รีวิวบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท (Be 1st Smart Rabbit)
กลับมาพบกันอีกครั้งกับการรีวิวบัตรธนาคารค่ะ ในครั้งนี้เราจะมาทำการรีวิวน้องใหม่ของหมวดการเงินอย่าง
"บัตรเดบิต" และพอดีกับรุ่นพี่ที่ออฟฟิศได้ไปเปิดบัญชีพร้อมทำบัตรเดบิตมา เห็นว่าน่าสนใจดี เลยขอหยิบยืมมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ดูกันค่ะ บัตรเดบิตที่ว่านั้นก็คือ
บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท ธนาคารกรุงเทพ หลายๆ คนอาจคุ้นหน้าคุ้นตากันดี หรือบางคนกำลังสนใจที่จะสมัครบัตรนี้อยู่ ก็อาจเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเพิ่มขึ้น ซึ่งบัตรใบนี้ถือว่าเป็นบัตรเดียวที่รวมทุกไลฟ์สไตล์ของคนเมืองเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นได้ทั้งบัตรเดบิตวีซ่า บัตรเอทีเอ็ม บัตรโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) และรถด่วนพิเศษบีอาร์ที (BRT) ถ้าพร้อมแล้ว.. เราไปดูหน้าตาและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของบัตรกันเลยค่ะ
ทำความรู้จักกับบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท ธนาคารกรุงเทพ กันก่อน
ก่อนไปดูหน้าตาบัตรจริงๆ ลองมาทำความรู้จักกับบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท กันก่อนค่ะ โดยบัตรนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ
- บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท สำหรับบุคคลทั่วไป (บัตรลายกราฟฟิก สีส้ม) บัตรประเภทนี้จะให้บริการสำหรับผู้สมัครที่เป็นบุคคลธรรมดา ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยไม่จำกัดอายุสูงสุดของผู้สมัครบัตรค่ะ
- บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท สำหรับนักเรียน นิสิต และนักศึกษา (บัตรลายกราฟฟิก สีเขียว) ส่วนประเภทนี้จะให้บริการสำหรับผู้สมัครที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป แต่ต้องไม่เกิน 23 ปีบริบูรณ์ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของการออกบัตรแรบบิทสำหรับนักเรียน นักศึกษา ของบริษัท BSS
รีวิวหน้าตาและความสวยงามของตัวบัตรฯ
บัตรเดบิตนี้ไม่มีกล่อง package นะคะ พอเปิดบัญชีปุ้บ ก็ได้รับบัตรมาปั้บ.. หน้าตาก็เป็นแบบด้านล่างนี้เลยค่ะ
ข้อแนะนำ : หลังจากที่ได้รับบัตรมาแล้ว ควรเซ็นชื่อตรงส่วนของช่องลายเซ็นเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของไว้ค่ะ อาจจะช่วยได้ในหลายๆ กรณี เช่น
- ถ้าหากมีการลืมบัตรไว้ที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ แล้วทางธนาคารค้นเจอในตู้ จะสามารถทราบตัวของเจ้าของบัตร และโทรตามกลับมาให้รับบัตรใบเดิมได้ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการออกบัตรใหม่
- เนื่องจากบัตรนี้สามารถรูดซื้อสินค้าตามร้านค้าที่รับบัตรวีซ่าได้ ถ้าเจ้าของบัตรเซ็นชื่อไว้ ก็จะยากต่อการปลอมแปลงลายเซ็น แต่หากไม่เซ็นชื่อไว้เลย ก็จะง่ายต่อการปลอมลายเซ็น เพราะผู้ที่ขโมยบัตรไปจะเซ็นชื่อยังไงก็ได้ แต่หากเกิดกรณีบัตรหาย ผู้ถือบัตรต้องโทรไปอายัดบัตรในทันที
สิทธิประโยชน์โดดเด่นของบัตรฯ
