รีวิวบัตรเครดิต Infinite ธนาคารกรุงเทพ
ประเดิมรีวิวบัตรเครดิตใบแรกของ CheckRaKa.com ในวันนี้ ทีมงานขอเริ่มด้วยการรีวิวบัตรเครดิต
"Infinite ธนาคารกรุงเทพ" บัตรเครดิตระดับสูงสุดของค่าย Visa ที่ออกร่วมกับทางธนาคารกรุงเทพ ที่ถึงจะเปิดตัวแบบเงียบๆ แต่ทางธนาคารกรุงเทพก็จั่วหัวและให้เครดิตว่าบัตรเครดิตใบนี้เป็นบัตรเครดิตที่ให้ "เอกสิทธิ์สูงสุด เพื่อชีวิตไร้ขีดจำกัด" สุดยอดสโลแกนเทพกันขนาดนี้ อย่ารอช้ารีบตามไปแกะกล่องรีวิวบัตรเครดิตใบนี้กับเรากันเลยค่ะ
แกะกล่องรีวิวความสวยงามของตัวบัตรฯ
หน้าตาของแพคเกจบัตรเครดิต Infinite ธนาคารกรุงเทพ
ส่งมาให้แบบเป็นกล่องหรูหราสมกับความเป็นบัตรอันดับหนึ่งของ VISA ทีเดียวค่ะ
ตัวกล่องเป็นกล่องกระดาษแข็ง ฝาเปิดเป็นสันแม่เหล็กดูดแป๊ะๆ แน่นหนาทีเดียวค่ะ
ภายในกล่องจะมีบัตรกำนัลสำหรับใช้เข้าห้องรับรอง Royal Silk Lounge ของการบินไทย ที่สนามบิน
ใช้เดินทางได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ, มีการ์ดแผ่นบางที่ด้านหน้าแปะตัวบัตรเครดิต Infinite ธนาคารกรุงเทพ
มาให้อย่างในรูปนี้ แล้วก็มือหนังสือรวบรวมสิทธิประโยชน์เล่มหนาอีกหนึ่งเล่มค่ะ
กางการ์ดออกมาฝั่งซ้ายจะระบุรายละเอียดสำคัญต่างๆ อย่างชื่อ นามสกุลของเจ้าของบัตร, เลขบัตรเครดิต
และประเภทบัตร ตลอดจนวันปิดยอดบัญชี และวงเงินที่ทางธนาคารอนุมัติให้ ซึ่งเจ้าของบัตรต้องเช็คข้อมูลที่หน้าบัตร
ให้ถูกต้อง ก่อนเปิดใช้บัตรฯ ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นช่องเสียบบัตร Priority Pass และบัตรกำนัลที่ใช้สำหรับ
เข้าห้องรับรอง Royal Silk Lounge ของสายการบินไทย มีทั้งหมด 4 ใบ สองใบสำหรับเดินทางภายในประเทศ และอีกสองใบสำหรับเดินทางต่างประเทศ ซึ่งแน่นอนต้องโชว์ Boarding Pass ของการบินไทย หรือไทยสมายล์ก่อนเข้าใช้ด้วยค่ะ
ทีนี้เรามายลโฉมหน้าตาของเจ้าเครดิตการ์ดสุดหรูใบนี้กันค่ะ ตัวบัตรนี่เข้าใจว่าเป็นสีทองเหลือบๆ
ประมาณสี Pink Gold ค่ะ ที่หน้าบัตรแปะโลโก้และชื่อธนาคารกรุงเทพ ตามด้วยระดับบัตรของ Visa อย่าง "Infinite"
และมุมล่างสุดปั๊มโลโก้ VISA เป็นสีทองวิบวับเล่นกับแสงไฟ ความสวยงามของบัตรให้อารมณ์หรูหราแบบซ่อนเปรี้ยวค่ะ
พลิกด้านหลังบัตรที่เป็นสีเดียวกับด้านหน้าให้ชมค่ะ
ส่วนสมุดรวบรวมสิทธิประโยชน์ เงื่อนไข ข้อกำหนด ที่เปรียบสเมือนเป็นคู่มือในการใช้บัตรเครดิต Visa Infinite
ก็จะมีลักษณะเป็นรูปเล่มและความหนาประมาณนี้ค่ะ
สิทธิประโยชน์เด่นของบัตรฯ
สำหรับสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิตระดับต้นของ Visa อย่างระดับ Infinite นั้น แน่นอนว่าต้องไม่ธรรมดาแต่จะไม่ธรรมดาขนาดไหนต้องลองกางหนังสือคู่มือของทางบัตรมาเปิดวิเคราะห์ดูกันหน่อยค่ะ
หนังสือสิทธิประโยชน์มีสารบัญแบ่งหมวดหมู่ไว้ให้เรียบร้อย
เอกสิทธิ์ในด้านไลฟ์สไตล์ ห้องรับรอง และสายการบิน
Travel & Airport
Travel & Airport เป็นสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและบริการในสนามบิน โดยส่วนแรกจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับห้องรับรองต่างๆ ในสนามบินที่ผู้ถือบัตร Infinite ธนาคารกรุงเทพ สามารถเข้าใช้บริการในยามที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งบัตรเครดิต Visa Infinite ธนาคารกรุงเทพ ก็ให้สิทธิประโยชน์ในส่วนนี้อย่างจุใจ โดยสามารถเลือกใช้ห้องรับรองได้สองรูปแบบ คือ
1) บริการห้องรับรองพิเศษ Royal Silk Lounge ณ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินเชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ และกระบี่ เมื่อเดินทางกับสายการบินไทย (TG) หรือสายการบินไทยสมายล์ (WE)
- สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ สิทธิ์นี้จำกัดสิทธิ์ให้ใช้ได้ 2 ครั้ง/ ปีปฎิทิน
(สำหรับเที่ยวบินในประเทศบัตรฯ ระดับเดียวกันอย่างบัตร "The Wisdom VISA Infinite" ของกสิกรไทย ปัจจุบันให้บริการห้องรับรองพิเศษระดับ Royal Silk Lounge เช่นเดียวกัน (หมายเหตุ : อัพเดตข้อมูลส่วนนี้ล่าสุดปี 2558)
