กูรูได้รับโอกาสอันดีจากทาง เอพี ฮอนด้า ให้รถ X-ADV มาทดสอบ และเราก็พบว่า ... 

ด้านสเปคขุมพลังของ X-ADV คือ ตัวเดียวกับที่อยู่ในรุ่น NC750X (364,000 บาท) แม้จะมีราคาค่าตัวแพงกว่า (415,000 บาท) ราว 5 หมื่นบาท แต่ก็นับว่าใช้งานเด่นกว่าในหลายด้าน โดยเฉพาะความสะดวกสบาย

รายละเอียดเครื่องยนต์พื้นฐานขนาด 745 ซีซี 2 สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 54 แรงม้า ที่ 6,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 68 นิวตันเมตร ที่ 4,750 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์ DCT 6 สปีด รุ่นล่าสุดจากฮอนด้า เลือกได้ทั้งขี่แบบออโต้ หรือชิฟต์เกียร์ขึ้น-ลงเอง ส่วนระบบช่วยเหลือต่างๆ ก็มีมาให้ครบถ้วน เช่น Traction Control, รบบเบรก ABS

ส่วนฟังก์ชันอำนวยความสะดวกอันโดดเด่นก็มี 1 ระบบคีย์เลส แค่พกกุญแจรีโมทไว้กับตัวก็เลือกบิดสวิตช์กดสตาร์ทออกรถได้เลย, หน้าจอแสดงผลแนวแรลลี่ก็ดูสวยงามมองได้ชัดเจน ใต้เบาะนั่งมีจุดจ่ายไฟ 12v และระบบช่วยทรงตัวช่วงความเร็วต่ำ ด้านระบบไฟส่องสว่างเป็นแบบ LED ทั้งคัน

ด้วยเบาะนั่งที่กว้างดูสบาย ท่านั่งต้องวางเท้าเยื้องไปด้านหน้า ส่วนน้ำหนักตัวถ่ายลงมาด้านหลัง อาจส่งผลบ้างสำหรับบางคนถ้าต้องใช้ขี่ท่องเที่ยวทางไกลนานๆ ส่วนตำแหน่งผู้ซ้อน ถ้าเน้นเดินทางไกลการเพิ่มถังเก็บของด้านท้ายก็จะช่วยให้สบายขึ้นเพราะได้เอน หรือไว้บล็อคหลังตอนรถกระชากออกตัวหรือเร่งแซงในบางจังหวะ 

ชุดล้อด้านหน้าใช้ขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 120/70 หลังขนาด 15 นิ้วรัดด้วยยางขนาด 160/60 ส่วนช่วงล่างด้านหลังเป็น Prolink with Rear Shock Preload adjustment รวมน้ำหนักทั้งคัน 238 กก.

หน้าจอแสดงข้อมูลใหญ่มองง่ายทั้งกลางวันและกลางคืน ออกแบบสไตล์รถแรลลี่ที่หน้าจอกลางใหญ่แสดงตัวเลขความเร็ววางตำแหน่งตรงกลางโดยมีระดับวัดรอบล้อมไว้

สมาร์ทคีย์มีระบบอิโมบิไลเซอร์ในตัว ถ้าบิดตำแหน่ง start วงแหวนก็จะมีไฟแบล็คไลท์โชว์

มันคงดูไม่สมแนวแอดเวนเจอร์ถ้าไม่มีแฮนด์การ์ด อย่างน้อยก็ช่วยกันลมเย็นในช่วงหนาว และป้องกันเศษหินหรืออื่นๆ ลอยมากระทบเวลาวิ่งออฟโร้ด

ปุ่มปรับตำแหน่งเกียร์ เลือก S สปอร์ต D ธรรมดา และ N ว่าง ใช้งานง่าย

ชิลด์หน้าปรับเองได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ส่วนระดับที่ปรับขึ้นเวลาเดินทางไกลจะต่างกับระดับปกติอยู่ 136 มม.

เบาะนั่งเปิดออกและค้างไว้สะดวกด้วยโช้กอัพรองรับ

พื้นที่ว่างใต้เบาะของ X-ADV จุสัมภาระได้มากถึง 21 ลิตร นับเป็นจุดเด่นจากรถแนวสกู๊ตเตอร์ ทำให้ใส่หมวกกันน็อคเต็มใบ ถุงมือ ได้สบายๆ นอกจากนี้ยังมีไฟส่องสว่างแบบ LED ด้วย

ระบบไฟส่องสว่างด้านหน้า LED ทรงเรียงออกแบบฝังอยู่ในแฟริ่งด้านหน้าเสมือนชิ้นเดียวกัน ระหว่างไฟทั้ง 2 ข้างแยกด้วยกระจังลายตาข่ายเพิ่มความดุดัน