มาต่อกันในส่วนของสิทธิประโยชน์ของบัตรกันค่ะ เราลองมาดูว่าบัตรเดบิตใบนี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง โดยจะแบ่งการใช้งานของบัตรออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนการบริการของธนาคาร และส่วนการบริการของแรบบิท ตามรายละเอียดด้านล่างนี้เลยค่ะ
ส่วนการบริการของธนาคาร
- ใช้บริการ ATM และทำธุรกรรมต่างๆ ที่เครื่อง ATM ได้
การทำธุรกรรมทางการเงินเดี๋ยวนี้จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรกค่ะ จะนึกถึงแต่ความสะดวกสบายเพียงอย่างเดียวไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นทางธนาคารฯ จึงได้ออกบัตรที่ลักษณะเป็นชิปการ์ด ที่เพิ่มเติมจากแถบแม่เหล็กเพื่อเพิ่มความมั่นใจ และปลอดภัยจากการโจรกรรมข้อมูล โดยสามารถใช้บัตรเดบิตทำธุรกรรมทางการเงินไม่ว่าจะเป็น กดเงินสด โอนเงิน จ่ายค่าบริการต่างๆ ได้ที่เครื่อง ATM ของธนาคารกรุงเทพ กว่า 9,200 เครื่อง และธนาคารอื่นๆ ที่รองรับบัตรแบบชิปการ์ดทั่วประเทศ แต่ไม่สามารถกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มในต่างประเทศได้ค่ะ
(จำนวนเงินและค่าธรรมเนียมที่เกิดจากการทำธุรกรรมที่เครื่อง ATM และบริการอื่นๆ ของธนาคารจะถูกหักจากบัญชีเงินฝากที่ผูกกับบัตร)
- ใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ ณ ร้านค้าได้ทั่วโลก
บัตรเดบิตใบนี้มีเครื่องหมาย
เป็นใบเบิกทางในการพกพาไปใช้รูดซื้อสินค้า ณ ร้านค้าที่รับบัตรเดบิตวีซ่า ชิปการ์ด ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั่วโลก โดยทุกครั้งที่ทำการรูดซื้อสินค้าหรือบริการ เงินจะถูกหักออกจากบัญชีที่ใช้ผูกกับบัตรทันที
- ใช้ช้อปออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยด้วยบริการ
หรือถ้าหากใครไม่ต้องการไปช้อปด้วยตนเอง ก็สามารถช้อปออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย และมั่นใจกับบริการ "บัวหลวง ไอเพย์" ที่ธนาคารกรุงเทพเป็นผู้ดูแล แถมยังไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ ในการใช้บริการ และขั้นตอนในการสมัครก็ง่าย ดังนี้ค่ะ
- ติดต่อบัวหลวงโฟน โทร. 1333 เพื่อสร้างหมายเลขอ้างอิง 8 หลัก สำหรับใช้ในการลงทะเบียน (กดเลือกภาษาที่ต้องการ จากนั้น กด 7 เพื่อเข้าเมนู "ลงทะเบียนสมัครบริการ") จากนั้นทำตามกระบวนการให้สมบูรณ์ตามคำแนะนำของระบบอัตโนมัติค่ะ
- ไปที่ www.bangkokbank.com/bualuangipay
- ระบบจะนำเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ที่มีความปลอดภัย ผู้ถือบัตรต้องกรอกข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตน และกำหนดข้อความยืนยันส่วนตัวจากวีซ่า หรือมาสเตอร์การ์ด ข้อความยืนยันส่วนตัวจะปรากฎบนหน้าเว็บไซต์ขณะที่ทำรายการซื้อสินค้าออนไลน์ทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ถือบัตรกำลังทำการซื้อสินค้าของร้านค้าที่ได้รับการรับรองจาก VISA หรือ MasterCard ค่ะ
เพื่อนๆ คนไหนสนใจสามารถเข้าไปรับชมการสาธิตการใช้บริการได้ที่
วิธีสมัครใช้บริการ บัวหลวง ไอเพย์ แบบ OTP ด้วยบัตรเดบิตบีเฟิสต์ธนาคารกรุงเทพ ส่วนการบริการของแรบบิท
- ใช้เป็นบัตรโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส และบีอาร์ที ได้ในบัตรเดียว