ส่วนบัตรฯ Visa ที่อยู่ในระดับเดียวกันอีกใบอย่าง "KTC-KTB Precious Plus Visa Infinite" ไม่ให้สิทธิ์ในการใช้ห้องรับรองเมื่อเดินทางแค่ภายในประเทศค่ะ) - สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ จะได้สิทธิ์ในการเลือกใช้ห้องรับรองของ "Royal Silk Lounge" ได้อีก 2 ครั้ง/ ปี แยกกันกับการเดินทางภายในประเทศ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เชียงใหม่ และภูเก็ตค่ะ
(ก่อนหน้านี้บัตรเครดิตในระดับเดียวกันอย่าง "The Wisdom VISA Infinite" ของกสิกรไทย สามารถใช้ห้องรับรองของการบินไทยเมื่อเดินทางด้วยเที่ยวบินระหว่างประเทศได้เช่นกันนะคะ แต่ปี 2558 ทางกสิกรเค้าไปสร้างห้องรับรอง The Wisdom" ไว้เองที่ท่าอากาศยานฯ สุวรรณภูมิ ตอนนี้เลยให้ผู้ถือบัตรฯ ใช้ห้องรับรองของตัวเอง ถ้าไปใช้ของการบินไทยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมค่ะ)
เงื่อนไขการเข้าใช้บริการ : สิทธิ์ในการใช้ห้องรับรอง Royal Silk Lounge สามารถใช้ได้ทั้งบัตรหลักและบัตรเสริม ส่วนผู้ติดตามจะเข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษนี้ได้ต้องชำระค่าบริการเพิ่มเป็นเงินสด และแน่นอนต้องแสดง Boarding Pass ของสายการบินไทย หรือไทยสมายล์, บัตรเครดิตอินฟินิท ธนาคารกรุงเทพ พร้อมด้วยบัตรกำนัล Royal Silk Lounge ที่ทางธนาคารมอบให้ก่อนใช้บริการค่ะ (บัตรกำนัลทุกใบมีอายุการใช้ 1 ปีปฎิทิน โดยทางธนาคารจะจัดส่งบัตรกำนัลรวม 4 ใบ สำหรับห้องรับรองภายในประเทศ 2 ใบ และห้องรับรองสำหรับการเดินทางต่างประเทศ 2 ใบ ให้ปีต่อปี)
2) บริการห้องรับรองพิเศษ ณ สนามบินชั้นนำทั่วโลกกว่า 700 แห่ง ผ่านบัตร Priority Pass โดยธนาคารจะมอบบัตรนี้ให้เฉพาะสมาชิกบัตรหลัก ดังนั้นบัตรเสริมอดได้บัตรดำ Priority Pass แต่ก็ยังดีที่เจ้าของบัตรหลักสามารถพาผู้ติดตามเข้าใช้บริการห้องรับรองได้ฟรี 1 ท่านหากเกินกว่านั้นต้องชำระค่าใช้จ่ายผ่านทางบัตรอินฟินิทเพิ่มเอง ก็ถือว่าป๋าใช้ได้ค่ะ เพราะบัตรเครดิตหรูๆ ในระดับใกล้เคียงกันบางใบอาจจะไม่อนุญาตให้พาผู้ติดตามเข้าฟรีค่ะ นอกจากนี้ข้อดีอีกอย่างของบัตร Priority Pass คือเจ้าของสามารถเข้าใช้บริการห้องรับรองที่อยู่ในเครือ Priority Pass ได้ทั่วโลก โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเดินทางด้วยสายการบินใด อย่างห้องรับรองที่อยู่ในเครือข่าย Priority Pass ที่สนามบินสุวรรณภูมิ คือ ห้องรับรอง Louis' Tavern CIP First Class ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณ Concourse A, G, C และ F ค่ะ
หน้าตาของบัตร Priority Pass ที่บัตร Infinite ธนาคารกรุงเทพ ออกให้เจ้าของบัตรเครดิตไว้แสดงพร้อม Boarding Pass ก่อนเข้าใช้บริการที่ห้องรับรองในสนามบินทั่วโลกกว่า 700 แห่ง (Priority Pass ใบนี้มีอายุการใช้งาน 5 ปีค่ะ) 3) บริการพิเศษ ณ สนามบินสุวรรณภูมิอีก 3 รายการ - บริการลีมูซีน รับส่งระหว่างที่พัก และสนามบินสุวรรณภูมิ (ครอบครุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล)
- บริการรถกอล์ฟ รับส่งภายในสนามบินสุวรรณภูมิ (เฉพาะผู้โดยสารขาเข้า)
- บริการ Meet & Assist พร้อมเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง (Fast Track Check in)
ณ สนามบินสุวรรณภูมิ (ทั้งขาเข้า-ขาออก)
โดยสามบริการพิเศษนี้จะให้สิทธิ์เฉพาะลูกค้าบัตรหลัก โดยจะใช้ได้เมื่อชำระค่าตั๋วโดยสาร หรือโปรแกรมการท่องเที่ยวผ่านบัตรเครดิต Infinite และก่อนใช้ก็ต้องโทรสำรองสิทธิ์ล่วงหน้าก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 7 วัน โดยทั้งสามบริการสามารถใช้สิทธิ์พร้อมหรือแยกกันก็ได้ แต่ให้ใช้บริการได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น (ระยะเวลาใช้สิทธิ์ถึง 31 ต.ค. 58) ถือว่าสามบริการพิเศษนี้ครบวงจรทีเดียวค่ะ เพราะจัดรถมารับให้ตั้งแต่ออกจากบ้าน พอมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิก็ไม่ต้องเดินให้เมื่อยตุ้ม มีรถกอล์ฟคอยให้บริการ ตลอดจนมีคนมาอำนวยความสะดวกยันด่าน ต.ม. ค่ะ (บัตร THE WISDOM มีบริการ Meet and Assist คล้ายๆ กันแต่ไม่มีรถกอล์ฟบริการ และใช้ได้ 2 ครั้งต่อปี)