ไฟท้าย LED วางตำแหน่งรองรับไฟเบรก ถัดขึ้นไป อักษร HONDA ให้คนที่ตามหลังไม่ต้องสงสัยว่าเป็นรถยี่ห้ออะไร

ตำแหน่งเติมน้ำมันเหมือนสกู๊ตเตอร์ไม่น้อย

นั่งสบายรองรับผู้ซ้อนได้จริง นั่งนานก็ยังสบาย วัสดุหุ้มเบาะดูพรีเมียม ความสูงของเบาะสำหรับผู้เขียนที่สูง 173 ซม. ก็ใช้งานในเมืองลุยรถติดได้ไม่ลำบากแม้ต้องซอกแซกหรือหยุดบ่อย

จานเบรกหน้าขนาด 310 มม. พร้อมระบบเบรก ABS

ชุดยางหน้า-หลังเป็นแบบ Dual Sport ใช้ของ Bridgestone รุ่น TW152 Trail Wing

ผู้เขียนใช้เวลากับ X-ADV อยู่ 4 วัน เป็นการขี่ในเมือง 3 วัน และนอกเมือง 1 วัน โดยการขี่ในเมืองทั้ง 3 วัน นับเป็นการตัดสินใจครั้งแรกที่นำรถคลาสใหญ่มาลองใช้งานในชีวิตประจำวันพร้อมผู้โดยสารซ้อนท้าย ! เส้นทางเริ่มจากย่านเกษตร ผ่านถนนวิภาวดี วิ่งตัดเข้าไปทางหมอชิตออกไปทางตลาด อ.ต.ก. แล้ววิ่งเข้าเส้นพระราม 6 ตัดเข้าสู่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เข้าบรรทัดทอง ออกพระราม 4 แล้วเข้าเส้นสี่พระยาไปถนนเจริญกรุงส่งผู้โดยสาร แล้วตัดเข้ามาถนนสีลม ตัดออกไปทางถนนวิทยุ มาจบที่อาคารอัลม่า ลิงค์ ชิดลม อันเป็นกองบัญชาการของ MotorBike GURU นี่คือ เส้นทางตอนเช้าที่ต้องฝ่ารถติดและเจอแยกไฟแดงมากมาย ขณะที่ขากลับผู้เขียนเริ่มต้นจากชิดลมมุ่งหน้าสีลมรับผู้โดยสารซ้อนท้ายและย้อนกลับมาทางราชประสงค์ ประตูน้ำ เพื่อมุ่งออกดินแดง เข้าสู่ถนนวิภาวดีรังสิตขี่ยาวไปจบที่เกษตร ซึ่งขากลับก็เจอสภาพการจราจรหนาแน่นเช่นกัน 

สรุปการใช้งาน Honda X-ADV ในชีวิตประจำวันทั้งไป-กลับตลอด 3 วัน นับว่าผ่านไปด้วยดี แม้ตัวรถใหญ่ แต่ด้วยดีไซน์แบบสกู๊ตเตอร์ทำให้ไม่โดนไอความร้อนจากเครื่องยนต์เวลาหยุดเดินเบา ผู้เขียนปรับชิลด์ลงตำแหน่งต่ำเพื่อให้อากาศไหลปะทะได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้การเร่ง-หยุดตามสภาพการจราจรก็สะดวกเพราะเป็นเกียร์ DCT จึงแค่บิดกับบีบก้ามเบรก แม้ตัวรถหนัก 238 กก. เมื่อรวมกับผู้เขียนและคนซ้อนก็ราว 350 กก. แม้ต้องขี่เลาะเลี้ยวหาช่องว่างแทรกตัวขึ้นไปข้างหน้าบ่อยครั้งก็ยังทำได้ไม่ลำบาก และครั้งหนึ่งที่จอดติดไฟแดงอยู่แถวหน้า ตำรวจขี่มอเตอร์ไซค์มาประกบข้างผู้เขียน พร้อมหันมาคุยด้วยว่า เพิ่งเคยเห็น X-ADV ตัวจริงบนถนนในเมืองเป็นครั้งแรก ส่วนตัวชอบและอยากได้ไว้ออกทริป เล่นเอาผู้เขียนทึ่งในความมีสเน่ห์ของ X-ADV ไม่น้อย สำหรับการใช้งานในเมืองที่ความเร็วเฉลี่ยอยู่ 20 กว่า กม./ชม. ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ก็ไม่เกิน 120 กม./ชม. การเบรกส่วนใหญ่เป็นการชะลอ-หยุดช่วงความเร็วต่ำ-ปานกลาง นับว่าทำได้ดีแม้แบกภาระน้ำหนักตัวเยอะ 