ไลฟ์สไตล์ของคนเมือง หรือคนที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ โดยทั่วไป คงหนีไม่พ้นความวุ่นวายในการเดินทางไปทำงาน (หากใครไม่มี หรือไม่ได้ใช้รถส่วนตัว) ซึ่งการโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของการเดินทาง เพราะทั้งสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และในทุกๆ ครั้งที่เติมจำนวนเที่ยวโดยสารหรือเติมเงินในบัตร จะได้รับคะแนนสะสมแรบบิท รีวอร์ดส โดยสามารถเติมได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสทุกสถานีค่ะ
- ใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ ณ ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ Rabbit
สามารถใช้ชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ ด้วยระบบ Contactless ที่ร้านค้าชั้นนำต่างๆ ที่มีสัญลักษณ์ "Rabbit" ทั่วกรุงเทพฯ พร้อมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของรางวัลจากแรบบิท รีวอร์ดส โดยร้านค้าที่สามารถชำระได้ด้วยบัตร Rabbit นั้นก็ถือว่ามีอยู่จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ และส่วนใหญ่ก็จะครอบคลุมถึงไลฟ์สไตล์ต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้ง, รับประทานอาหาร, และดูหนัง ฟังเพลงชิลๆ ค่ะ
ภาพตัวอย่างร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ
"แรบบิท" (Rabbit) คือ ระบบเติมเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Purse ที่รวมอยู่ในบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท โดยเราต้องเติมเงินเข้าไปก่อนที่จะนำบัตรไปใช้เดินทางหรือใช้จ่ายผ่านแรบบิท และนอกจากนี้มูลค่าของ e-Purse ยังแบ่งแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของกระเป๋าเงิน และส่วนของกระเป๋าที่ใช้เป็นเที่ยวโดยสาร ดังนี้ค่ะ
- ส่วนกระเป๋าเติมเงิน : ที่ใช้สำหรับเป็นค่าโดยสารรถไฟฟ้าแบบหักค่าโดยสารตามระยะทาง หรือซื้อสินค้าและบริการตามร้านค้าที่มีสัญลักษณ์แรบบิทค่ะ
- ส่วนกระเป๋าเที่ยวเดินทาง 30 วัน : ที่ใช้สำหรับเดินทางตามจำนวนเที่ยวที่เลือกตามโปรโมชั่น โดยไม่จำกัดระยะเดินทาง เพื่อโดยสารรถไฟฟ้า BTS เฉพาะ 25 สถานีเดิม โดยเที่ยวเดินทางที่เติมในบัตรจะมีอายุการใช้งาน 30 วัน นับจากวันที่เดินทางครั้งแรก
สามารถเติมเงินมูลค่า "แรบบิท" ได้ยังไง? และเติมได้ที่ไหนบ้าง?
เพื่อนๆ คนไหนสงสัยว่าต้องเติมเข้าบัตรยังไง เติมได้ที่ไหนบ้าง เรามีคำตอบตามรายละเอียดด้านล่างนี้เลยค่ะ
- สามารถเติมมูลค่าเงินใน e-Purse ได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสาร BTS ทุกสถานี หรือที่จุดบริการเติมเงินที่ได้รับอนุญาต ที่มีสัญลักษณ์เติมเงิน Rabbit โดยมีมูลค่าสะสมสูงสุดได้ 4,000 บาท
- สามารถเติมเที่ยวเดินทาง 30 วัน ใน e-Purse ได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสาร BTS สถานีใดก็ได้เช่นกันค่ะ
(หมายเหตุ : การเติมมูลค่าแรบบิท ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการของบริษัท BSS) ถ้าหากต้องการตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัตร ก็สามารถตรวจสอบได้ที่ผู้ให้บริการที่รับบัตรแรบบิท รวมถึงห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารของรถไฟฟ้า BTS ทุกสถานี และตู้คูปองแรบบิท รีวอร์ดส ค่ะ
โปรแกรมสะสมคะแนนแรบบิท รีวอร์ดส คืออะไร?