เอกสิทธิ์ในการซื้อตั๋วเครื่องบินบางกอกแอร์เวย์ 1 ฟรี 1
Buy 1 Get 1 ตั๋วโดยสารสายการบินบางกอก แอร์เวย์ส Buy 1 Get 1 Free ตั๋วเครื่องบินจากสายการบินบางกอกแอร์เวย์ รับสิทธิ์ซื้อบัตรโดยสารเส้นทางในประเทศ 1 ที่นั่ง + รับฟรีอีก 1 ที่นั่งในเที่ยวบินเดียวกัน (เฉพาะ Booking Class: Y ตั๋วราคาเต็ม) เมื่อชำระค่าบัตรโดยสารผ่านบัตรอินฟินิท ธนาคารกรุงเทพ เป็นอีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ที่ทำออกมาได้ดีในระดับนึงค่ะ เพราะบัตรเครดิตหลายใบก็ไม่ได้ให้สิทธิพิเศษรับตั๋วฟรีกันง่ายๆ อาจจะให้แต่ก็จะมีเงื่อนไขที่ยิบย่อย (ราคาตั๋วเครื่องบินจากกรุงเทพ-สมุย 1 ที่นั่ง ราคาหน้าเว็บบางกอกแอร์เวย์ประมาณสี่พันอัพค่ะ) สิทธิ์นี้ใช้ได้เฉพาะสมาชิกบัตรหลัก และหมดอายุ 31 ต.ค. 58 ซึ่งตลอดอายุสิทธิพิเศษนี้ให้ใช้ได้แค่ครั้งเดียว ซึ่งจำนวนครั้งถือว่าน้อยไปนิดนึงค่ะต้องรอดูว่าหลังจากหมดระยะเวลาแล้วจะต่อสิทธิ์ให้อีกรึเปล่า โดยการรับตั๋วฟรีนี้จะต้องสำรองบัตรล่วงหน้า 7 วันก่อนออกเดินทาง และต้องเดินทางไปพร้อมกับการจองตั๋วของเจ้าของบัตรหลัก โดยต้องชำระค่าบัตรโดยสาร ค่าธรรมเนียมการออกบัตร และภาษีสนามบินผ่านบัตรอินฟินิท ธนาคารกรุงเทพเท่านั้นค่ะ
เอกสิทธิ์ในการใช้บริการที่ Executive Club Lounge
ณ โรงแรมชั้นนำ และศูนย์การค้าระดับไฮเอนด์ พร้อมบริการอาหาร เครื่องดื่ม สิ่งอำนวยความสะดวก ห้องประชุม และห้องรับรองส่วนบุคคล
สถานที่เข้าร่วมรายการดังนี้ - เกษร ไดมอนด์ เลานจ์ ณ ศูนย์การค้าเกษร ชั้น 3 รับเครื่องดื่ม Moet & Chandon และบริการชุดน้ำชายามบ่าย 1 ชุด (สำหรับ 2 ท่าน) พร้อมบริการนวดผ่อนคลายศีรษะ (สำหรับ 1 ท่าน) โดย Therapist จาก THAN Sanctuary
เงื่อนไขการใช้บริการ จำกัดสิทธิ์ 2 ครั้งต่อบัตรต่อเดือน ใช้ได้ทั้งบัตรหลักและบัตรเสริม โดยสามารถพาผู้ติดตามเข้าใช้บริการได้พร้อมผู้ถือบัตรสูงสุด 2 ท่านต่อครั้ง ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) - บัวหลวง สวีท ณ ธนาคารกรุงเทพ สาขา เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ชั้น 4
- โรงแรม เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท ชั้น 24
โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ ชั้น 21
โรงแรม ดุสิตธานี กรุงเทพฯ ชั้น 3
โรงแรม ฮิลตัน สุขุมวิท ชั้น 4
เงื่อนไขการใช้บริการ 4 โรงแรมนี้ จำกัดให้เลือกใช้สิทธิ์เข้าใช้บริการที่ Executive Lounge ได้เพียง 1 ครั้งต่อบัตรต่อเดือนต่อสถานที่ และให้ใช้ได้เฉพาะบัตรหลัก โดยสามารถพาผู้ติดตามเข้าใช้บริการได้พร้อมผู้ถือบัตรสูงสุด 2 ท่านต่อครั้ง แต่ต้องชำระค่าบริการสำหรับผู้ติดตามเพิ่มเติมตามที่โรงแรมกำหนด)
สิทธิประโยชน์แนวนี้น่าจะเหมาะกับเจ้าของบัตรแนวนักธุรกิจสมัยใหม่ ที่สามารถนัดเจอลูกค้าได้ตามสถานที่ต่างๆ ที่แจ้งไว้ด้านบน แต่ก่อนจะเข้าใช้บริการก็ต้องโทรสำรองสถานที่ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันทำการ กับทางศูนย์บริการสมาชิกบัตรอินฟินิท ธนาคารกรุงเทพกันก่อน ไม่ใช่นึกจะใช้ก็ใช้ได้เลยนะคะ ส่วนข้อจำกัดก็มีบ้างในเรื่องของการแต่งตัวที่ต้องเป็นชุดสุภาพ และก็จำนวนครั้งในการเข้าใช้ต่อเดือนที่อาจจะดูน้อยไปนิด แต่ทั้งนี้ก็คงต้องเข้าใจค่ะเพราะหากไม่มีการกำหนดจำนวนครั้ง ก็อาจจะตามมาด้วยปัญหาลูกค้าเข้าใช้เยอะจนเต็มค่ะ
เอกสิทธิ์ในด้านไลฟ์สไตล์: มื้ออาหารสุดพิเศษ
สิทธิพิเศษของมื้ออาหารต่างๆ ของโรงแรมส่วนนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ
1) Complimentary Set Menu อภินันทนาการอาหารชุดพิเศษ ณ ห้องอาหารโรงแรมที่ร่วมรายการ
- ห้องอาหารแฮมิลตันส์ สเต็กเฮ้าส์ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ
ให้บริการอาหารชุดพิเศษ สำหรับมื้อกลางวัน - ห้องอาหาร ลา ทาโวล่า แอนด์ ไวน์ บาร์ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์
ให้บริการอาหารชุดพิเศษ สำหรับมื้อกลางวัน และมื้อค่ำ - ห้องอาหารสระบัว โดย กิน กิน โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ
