เจ้าหนี้มีเฮ! เก็บเงินง่าย จ่ายเงินเร็ว กับบริการ Request to Pay ผ่าน Bualuang mBanking
วันนี้เรามีเรื่องใหม่มาบอก...บริการเรียกเก็บเงินรูปแบบใหม่ Request to Pay ที่สามารถแจ้งเตือนบุคคลอื่นเพื่อให้โอนเงิน หรือชำระเงินให้เรา โดยใช้บริการผ่าน Bualuang mBanking จากธนาคารกรุงเทพ บริการนี้รับรองถูกใจเจ้าหนี้ พ่อค้า แม่ค้าทั้งหลาย และใช้ได้กับนิติบุคคลอีกด้วย (จะดีแค่ไหน ที่ไม่ต้องไปทวงเงินด้วยตัวเอง จริงมั๊ยคะ?) เรามาทำความรู้จักบริการนี้กันหน่อยดีกว่า......
บริการเรียกเก็บเงิน (Request to Pay) คือ บริการที่ช่วยให้เราสามารถส่งข้อความแจ้งเตือนผ่านระบบพร้อมเพย์ไปยังผู้จ่ายเงิน เพื่อให้ผู้จ่ายเงินทำรายการโอนเงินหรือชำระเงินให้เราได้ สะดวกแบบนี้ เราไปดูกันค่ะว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
ขั้นตอนการเปิดใช้บริการ
หากใครสนใจรับความสะดวกจากบริการนี้ และยังไม่มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารกรุงเทพ สามารถไปติดต่อสาขาธนาคารที่เราสะดวกเพื่อขอเปิดบัญชีได้เลยนะคะ ส่วนลูกค้าที่มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารกรุงเทพ และใช้บริการผ่าน Bualuang mBanking อยู่แล้ว สามารถเข้ามาที่แอปพลิเคชั่น และดำเนินการตามขั้นตอนนี้ได้เลย
1. เลือกเมนู "เพิ่มเติม" และเลือก "ตั้งค่าพร้อมเพย์/การเรียกเก็บเงิน"
2. เปิดใช้การเรียกเก็บเงินในแต่ละหมายเลขพร้อมเพย์ที่ลงทะเบียนกับธนาคารกรุงเทพ เช่น เลขประจำตัวประชาชน และ/หรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ โดยเมื่อเปิดใช้บริการแล้วเราจะสามารถส่งและรับรายการเรียกเก็บเงินได้
ขั้นตอนการส่งรายการเรียกเก็บเงิน
สำหรับขั้นตอนการส่งรายการเรียกเก็บเงิน อาจจะมีหลายขั้นตอนหน่อย แต่ไม่ยากเลยค่ะ และที่สำคัญไม่ต้องไปทวงเงินเองด้วย ดีตรงนี้!!!!