แรบบิท รีวอร์ดส คือ โปรแกรมสะสมคะแนน และสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรแรบบิท โดยที่ผู้ถือบัตรจะได้รับคะแนนสะสมแรบบิท รีวอร์ดส จากการใช้บัตรแรบบิทตามเงื่อนไขที่แรบบิท
รีวอร์ดส กำหนด และสามารถนำคะแนนสะสมไปแลกรับของรางวัลและสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ค่ะ การรับคะแนนสะสมแรบบิท รีวอร์ดส เพื่อนๆ สามารถสะสมคะแนนได้ง่ายๆ ด้วยการ "แตะได้แต้ม" ด้วยบัตรแรบบิท ไม่ว่าจะเดินทาง ใช้บริการที่ร้านอาหารและเครื่องดื่ม หรือทำกิจกรรมบันเทิงต่างๆ ณ ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์
ที่ร่วมรายการค่ะ
ร้านค้าทั่วไป รับ 5 คะแนน เมื่อแตะบัตรแรบบิท โดยจะได้รับ 5 คะแนนในการใช้บัตรแรบบิทครั้งแรกที่ร้านค้า และ 1 คะแนน เมื่อใช้บัตรที่ร้านค้าเดิมในวันเดียวกัน
ร้านค้าโบนัสพาร์ทเนอร์ รับ 5 คะแนน เมื่อแตะบัตรแรบบิท ที่ร้านค้าโบนัส พาร์ทเนอร์ โดยจะได้รับคะแนนโบนัส 1 ครั้ง ต่อวัน ต่อร้านค้าโบนัส พาร์ทเนอร์
BTS Skytrain รับ 1 คะแนน เมื่อโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส รับสูงสุด 12 คะแนนต่อเดือน
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์สมัครบัตรฯ
- ผู้สมัครจะต้องเป็นบุคคลธรรมดาทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ต้องเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารกรุงเทพ หรือกรณีที่มีบัญชีเงินฝากอยู่แล้ว สามารถสมัครบัตรเดบิตเพิ่มได้เลยที่ ธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมไปถึงสาขาในห้างสรรพสินค้า
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้า : 100 บาท/ บัตร
- ค่าธรรมเนียมรายปี : 300 บาท/ ปี/ บัตร
- พิเศษ! ค่าธรรมเนียมรายปี 200 บาท/ ปี/ บัตร ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2560
- ค่าธรรมเนียมออกบัตรทดแทน
- ฟรี! สำหรับการเปลี่ยนบัตรบีเฟิสต์ บีทีเอส เป็นบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท
- เสียค่าธรรมเนียม 100 บาท สำหรับการเปลี่ยนบัตรบีเฟิสต์ประเภทอื่น เป็นบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท
เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมรายปีกับบัตรเดบิตของธนาคารอื่นๆ
- บัตรกรุงศรี เดบิต ธนาคารกรุงศรี
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 480 บาท/ 3 ปี/ บัตร
- ค่าธรรมเนียมออกบัตรทดแทน 100 บาท/ บัตร - บัตรเดบิต เอส สมาร์ท ธนาคารไทยพาณิชย์
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 100 บาท/ บัตร
- ค่าธรรมเนียมรายปี 200 บาท/ ปี/ บัตร
เมื่อลองเทียบกับบัตรเดบิตของธนาคารอื่นแล้ว จะเห็นว่าค่าธรรมเนียมของบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท นั้นไม่แพงมากค่ะ เพราะถือว่าได้ทั้งบัตรแรบบิท และบัตรเดบิตในบัตรเดียวกัน (เมื่อลองคิดค่าธรรมเนียมแยก หากถือทั้งบัตรเดบิตและบัตรแรบบิท) และที่สำคัญคือยังไม่มีบัตรเดบิตของธนาคารไหนที่สามารถใช้เป็นบัตรโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสได้เหมือนบัตรเดบิตของธนาคารกรุงเทพค่ะ
สรุปวิเคราะห์รวบยอดสิทธิพิเศษต่างๆ ของบัตรฯ
ลองมาวิเคราะห์ภาพรวมของบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท กันค่ะ โดยจะขอแยกสรุปเป็นข้อๆ ดังนี้
- สิทธิพิเศษที่โดดเด่น
- ความโดดเด่นของบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท ก็คือ เป็นบัตรเดียวที่รวมทุกความสะดวกสบายนั่นเองค่ะ เพราะบัตรนี้เป็นได้ทั้งบัตรเดบิตที่สามารถใช้กดเงิน โอนเงิน ชำระค่าสินค้า/ บริการต่างๆ ได้ พร้อมทั้งสามารถใช้เป็นบัตรโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสและบีอาร์ทีได้อีกด้วย เรียกได้ว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองได้ดีเลยทีเดียว
- ส่วนเรื่องต่อมาคือ เรื่องของความสะดวกและความปลอดภัยจากการใช้บัตร เนื่องจากธนาคารกรุงเทพคือธนาคารแรกที่มีการออกบัตรเดบิตแบบพิเศษที่มีลักษณะเป็น "ชิปการ์ด" หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นผู้นำเทรนด์ความปลอดภัยของบัตรเดบิตในระบบชิปการ์ดกันเลยทีเดียวค่ะ (ซึ่งในตอนนี้บัตรเดบิตของทุกธนาคารจะต้องเปลี่ยนเป็นแบบชิปการ์ดทั้งหมด) ใครกำลังลังเลที่จะเปลี่ยนเป็นบัตรชิปการ์ด ลองอ่านบทความนี้เพิ่มเติมดูก่อนค่ะ รู้ก่อนเปลี่ยน : "ชิปการ์ด" ดีกว่าแถบแม่เหล็กอย่างไร? ต้องเสียเงินเปลี่ยนแค่ไหน?