ให้บริการอาหารชุดพิเศษ สำหรับมื้อกลางวัน - ห้องอาหารคิสโซะ โรงแรม เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท
ให้บริการอาหารชุดพิเศษ สำหรับมื้อกลางวัน
ระยะเวลาและเงื่อนไขการใช้บริการ : สิทธิพิเศษสิ้นสุด 31 ต.ค. 58 จำกัดสิทธิ์ 1 ครั้งต่อบัตรต่อเดือน (นับรวมการใช้สิทธิ์จากทุกโรงแรมที่ร่วมรายการ) โดยใช้สิทธิ์ได้เฉพาะผู้ถือบัตรหลักซึ่งต้องสำรองการเข้าใช้บริการอย่างน้อย 3 วันทำการ
2) Complimentary High Tea for 2 อภินันทนาการชุดน้ำชายามบ่าย สำหรับ 2 ท่าน ณ บาร์และล็อบบี้ เลานจ์ ในโรงแรมที่ ร่วมรายการ ดังนี้
- Zest Bar ชั้น 7 โรงแรม เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท
- R Bar ณ ล็อบบี้ เลานจ์ ชั้น 1 โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์
- Lobby Lounge โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ
- หนุมาน บาร์ ณ ล็อบบี้ เลานจ์ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ
ระยะเวลาและเงื่อนไขการใช้บริการ : สิทธิพิเศษเริ่ม 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 58 จำกัดสิทธิ์ 1 ครั้งต่อบัตรต่อเดือนสำหรับ Complimentary High Tea for 2 (นับรวมการใช้สิทธิ์จากทุกโรงแรมที่ร่วมรายการ) โดยใช้สิทธิ์ได้เฉพาะผู้ถือบัตรหลักซึ่งต้องสำรองการเข้าใช้บริการอย่างน้อย 3 วันทำการ
3) มา 2 จ่าย 1 บุฟเฟ่ต์นานาชาติ สำหรับบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน และมื้อค่ำ ณ ห้องอาหารในโรงแรมที่ร่วมรายการ ดังนี้ - Niche Restaurant โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ
- Espresso Restaurant โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ
- The Rain Tree Cafe โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน กรุงเทพฯ
ระยะเวลาและเงื่อนไขการใช้บริการ : สิทธิพิเศษสิ้นสุด 31 ต.ค. 58 ใช้สิทธิ์ได้เฉพาะผู้ถือบัตรหลักซึ่งต้องสำรองการเข้าใช้บริการอย่างน้อย 7 วันทำการ จำกัดสิทธิ์ 1 ครั้งต่อโรงแรม ตลอดระยะเวลาโครงการ (จำกัดสูงสุด 2 ท่านต่อครั้งต่อท่านต่อบัตร)
สรุปง่ายๆ ว่าสิทธิประโยชน์ของอาหารมื้อพิเศษนี้แต่ละรายการจำกัดสิทธิ์ให้ใช้เพียงรายการละ 1 ครั้งต่อเดือน ส่วนสิทธิ์มา 2 จ่าย 1 ของบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ใช้ได้ครั้งเดียวตลอดระยะเวลาโปรโมชั่นค่ะ ซึ่งจุดนี้ถือว่าให้สิทธิ์ในการทานอาหารฟรีไม่น้อยเลยนะคะ เพราะอย่างบัตร SCB PRIVATE BANKING ที่เป็นบัตรในระดับ INFINITE เช่นเดียวกัน สิทธิพิเศษส่วน Dining นี่จะออกแนวเป็นพวกส่วนลดมากกว่า การให้อภินันทนาการชุดอาหารฟรีค่ะ
เอกสิทธิ์ในด้านไลฟ์สไตล์: ห้องพักฟรีของโรงแรม
สิทธิพิเศษกับอภินันทนาการห้องพักฟรีและการอัพเกรดห้องพักจาก 2 เครือโรงแรมชั้นนำ
1) สิทธิพิเศษจากโรงแรมในเครือดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล
- Buy 1 Get 1 Free ห้องพักในเครือดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ทั้งในและต่างประเทศ รับสิทธิ์พักฟรีคืนที่สอง เมื่อเข้าพักคืนแรกในราคา Dusit Best Available Rate เฉพาะการเข้าพักห้องสวีท ณ โรงแรมในเครือดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนลที่เข้าร่วมรายการ
- รับสถานะสมาชิก Dusit Gold Card - VIP พร้อมรับสิทธิประโยชน์ จากเครือดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล (ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์จากโรงแรมในเครือดุสิตเยอะทีเดียว เช่น รับส่วนลดค่าอาหาร ส่วนลดค่าห้อง เลทเช็คเอ้าท์ถึง 14.00 น. เป็นต้นค่ะ)
สมัครบัตร Dusit Gold Card
ระยะเวลาและเงื่อนไขการใช้บริการ: สิทธิพิเศษสิ้นสุด 31 ต.ค. 58 ใช้สิทธิ์ได้เฉพาะผู้ถือบัตรหลักซึ่งต้องสำรองการเข้าใช้บริการอย่างน้อย 7 วันทำการ จำกัดสิทธิ์ 2 ครั้งต่อบัตร ตลอดระยะเวลาโครงการ (นับรวมการใช้สิทธิ์จากทุกโรงแรมที่ร่วมรายการ)
2) สิทธิพิเศษจากโรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซต์ กรุงเทพฯ และเอ็มโพเรียม สวีท บาย ชาเทรียม
(Complimentary Room Upgrade)