ส่วนการใช้งานนอกเมืองผู้เขียนใช้เส้นทางเกษตร - สามโคก จังหวัดปทุมธานี ขี่ไปโดยมีทีมงานช่างภาพซ้อนท้ายไปด้วย เมื่อถึงจุดพักในอำเภอสามโคก ช่างภาพหันมาบอกว่าคันนี้นั่งสบายกว่าที่ผ่านมาเยอะเลย ผู้เขียนได้ลองทั้งทางเรียบและทางฝุ่น การขี่บนถนนดำเปิดโล่ง พร้อมปรับชิลด์ขึ้นเพื่อบังลมปะทะ แต่ดูเหมือนตำแหน่งของชิลด์บนจะอยู่ในระดับสายตาผู้เขียนซึ่งสูง 173 ซม. พอดี ทำให้ต้องปรับตำแหน่งนั่งช่วยนิดหน่อย อัตราเร่งของ X-ADV อาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญ การเร่งต่อเนื่องสังเกตุช่วงเฟืองเกียร์ที่ปรับเปลี่ยนสอดรับตามความเร็วค่อนข้างสมูธ อย่างไรก็ตามมีโหมด S ให้ปรับ และ manual ที่ชิฟต์เกียร์เอง ผู้เขียนลองสลับใช้ระหว่างขี่พบว่า D โหมดน่าให้ความสบายที่สุดบนถนนดำทั่วไป เมื่อลองลุยเข้าทางฝุ่น การปรับมาใช้ manual ช่วยให้การปรับเปลี่ยนเกียร์เป็นไปตามความต้องการมากขึ้น การตอบสนองจัดว่ารวดเร็วพอ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องเจออุปสรรคเนินหรือแอ่งใหญ่ การยืนขี่ดูจะไม่สะดวกมากนัก ไม่เหมือนกับมอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์หรือเอนดูโร่จริงๆ เพราะไม่สามารถหนีบตัวถังได้ แต่ X-ADV ก็ออกแบบให้การนั่งขี่บนทางฝุ่นทำได้ดีพอสมควร ด้วยสมรรถนะและระบบช่วยเหลือที่มีของตัวรถ การขี่ท่องเที่ยวบนทางฝุ่นทั่วไปก็เอาอยู่ ต้องไม่ลืมว่า X-ADV เปรียบเสมือนสกู๊ตเตอร์ดูอัลสปอร์ต ระดับพรีเมียมที่เน้นใช้งานง่ายและสะดวกสบายกับการนั่งขี่มากที่สุด 

Honda X-AV นับตั้งแต่เปิดตัวก็สร้างความแปลกใหม่ให้กับตลาดบิ๊กไบค์ โดยเฉพาะกลุ่มแอดเวนเจอร์ที่นับวันได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดกับการจัดทริปท่องเที่ยวทางไกลที่มีทั้งในและต่างประเทศให้เลือกอยู่ตลอดทั้งปี ทำให้เกิดกลุ่มผู้ขี่รุ่นใหม่ๆ ที่อยากลองแนวนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ผู้เขียนมองว่า X-ADV เป็นรถที่ยึดหยุ่นได้ทั้งขี่ในเมืองและทางไกลแบบออน-ออฟโร้ด ด้วยสมรรถนะขุมพลังจากรุ่น NC750X และเทคโนโลยีเกียร์ DCT ล่าสุดจาก CRF1000L Africa Twin ผสานอยู่ในดีไซน์แบบสกู๊ตเตอร์ ทำให้ X-ADV เป็นรุ่นที่สามารถใช้เริ่มต้นขี่ท่องเที่ยวได้เลย

นอกจากนี้ตัวรถยังเอื้อให้ใช้งานในเมืองได้มากกว่าแอดเวนเจอร์ไบค์ทั่วไปมาก สำหรับผู้ที่มองรถใช้งานได้แบบ all round รวมไปถึงความสามารถด้านออฟโร้ด ฮอนด้า X-ADV นับเป็นตัวเลือกที่โดดเด่น คือ วันนี้คุณขี่ไปทำงาน วันรุ่งขึ้นคุณก็ยังขี่ไปออกทริปทางไกลกับเพื่อนได้ ด้วยราคา 415,000 บาท กับคุณภาพรถนำเข้าจากญี่ปุ่น คันเดียวจบได้ทั้งใช้งานและเที่ยว ก็น่าจะเป็นเหตุผลที่ดีพอสำหรับใครหลายคนในการครอบครอง 

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น HONDA X-ADV

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่นมอเตอร์ไซค์ HONDA ทุกรุ่น