- ค่าธรรมเนียมรายปี :
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 100 บาท/บัตร ถือว่าเป็นเรทปกติที่โดยส่วนใหญ่แล้วบัตรเดบิตจะมีค่าธรรมเนียมแรกเข้าอยู่ที่ 100 บาท แต่อาจมีบางธนาคารที่จัดโปรโมชั่นสำหรับผู้สมัครบัตรใหม่ให้มีการยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้า
- ส่วนค่าธรรมเนียมรายปี 300 บาท/ปี (แต่ถ้าสมัครตั้งแต่วันนี้ - 30 มิ.ย. 60 จะได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียมรายปี 100 บาท เหลือเพียง 200 บาท) ก็ถือว่าเป็นเรทปกติของค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตโดยทั่วๆ ไป เช่นกันค่ะ เพราะของธนาคารอื่นๆ ก็คิดค่าธรรมเนียมตั้งแต่ 200 บาทขึ้นไป แต่ในขณะที่บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท นั้นรวมความเป็นบัตรแรบบิทไปด้วย ก็ถือว่าเสียเงินส่วนต่างเพิ่มนิดหน่อยเพื่อความสะดวกสบาย และไม่ต้องพกบัตรหลายๆ ใบค่ะ
- บัตรเดบิตนี้เหมาะกับใคร? : บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท นี้ บอกได้เลยว่าเหมาะสำหรับบุคคลทุกเพศ ทุกวัย (ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป) โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านชุมชนเมือง (กรุงเทพฯ และปริมณฑล) ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบหรือจำเป็นต้องการเดินทางโดยสารด้วยรถไฟฟ้า BTS หรือรถเมล์ด่วน BRT เป็นประจำ อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการได้อีกหลากหลายร้านค้าที่ร่วมรายการ
ปิดท้ายด้วยโปรโมชั่นเด่นๆ จากบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท (ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 59)
ลองมาดูกันว่าโปรโมชั่นเด่นสำหรับผู้ถือบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท นั้นมีอะไรบ้าง โดยโปรฯ นี้จะรวมถึงบัตรบีเฟิสต์อื่นๆ ของธนาคารกรุงเทพด้วยค่ะ และระยะเวลาโปรโมชั่นอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละโปรฯ เพื่อนๆ ลองเลือกชมได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้นะคะ
Double คุ้ม 2 ต่อ สนุกสุขสันต์ที่ Dinosaur Planet
รายละเอียดโปรโมชั่น : เมื่อชำระผ่านบัตรบีเฟิสต์ทุกประเภท หรือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ ที่ Dinosaur Planet
- ต่อแรก Buy 1 Get 1 Free บัตรผ่านประตู Dinosaur Planet
- ต่อที่ 2 Buy 1 Get 1 Free บัตรขึ้น Dino Eye
ระยะเวลาโปรโมชั่น : วันนี้ - 31 ส.ค. 59
พิเศษ! สำหรับผู้ถือบัตรธนาคารกรุงเทพ รับส่วนลดและเงินคืนสูงสุด 30% พร้อมลุ้นทริปญี่ปุ่นฟรี
รายละเอียดโปรโมชั่น : รับส่วนลดและเงินคืนสูงสุด 30% พร้อมลุ้นทริปญี่ปุ่นฟรี - ชั้นที่ 1 ส่วนลดและเงินคืนสูงสุด 30%
- ส่วนลด 15% เมื่อใช้บริการครบ 400 บาทขึ้นไป/ ใบเสร็จ ณ ร้านค้าที่ธนาคารฯ กำหนด
- รับเงินคืน 15% เพียงใช้สิทธิ์แลกคะแนนสะสมเท่ายอดใช้จ่ายจริง
- ลงทะเบียนส่ง SMS : พิมพ์ BLOI ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 16 หลัก ส่งมาที่ 4712922 ค่าบริการ 3 บาท รับสิทธิ์ตลอดรายการ - ชั้นที่ 2 ชิงรางวัลใหญ่ แพ็คเกจทัวร์ญี่ปุ่น
