มาตั้งเป้าหมายชีวิตในปี 2561 กันเถอะ
ปลายปีแบบนี้ ใครที่เป็นพนักงานประจำก็จะได้เงินก้อนโตจากโบนัสประจำปีกันแล้ว และเพื่อนๆ ได้วางแผนกันหรือยังคะว่าจะเอาเงินจำนวนนั้นไปทำอะไร และได้มีการวางแผนต่อไปถึงเป้าหมายใหม่ในปี 2561 กันหรือยัง? ถ้ายัง....เรามาเริ่มต้นไปพร้อมๆ กันนะคะ
โบนัสปลายปี อย่า! มีแต่จ่าย จ่าย จ่าย
เริ่มกันที่เงินก้อนโตก้อนแรกก่อนปี 2561 กันนะคะ "โบนัส ประจำปี" ซึ่งแต่ละที่ก็จะได้ มาก-น้อยแตกต่างกันไป ตามผลประกอบการของบริษัท และตาม KPI ในการทำงานของเรานะคะ แต่ไม่ว่าจะได้มากหรือได้น้อย เราก็ต้องจัดสรรเงินก้อนนี้อย่างระมัดระวัง อย่าปล่อยให้เราต้องมานั่งจ่ายหนี้ที่เราก่อไว้ล่วงหน้าจนหมดนะคะ
รายจ่ายที่พึงระวัง - ซื้อรถยนต์ : ได้เงินก้อนมาส่วนใหญ่คนก็มักจะเอาไปดาวน์รถยนต์กัน แต่เพื่อนๆ อย่าลืมนะคะว่า ซื้อรถ มีแต่ลดๆๆ เพราะรถเป็นทรัพย์ที่ไม่มีการเพิ่มมูลค่า และยังมีค่าบำรุงรักษาที่ต้องจ่ายอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นค่าประกัน ค่าต่อทะเบียน ค่าน้ำมัน ค่าเช็คระยะ ค่าซ่อมแซม เป็นต้น
- ซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด : ของที่ไม่จำเป็นแต่เราทำกันเหมือนว่าจะขาดไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ โทรศัพท์มือถือนี่เองค่ะ ที่ไม่ว่าจะออกรุ่นไหน แพงเท่าไหร่ ใครๆ ก็อยากจะไปซื้อหาจับจองมาเป็นเจ้าของกัน แต่เลือกเท่าที่จำเป็นจริงๆ จะดีกว่าค่ะ ถ้าของเก่ายังใช้ได้ดีอยู่ก็ข้ามๆ รุ่นไปบ้างก็ได้ค่ะ ไว้รุ่นใหม่ออกมาแล้วของเราเสีย ค่อยซื้อจะดีกว่าเนอะ
- ซื้อของแบรนด์เนม : ใครๆ ก็ชอบใช้ของแบรนด์เนม เพราะนอกจากแสดงออกถึงความมีรสนิยมแล้วของแบรนด์เนมจะมีคุณภาพดีอีกด้วย แต่ถ้าเงินในกระเป๋าเรามีน้อยก็หาของอื่นมาใช้ทดแทนกันได้นะคะ
- การเลี้ยงสังสรรค์ : ยิ่งช่วงเทศกาลก็จะมีการเลี้ยงสังสรรค์ การไปทานอาหารนอกบ้าน ซึ่งแต่ละร้านก็ราคาแพงๆ ถ้าจะให้ดีก็อย่าไปบ่อยๆ หรือจะทำอาหารทานกันเองที่บ้านก็จะช่วยให้เราประหยัดเงินได้มากขึ้นนะคะ
เริ่มต้นการออมไปพร้อมกันในปี 2561
การตั้งเป้าหมายการออม ให้ตั้งเป้าหมายที่เราอยากจะได้ ไม่ใช่เป้าหมายที่เราพอจะทำได้ เพราะถ้าเราทำสำเร็จจะถือเป็นก้าวแรกที่สวยงาม และจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เราอยากออมมากๆ ขึ้นไปอีกค่ะ เรามาดูเคล็ดลับการออมง่ายๆ กันนะคะ และเพื่อนๆ สะดวกวิธีไหนก็หยิบไปลองใช้กันดูค่ะ