1. เลือกเมนู "โอนเงิน" และเลือก "เรียกเก็บเงิน"
2. ระบุรายละเอียดการเรียกเก็บเงิน ได้แก่ หมายเลขพร้อมเพย์ที่ลงทะเบียนด้วยเลขประจำตัวประชาชน หรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้ที่เราจะส่งเรียกเก็บเงิน จำนวนเงิน วันหมดอายุ และบันทึกช่วยจำ (ถ้ามี)
หมายเหตุ: ระบุจำนวนเงินที่จะเรียกเก็บได้ไม่เกิน 200,000 บาทต่อรายการ และเลือกจำนวนวันหมดอายุได้สูงสุด 30 วัน
3. เลือกหมายเลขพร้อมเพย์เพื่อรับเงิน โดยเราจะได้รับเงินจากผู้ที่เราจะเรียกเก็บเงินผ่านบัญชีที่เลือก
4. ตรวจสอบรายละเอียดการเรียกเก็บเงิน เมื่อเลือก "ส่งเรียกเก็บ" แล้วจะไม่สามารถยกเลิกการส่งได้
5. หน้าจอแสดงผลการทำรายการเรียกเก็บเงิน
6. เราสามารถดูรายละเอียดการเรียกเก็บเงินที่ส่งออกไปได้โดย
6.1 เลือกเมนู "โอนเงิน" และเลือก "เรียกเก็บเงิน"
6.2 เลือก "ประวัติ" และเลือกดูรายละเอียดการเรียกเก็บเงินที่เราต้องการ
6.3 หน้าจอแสดงรายละเอียดการเรียกเก็บเงิน
ขั้นตอนเมื่อได้รับรายการเรียกเก็บเงิน
สำหรับการแจ้งเตือนเมื่อเราได้รับรายการเรียกเก็บเงิน ก็จะแสดงผลเหมือนกับการรับข้อความ SMS, Line หรือ email ผ่านทางโทรศัพท์มือถือเลยค่ะ
1. เราสามารถแตะที่ Push Notification จากนั้นกรอก Mobile PIN เพื่อดูรายละเอียดการเรียกเก็บเงินหรือ Log on แล้วเลือกถาดข้อความในหน้าบัญชี จากนั้นเลือก "รายการเรียกเก็บเงิน" เพื่อดูรายละเอียดการเรียกเก็บเงิน
2. เลือก "จ่ายเงิน" โดยหน้าจอโอนเงินพร้อมเพย์ หรือจ่ายบิล จะปรากฏขึ้นเพื่อให้เราทำการจ่ายเงิน
กรณีโอนเงินพร้อมเพย์ - จะโอนเงินตามจำนวนที่เรียกเก็บ กลับไปยังพร้อมเพย์ของผู้เรียกเก็บเงิน
กรณีจ่ายบิล - จะชำระเงินตามจำนวนที่เรียกเก็บ กลับไปยังบริษัทผู้รับชำระ (Bill Payment) ที่เรียกเก็บเงิน
3. ตรวจสอบความถูกต้องของรายการ เลือกส่ง SMS เพื่อแจ้งผู้เรียกเก็บเงิน จากนั้นคลิก "ต้องการ" เพื่อทำรายการต่อ
4. ยืนยันผลรายการการจ่ายเงินกลับ เราสามารถเลือกบันทึก/แชร์ภาพ ผลการทำรายการให้ผู้เรียกเก็บเงิน
5. เมื่อจ่ายสำเร็จ รายการเรียกเก็บเงินนั้นจะเปลี่ยนสถานะเป็น "จ่ายแล้ว" โดยเราสามารถดูสถานะของรายการเรียกเก็บเงินที่ได้รับโดย
5.1 เลือกถาดข้อความในหน้าบัญชี
5.2 เลือก "รายการเรียกเก็บเงิน" เพื่อดูรายละเอียด และสถานะการเรียกเก็บเงินที่ต้องการ
หมายเหตุ: กรณีเลือก "ปฏิเสธ/จ่ายเงิน ผ่านช่องทางอื่นแล้ว" รายการเรียกเก็บเงินนั้นจะเปลี่ยนสถานะเป็น "ปฏิเสธ" และไม่สามารถทำรายการได้อีก และรายการเรียกเก็บเงินที่หมดอายุจะเปลี่ยนสถานะเป็น "เกินกำหนด" และไม่สามารถทำรายการได้อีก
เป็นอย่างไรบ้างคะ แค่อ่านดูก็รู้สึกว่าสะดวก และง่ายมากๆ เลย และยิ่งสำหรับใครที่เพื่อนๆ ชอบยืมเงิน ชอบชวนไปกินข้าวแล้วให้เราจ่ายไปก่อน แต่กว่าจะเอาเงินมาจ่ายคืนให้เราก็นานเหลือเกิน เราก็อายไม่กล้าจะไปทวง ทั้งๆ ที่มันเป็นเงินของเรา! ต่อไปนี้ เราจะไม่ต้องไปทวงเงินเองอีกแล้ว บริการนี้แหละที่ใช่! ที่สุด ใครที่มักตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็คงชอบบริการ Request to Pay นะคะ :)