- สิทธิ์อัพเกรดห้องพักจาก Grand Room (60 Sqm) เป็น Grand Suite One-Bedroom (70 Sqm) สำหรับการเข้าพักต่อเนื่อง 2 คืน ที่โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซต์ กรุงเทพฯ พร้อมส่วนลด 15% สำหรับบริการซักรีด
- สิทธิ์อัพเกรดห้องพักจาก Studio Deluxe (65 Sqm) เป็น Studio Super Deluxe (80 Sqm) พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน และส่วนลด 15% สำหรับบริการซักรีด ที่เอ็มโพเรียม สวีท บาย ชาเทรียม
ระยะเวลาและเงื่อนไขการใช้บริการ : สิทธิพิเศษสิ้นสุด 31 ต.ค. 58 ใช้สิทธิ์ได้ทั้งผู้ถือบัตรหลักและบัตรเสริม โดยต้องสำรองการเข้าใช้บริการอย่างน้อย 7 วันทำการ
เอกสิทธิ์ในด้านไลฟ์สไตล์: กีฬา และสุขภาพ
สิทธิพิเศษสำหรับบริการเพื่อสุขภาพ
- สิทธิ์ในการใช้บริการฟิตเนส ณ DUSIT DFiT ณ โรงแรมในเครือดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล 4 แห่ง ที่ร่วมรายการ
- อภินันทนาการสปาทรีทเมนต์ The Voyage of Golden Lanna ที่ โอเอซิส สปาสาขาที่ร่วมรายการ
ระยะเวลาและเงื่อนไขการใช้บริการ: สิทธิพิเศษสิ้นสุด 31 ต.ค. 58 ใช้ได้เฉพาะบัตรหลักเท่านั้น โดยจำกัดการใช้ฟิตเนสเพียง 1 ครั้งต่อเดือน (นับรวมการใช้สิทธิ์จากทุกสาขา) และจำกัดการใช้สิทธิ์สปา 1 ครั้งต่อบัตร ตลอดระยะเวลาโครงการ (นับรวมการใช้สิทธิ์จากทุกสาขาที่ร่วมรายการ) สิทธิประโยชน์เรื่องฟิตเนสและสปาถือว่าสอบตกทั้งในเรื่องจำนวนครั้งที่ให้ใช้บริการ จนไปถึงจำนวนสถานที่ถือว่ามีน้อยมากค่ะ (จุดนี้แพ้บัตรเครดิตอย่าง SCB First และ Krungsri Exclusive Signature ซึ่งเป็นบัตรในระดับคลาสรองลงมา สองบัตรนี้ถือว่าเป็นบัตรเครดิตที่ให้สิทธิ์ในการใช้ฟิตเนสได้หลากหลายมาก แถมยังให้สิทธิ์กับบัตรเสริมด้วยค่ะ)
Complimentary Green Fee
อภินันทนาการค่ากรีน ฟี ณ สนามกอล์ฟชั้นนำ ดังนี้ - สนามกอล์ฟ เมืองแก้ว จ.สมุทรปราการ เฉพาะวันเสาร์ - อาทิตย์
- เลควู้ด คันทรี่ คลับ จ.สมุทรปราการ เฉพาะวันธรรมดา และวันเสาร์ - อาทิตย์ หลังเวลา 12.00 น.
- ซัมมิท วินด์มิลด์ กอล์ฟ คลับ จ.สมุทรปราการ เฉพาะวันธรรมดา และวันเสาร์ - อาทิตย์ หลังเวลา 12.00น.
ระยะเวลาและเงื่อนไขการใช้บริการ : สิทธิพิเศษสิ้นสุด 31 ต.ค. 58 ใช้สิทธิ์ได้เฉพาะผู้ถือบัตรหลักซึ่งต้องสำรองการเข้าใช้บริการอย่างน้อย 4 วันทำการ จำกัดสิทธิ์ 2 ครั้งต่อบัตรต่อเดือน (นับรวมการใช้สิทธิ์จากทุกโรงแรมที่ร่วมรายการ) ผู้ถือบัตรจะต้องพาเพื่อนสมาชิกร่วมออกรอบ และต้องมีจำนวนนักกอล์ฟ 3 ท่านต่อกลุ่ม ไม่เกิน 4 ท่าน
เอกสิทธิ์ในด้านไลฟ์สไตล์: กิจกรรมบันเทิงและเงินคืนค่าน้ำมัน
สิทธิพิเศษกิจกรรมบันเทิง เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ด้านศิลปะการแสดง และดนตรีนานาชาติ พร้อมสิทธิพิเศษเหนือใคร เมื่อชำระค่าบัตรชมการแสดงผ่านบัตรอินฟินิท ธนาคารกรุงเทพ เนื่องจากบัตรเพิ่งจะเปิดตัวได้ไม่นาน คงต้องรอดูกันนิดนึงค่ะ ว่าในแต่ละปีทางธนาคารกรุงเทพจะมีกิจกรรมบันเทิงที่เข้าร่วมรายการมากน้อยแค่ไหน เราถึงจะมาลองวิเคราะห์กันดูได้ค่ะ
สิทธิพิเศษ ณ สถานีบริการน้ำมัน รับเงินคืนสูงสุด 10% เมื่อเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันบางจากและคาลเท็กซ์ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ ถือว่าสิทธิประโยชน์เรื่องการคืนเงินค่าน้ำมันโอเคเลยค่ะ สอบผ่านทั้งเรื่องของตัวเลือกปั๊มน้ำมันที่มีทั้งบางจากและคาลเท็กซ์ เพราะบัตรเครดิตหลายๆ ใบ จะจำกัดทางเลือกในการเติมน้ำมันไว้แค่ปั๊มเดียว ส่วนจำนวนรวมเงินคืน ที่คืนสูงสุด 480 บาทต่อเดือน คิดจากเกณฑ์คำนวณเงินคืน 10% สำหรับยอดเติมน้ำมันครบทุก 800 บาท/ เซลล์สลิป จำนวนไม่เกิน 6 รายการต่อเดือนต่อบัตร รวมคืนสูงสุดต่อรอบบัญชี 480 บาท ต่อบัตร 1 ใบก็ถือว่าให้มาในระดับที่โอเค ตรงกับการใช้จริงในชีวิตประจำวันของคนทั่วไปที่ขับรถไป-กลับ บ้าน ที่ทำงาน ในแต่ละวันค่ะ
ระยะเวลาและเงื่อนไขสิทธิพิเศษ ณ สถานีบริการน้ำมัน: สิทธิพิเศษสิ้นสุด 30 มิ.ย. 2558 ใช้สิทธิ์ได้ทั้งบัตรหลักและบัตรเสริมสำหรับยอดใช้จ่ายการเติมน้ำมันที่ต่ำ หรือส่วนที่เกิน 800 บาท/ เซลล์สลิป จะถูกนำมาคำนวณเป็นแต้มสะสมตามรายการ Thank You Program ในอัตรา 25 บาทต่อ 2 คะแนน