อยากมีเงินแสนในปี 2561 ต้องทำอย่างไร - ออมก่อนใช้ : วิธีง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำกัน โดยเราต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่เราตั้งใจจะเก็บออม และส่วนที่เราจะใช้จ่าย แยกแบบเด็ดขาด ชัดเจนไปเลยนะคะ
- ออมขั้นต่ำให้ได้ : สำหรับจำนวนเงินขั้นต่ำที่ทุกคนควรออมได้ในแต่ละเดือน คืออย่างน้อย 10% ของรายได้ที่ได้รับ
- คิดค่าใช้จ่ายล่วงหน้าให้เป็น : หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายจริงๆ ในแต่ละเดือน เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น และกันเงินส่วนนี้ออกมาไว้ก่อนเลยนะคะ
- มีเงินเหรียญให้รีบออม : ในแต่ละวันถ้าเพื่อนๆ ได้เงินเหรียญมาก็พยายามอย่าใช้นะคะ เอาไปหยอดกระปุกเก็บไว้ทุกวันๆ แล้วพอสิ้นเดือนเพื่อนๆ เปิดกระปุกออกดูจะต้อง ว้าว กับพลังเหรียญอย่างแน่นอนค่ะ
- แบงก์ 50 ได้มาอย่าใช้ : วิธีนี้เป็นวิธีที่หลายๆ คนทำกันอยู่อย่างแน่นอนค่ะ ลองเก็บกันดูนะคะว่าจะได้ปีละเท่าไหร่
- เก็บเงินเพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์ : เช่น สัปดาห์แรก ถ้าเราเริ่มเก็บได้ยอด 500 บาท สัปดาห์ถัดไปก็พยายามเก็บเพิ่มให้ได้เป็น 1,000 บาท และก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เดือนหนึ่งก็ได้หลายพันบาทแล้วนะคะ
- ซื้อเท่าไหร่ออมเท่านั้น : หากเราซื้อของที่เราอยากได้ ขอให้เราแบ่งเงินจำนวนเท่ากับค่าของชิ้นนั้นมาออมเพิ่มด้วย นอกจากเราจะได้เงินออมเพิ่มแล้ว ของที่เราซื้อมาจะยิ่งมีคุณค่าทางจิตใจต่อเรามากยิ่งขึ้นนะคะ
- หาแหล่งเก็บเงินออมที่ดีที่สุด : เมื่อเรามีการเก็บออมในวิธีที่เราเลือกในแต่ละเดือนแล้ว เงินที่ได้อาจแบ่งกระจายไปยัง 2 แหล่งนะคะ
1. ฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์ เพราะเมื่อเราเห็นยอดเงินที่เพิ่มขึ้นทุกเดือนๆ แล้วก็จะยิ่งทำให้เรามีกำลังใจในการออมมากขึ้น หรือ
2. หากยอดเงินที่ออมได้มากๆ เราอาจนำเงินจำนวนนี้แบ่งไปลงทุนในกองทุนรวม หุ้น หรือช่องทางการลงทุนที่เราถนัดก็จะยิ่งได้เงินเพิ่มขึ้นแบบเท่าทวีอีกด้วยนะคะ
อายุเท่านี้...ควรมีเงินออมเท่าไหร่?
เป็นคำถามที่หลายคนน่าจะอยากรู้คำตอบ ว่าเราทำงานมาจนอายุเท่านั้น เท่านี้แล้ว เราต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม วันนี้ เช็คราคามีวิธีการคำนวณเงินออมที่เหมาะสมมาฝากค่ะ
สูตรคำนวณจาก www.set.or.th
ตัวอย่างการคำนวณเงินออมตามช่วงอายุ และรายได้ประมาณการต่อปี
ถ้าเราสามารถจัดสรรรายได้ของเราแบบนี้แล้ว รับรองว่า เป้าหมายชีวิตในปี 2561 ที่ตั้งไว้ ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนค่ะ แล้วเราจะก้าวไปด้วยกัน เช็คราคาเป็นกำลังใจให้นะคะ :)