- จำนวน 10 รางวัล รางวัลละ 170,000 บาท รวมมูลค่า 1,700,000 บาท โดยใช้ใบเสร็จรับเงินที่ออกโดยเครื่องแคชเชียร์ เขียนชื่อ - ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ (ใส่ในกล่องชิงโชคที่หน้าร้าน)
ระยะเวลาโปรโมชั่น : วันนี้ - 31 ส.ค. 59
พกบัตรบีเฟิสต์ทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ... ท่องเที่ยวสุขใจ พร้อมรับส่วนลดและสิทธิพิเศษ
รายละเอียดโปรโมชั่น : - ฟรี! คูปองส่วนลด 100 บาท เมื่อซื้อเครื่องดื่ม/ ของว่างเมนูใดก็ได้ มูลค่า 100 บาทขึ้นไป และจ่ายด้วยบัตรบีเฟิสต์ ณ ร้านค้าต่างๆ ดังนี้
Coffee World, New York th Avenue Deli, Cream & Fudge : เฉพาะสาขาในสนามบินสุวรรณภูมิ Concourse B (East) และ Concourse F (West) ชั้น 4
คลิกเพื่อดาวน์โหลดคูปอง Subway : เฉพาะสาขาในสนามบินสุวรรณภูมิ Concourse B (East), Food Stop Concourse A และสนามบินดอนเมือง
คลิกเพื่อดาวน์โหลดคูปอง - ฟรี! กระเป๋าเดินทาง เมื่อใช้จ่ายด้วยบัตรบีเฟิสต์ในต่างประเทศ แลกรับกระเป๋าเดินทางฟรี 1 ใบ
- ฟรี! กระเป๋าเดินทางล้อลาก มูลค่า 1,500 บาท เมื่อใช้จ่ายครบ 20,000 บาทขึ้นไป
- ฟรี! กระเป๋าเดินทาง DUO มูลค่า 5,200 บาท เมื่อใช้จ่ายครบ 100,000 บาทขึ้นไป
ระยะเวลาโปรโมชั่น : วันนี้ - 30 ก.ย. 59
บัตรบีเฟิสต์ ธนาคารกรุงเทพ มอบส่วนลดพิเศษสูงสุด 5% ที่ภัตตาคารนีโอสุกี้
รายละเอียดโปรโมชั่น : รับส่วนลดพิเศษ 5% เมื่อชำระด้วยบัตรเครดิต หรือบัตรบีเฟิสต์ ธนาคารกรุงเทพ ที่ภัตตาคารนีโอสุกี้
ระยะเวลาโปรโมชั่น : วันนี้ - 31 ธ.ค. 59
โปรโมชั่นร่วมกับ Booking.com ประหยัด สบาย สไตล์นักเดินทาง
รายละเอียดโปรโมชั่น : รับส่วนลด 10% เมื่อจองที่พักออนไลน์ผ่าน
www.visa.co.th/bookingpromo และชำระด้วยบัตรบีเฟิสต์ ใน
กว่า 75 โรงแรมที่ร่วมรายการในประเทศไทย
ระยะเวลาโปรโมชั่น : วันนี้ - 31 ธ.ค. 59
สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเดบิต บีเฟิสต์ ธนาคารกรุงเทพ เมื่อซื้อบัตรเข้าชม Dinosaur Planet
รายละเอียดโปรโมชั่น : สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตและ บัตรเดบิต บีเฟิสต์ ธนาคารกรุงเทพ เมื่อซื้อบัตรเข้าชม Dinosaur Planet
- รับส่วนลด 30% สำหรับบัตรอินฟินิท และบัตรผู้นำแพลทินัม ธนาคารกรุงเทพ
- รับส่วนลด 20% สำหรับบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพประเภทอื่น และบัตรเดบิต บีเฟิสต์
ระยะเวลาโปรโมชั่น : วันนี้ - 15 ม.ค. 60
ส่วนลดค่าฟรีนฟี สำหรับผู้ถือบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ธนาคารกรุงเทพ ที่สนามกอล์ฟชั้นนำ
รายละเอียดโปรโมชั่น : สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต และบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ธนาคารกรุงเทพ รับส่วนลดค่ากรีนฟี สูงสุด 70% จากสนามกอล์ฟชั้นนำที่ร่วมรายการ 150 แห่งทั่วประเทศ พร้อมรับส่วนลดเพิ่มเติมสำหรับสนามไดร์ฟกอล์ฟ โรงเรียนสอนกอล์ฟ และร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์กอล์ฟ ที่ร่วมรายการอีกมากมาย
ดูรายชื่อสนามกอล์ฟที่เข้าร่วมโครงการในแต่ละภูมิภาค
ระยะเวลาโปรโมชั่น : วันนี้ - 31 มี.ค. 60
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1333, 02-638-4000 หรือเว็บไซต์
www.bangkokbank.com