คะแนนสะสม และการแลกไมล์เดินทางจากสายการบิน
คะแนนพรีเมียม 2 เท่าทุกการใช้จ่าย ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 25 บาท รับ 2 คะแนนพรีเมียม
เงื่อนไข: ไม่รวมการซื้อหน่วยลงทุน ชำระค่าเบี้ยประกัน รายการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า ดอกเบี้ยค่าปรับ และค่าธรรมเนียมทุกประเภท, รายการชำระ ณ หมวดสถานีบริการน้ำมัน จะได้รับคะแนนพรีเมี่ยมสองเท่า จากยอดใช้จ่ายไม่เกิน 15,000 บาทต่อหมวดร้านค้า และรายการชำระ ณ ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ทั่วประเทศ จะได้รับคะแนนพรีเมียมสองเท่าสูงสุดจากยอดใช้จ่ายไม่เกิน 20,000 บาทต่อหมวดร้านค้า
แลกคะแนนพรีเมียมเป็นไมล์เดินทางของ 3 สายการบินชั้นนำ เกณฑ์ในการแลกคะแนนพรีเมียมเป็นไมล์เดินทางสายการบิน (กี่คะแนนเป็น 1 ไมล์) - ROYAL ORCHID PLUS สายการบินไทย อัตราการแลก 2 คะแนนพรีเมี่ยมต่อ 1 ROP Mile
เท่ากับทุกการใช้จ่าย 25 บาท แลกได้ 1 ไมล์ Royal Orchid Plus ค่ะ
- FLYER BONUS สายการบินบางกอกแอร์เวย์ อัตราการแลกคะแนนพรีเมี่ยมขั้นต่ำทุก 1,500 คะแนน ต่อ 10 FlyerBonus
(ปกติเส้นทางในประเทศ ต้องใช้คะแนนเริ่มต้นที่ 100 คะแนน FlyerBonus ในการแลกตั๋วหนึ่งใบ) - BIG CARD สายการบินแอร์เอเชีย อัตราการแลกคือ 1 คะแนนพรีเมียมต่อ 1 BIG Points
(แลกคะแนนพรีเมียมขั้นต่ำทุก 1,000 คะแนน)
ตัวอย่างการใช้คะแนนสะสมแลกเป็นไมล์ของบัตรเครดิตในระดับเดียว หรือระดับใกล้เคียงกัน
ลองดูความคุ้มค่าในการเปลี่ยนคะแนนสะสมให้เป็นไมล์ของสายการบินต่างๆ เทียบกับบัตรเครดิตอื่นๆ ที่อยู่ในระดับ Infinite เช่นเดียวกับบัตร infinite ธนาคารกรุงเทพ และบัตรเครดิตในระดับรองลงมาอย่างระดับ Signature ดูค่ะ
บัตร SCB Private Banking (บัตรระดับ Infinite)
ทุกการใช้จ่าย 20 บาทรับ 2 คะแนน แลกได้เฉพาะสายการบินไทย
- อัตราแลกไมล์ปกติ 2.5 คะแนนแลกเป็น 1 ไมล์ Royal Orchid Plus
เทียบเท่ากับ 25 บาทต่อ 1 ไมล์
- อัตราแลกไมล์พิเศษ 2 คะแนนแลกเป็น 1 ไมล์ Royal Orchid Plus
เทียบเท่ากับ 20 บาทต่อ 1 ไมล์ (เงื่อนไขการแลกแต้มอัตราพิเศษ: ต้องมียอดใช้จ่าย 100,000 บาทขึ้นไปต่อปี)
บัตร เดอะวิสดอม ซิกเนเจอร์ กสิกรไทย (บัตรระดับ Signature ที่รองลงมาจาก Infinite)ทุกการใช้จ่าย 25 บาทมีค่าเท่ากับ 1 คะแนน แลกคะแนนเป็นไมล์ได้สองสายการบิน - 1 คะแนนแลกเป็น 1 ไมล์ Royal Orchid Plus สายการบินไทย เทียบเท่ากับ 25 บาทต่อ 1 ไมล์
(อัตราแลกไมล์พิเศษต้องแลกแต้มขั้นต่ำ 15,000 คะแนน) - 2 คะแนนแลกเป็น 1 ไมล์ Royal Orchid Plus สายการบินไทย เทียบเท่ากับ 50 บาทต่อ 1 ไมล์
(อัตราแลกไมล์ปกติต้องแลกแต้มขั้นต่ำ 2,000 คะแนน) - 1,500 คะแนนแลกเป็น 10 FlyerBonus สายการบินบางกอกแอร์เวย์
บัตร Citi M Visa Select (บัตรระดับ Signature ที่รองลงมาจาก Infinite)
ทุกการใช้จ่าย 25 บาทรับ 2 คะแนน แลกคะแนนเป็นไมล์ได้สี่สายการบิน
- อัตราแลกไมล์ 2 คะแนนแลกเป็น 1 ไมล์ Royal Orchid Plus สายการบินไทย
- อัตราแลกไมล์ 2 คะแนนแลกเป็น 1 ไมล์ Kris Flyer สายการบินสิงค์โปร์แอร์ไลน์
- อัตราแลกไมล์ 2 คะแนนแลกเป็น 1 ไมล์ Asia Miles สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค
- อัตราแลกไมล์ 2 คะแนนแลกเป็น 1 ไมล์ Sky Miles สายการบินเดลต้า
อัตราแลกไมล์ทั้งหมดเทียบเท่ากับการใช้จ่ายทุก 25 บาทต่อ 1 ไมล์
จากตัวอย่างการแลกคะแนนเป็นไมล์ของบัตรเครดิตต่างๆ ด้านบน จะเห็นว่าบัตรเครดิค Infinite ธนาคารกรุงเทพ จะโดดเด่นในด้านความหลากหลายของสายการบินที่มีให้เลือกในการแลกไมล์ โดยสายการบินทางเลือกทั้ง 3 สายการบินล้วนเป็นสายการบินที่คนไทยนิยมเดินทาง เรียกว่าจับต้องได้จริง และน่าจะใช้แต้มแลกไมล์กันได้บ่อยๆ
ส่วนเกณฑ์ในการใช้คะแนนแลกไมล์ก็อยู่ในระดับที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับบัตรเครดิตอื่นๆ ในระดับใกล้เคียงกันค่ะ โดยถ้าเทียบค่าใช้จ่ายเฉพาะการแลกคะแนนเป็น 1 ไมล์ Royal Orchid Plus ของสายการบินไทยแล้ว แทบทุกบัตรเครดิตจะใช้เกณฑ์ในการแลกไมล์เท่าๆ กัน คือการใช้จ่าย 25 บาทต่อ 1 ไมล์ Royal Orchid Plus เท่ากันทั้งหมด ส่วนบัตร เดอะวิสดอม ซิกเนเจอร์ กสิกรไทย และบัตร SCB Private Banking ที่สามารถนำคะแนนสะสมมาแลกเป็นไมล์ได้ในอัตราที่ดีกว่าปกติ แต่ก็จะมีเงื่อนไขเพิ่มเติมตามที่เสนอในรายละเอียดด้านบนค่ะ
ความคุ้มครองในด้านต่างๆ ที่บัตรฯ มอบให้
แผนการคุ้มครองที่บัตรเครดิต อินฟินิท ธนาคารกรุงเทพมอบให้
1) แผนคุ้มครองการรักษาพยาบาลขณะเดินทางในต่างประเทศ - จ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีเข้ารักษาตัวทั้งแบบผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยในเนื่องจากประสบอุบัติเหตุในต่างประเทศ และกรณีเข้ารักษาตัวแบบผู้ป่วยในเมื่อเจ็บป่วยในต่างประเทศ ในวงเงินคุ้มครองสูงสุด 2 ล้านบาท
(บัตรเครดิตที่มีความคุ้มครองในส่วนนี้ให้เช่นกัน คือ บัตร SCB Private Banking มีค่ารักษาพยาบาลบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยที่ต่างประเทศ 800,000 บาทต่อครั้ง ส่วนบัตรในระดับเดียวกันอีกใบอย่าง The Wisdom Infinite ไม่มีวงเงินให้เข้ารักษาตัวแบบผู้ป่วยในเมื่อเจ็บป่วยในต่างประเทศค่ะ ให้เฉพาะค่ารักษาพยาบาลเนื่องมาจากอุบัติเหตุระหว่างเดินทางสูงสุดเท่านั้นค่ะ) - การเคลื่อนย้ายเพื่อการรักษาพยาบาลฉุกเฉิน ในวงเงินคุ้มครองสูงสุด 4 ล้านบาท
- การส่งกลับประเทศไทยในกรณีเสียชีวิต ในวงเงินคุ้มครองสูงสุด 2 ล้านบาท
นอกจากนี้ผู้ถือบัตรยังสามารถขอรับเอกสารยืนยันสิทธิประโยชน์จากความคุ้มครอง เพื่อใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศต่างๆ ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการทำประกันสุขภาพเพิ่มเติม เพียงแจ้งความประสงค์พร้อมหลักฐานการซื้อบัตรโดยสารผ่านศูนย์บริการสมาชิกบัตรอินฟินิท ธนาคารกรุงเทพ เพื่อขอรับ Certificate ก่อนการเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันทำการ
2) แผนประกันอุบัติเหตุการเดินทาง
รับความคุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุขณะโดยสารในยานพาหนะสำหรับการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุด 1,000,000 เหรียญสหรัฐ (SCB Private Banking คุ้มครอง 35 ล้านบาท) เพียงชำระค่าโดยสาร หรือโปรแกรมท่องเที่ยวผ่านบัตรอินฟินิท ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งความคุ้มครองนี้ครอบคลุมถึงคู่สมรสตามกฎหมาย บุตรธิดาโดยกำเนิด และบุตรบุญธรรมที่จดทะเบียนตามกฎหมายซึ่งมีอายุต่ำกว่า 23 ปี ที่ร่วมเดินทาง
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-638-4899 แผนคุ้มครองนี้ บมจ. กรุงเทพประกันภัย เป็นผู้รับประกันภัย
3) แผนพิทักษ์สินค้าที่ซื้อรับความคุ้มครองจากแผนพิทักษ์สินค้าที่ซื้อ ให้ความคุ้มครองสำหรับความเสียหายที่เกิดแก่สินค้านานถึง 90 วัน นับจากวันที่ซื้อ เพียงท่านชำระค่าสินค้าผ่านบัตรอินฟินิท ธนาคารกรุงเทพ พร้อมรับความคุ้มครองในวงเงินสูงสุด 400,000 บาทต่อปี หรือไม่เกิน 100,000 บาทต่อรายการ
ตัวอย่างความคุ้มครองในบัตรเครดิตอื่นๆ - SCB FIRST บัตรเครดิตระดับ World ของค่าย MasterCard มีประกันสินค้าที่ซื้อ 30 วัน
วงเงิน 120,000 บาทต่อครั้ง (รวม 400,000 บาทต่อปี) - SCB Private Banking บัตรเครดิตระดับ Infinite ของค่าย VISA เท่ากัน มีประกันสินค้าที่ซื้อ 30 วัน
วงเงิน 200,000 บาทต่อครั้ง (รวม 500,000 บาทต่อปี)
สรุปความคุ้มครองทั้ง 3 ส่วนนี้จะมอบให้ต่อเมื่อผู้ถือบัตรชำระค่าบัตรโดยสาร โปรแกรมท่องเที่ยว และสินค้าผ่านบัตรเครดิตอินฟินิท ธนาคารกรุงเทพ ดูคร่าวๆ แล้วสิทธิ์ในการให้แผนคุ้มครองการรักษาพยาบาลระหว่างเดินทางในต่างประเทศนี่ถือว่าดีมาก ให้วงเงินคุ้มครองต่อครั้งสูงถึง 2 ล้านบาท แถมยังสามารถขอรับเอกสารยืนยันสิทธิประโยชน์จากความคุ้มครองเพื่อใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศต่างๆ ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการทำประกันสุขภาพเพิ่มเติม เพียงแจ้งความประสงค์พร้อมหลักฐานการซื้อบัตรโดยสารผ่านศูนย์บริการสมาชิกบัตรอินฟินิท ธนาคารกรุงเทพ เพื่อขอรับ Certificate ก่อนการเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันทำการ ตรงนี้น่าจะได้ใจลูกค้าบัตรที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ค่ะ เสียดายแค่นิดเดียวตรงที่บัตรอินฟินิท ธนาคารกรุงเทพ ไม่มีประกันการเดินทางล่าช้าหากไฟล์ทดีเลย์ กระเป๋าเดินทางมาช้าหรือหายไปค่ะ ถ้ามีจะครบและครอบคลุมยิ่งขึ้นค่ะ
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-638-4899 แผนการคุ้มครองทุกประเภทข้างต้น รับประกันภัยโดย บมจ. กรุงเทพประกันภัย
บริการผู้ช่วยส่วนบุคคลตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านศูนย์บริการสมาชิกบัตรอินฟินิท ธนาคารกรุงเทพ โทร. 02-638-4899
- ผู้ช่วยประสานงานบริการในเรื่องต่างๆ โดยให้ข้อมูล และจองบริการต่างๆ อาทิ ตั๋วเครื่องบิน สนามกอล์ฟ โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั่วโลก จองบัตรคอนเสิร์ต หรือการแสดง จัดส่งของขวัญและดอกไม้
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน อาทิ ให้บริการช่างซ่อมรถยนต์ ช่างกุญแจรถยนต์ บริการยก/ลากรถยนต์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล หรือในเขตต่างจังหวัด ทุกกรณีให้บริการฟรีปีละ 1 ครั้ง ในวงเงินไม่เกิน 1,500 บาทต่อกรณี นอกจากนี้จะเป็นการให้บริการติดต่อประสานงานกรณีเติมน้ำมันฉุกเฉิน และประสานงานให้สามารถเดินทางไปยังที่พักอาศัย หรือจุดหมายของท่าน (วงเงินช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนให้เท่ากับบัตร เดอะวิสดอม ระดับ Signature ที่เป็นบัตรเครดิตในระดับรองลงมาจาก Infinite ส่วนบัตรเครดิต SCB Private Banking ซึ่งเป็นบัตรระดับ Infinite เท่ากันให้บริการในวงเงินไม่เกิน 2,000 บาทต่อกรณีค่ะ
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉินในที่พักอาศัย ติดต่อประสานงานซ่อมแซมเบ็ดเตล็ดภายในที่พักอาศัย เช่น จัดหาช่างไฟ ช่างประปา ช่างแอร์ และช่างกุญแจ เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งความช่วยเหลือฉุกเฉินในที่พักอาศัยเป็นแค่การประสานงานเรียกช่างซ่อมมาจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นให้เท่านั้นนะคะ ไม่มีการกำหนดวงเงินมาช่วยดูแลค่าใช้จ่ายเบื้องต้นให้เหมือนบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ที่เมื่อเกิดเหตุการณ์จะมีวงเงินบริการให้ครั้งละไม่เกิน 1,500 บาท ซึ่งจริงๆ ส่วนนี้บัตรระดับ Infinite ของ VISA น่าจะมีให้ เพราะจากที่หาข้อมูลเพิ่มเติมมานั้น บัตรเครดิต SCB Private Banking ซึ่งเป็นบัตรระดับ Infinite เท่ากัน จะมีวงเงินในการให้บริการความช่วยเหลือฉุกเฉินในที่พักอาศัยไม่เกิน 2,000 บาทต่อกรณีค่ะ นอกจากนี้มีบัตรเครดิต Citibank Select ระดับ Signature ซึ่งเป็นบัตรระดับรองลงมาจาก Infinite ก็มีวงเงินในการช่วยเหลือต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินในบ้านให้ครั้งละ 2,000 บาท (ใช้ได้ 2 ครั้งต่อปี) เช่นกันค่ะ
คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์สมัคร
ได้รับการเรียนเชิญให้สมัครจากทางธนาคาร หรือเป็นผู้ที่มีเงินลงทุนในธนาคารกรุงเทพตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป เป็นระยะเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน
เงื่อนไข
หากเป็นการลงทุนประเภทเงินฝากต้องเป็นแบบฝากประจำ ขั้นต่ำ 6 เดือน
กองทุน LTF, RMF นับรวมได้ ส่วนกองทุนอื่นๆ ต้องเป็นกองทุนที่มีระยะเวลาการลงทุนตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
ค่าธรรมเนียม - บัตรหลัก 30,000 บาท
- บัตรเสริม 30,000 บาท
ยกเว้นค่าธรรมเนียม - ปีแรกฟรี
- ปีถัดไปยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี 30,000 บาท ต่อปี ทั้งบัตรหลักและบัตรเสริม เมื่อบัตรหลักยังคงคุณสมบัติมียอดรวมเงินฝากทุกประเภท ตั๋วแลกเงิน และ/หรือเงินลงทุนในกองทุนรวมเฉลี่ยตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ติดต่อกันเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือนเมื่อครบกำหนดพิจรณาค่าธรรมเนียมรายปีในปีนั้นๆ
ตัวอย่างค่าธรรมเนียมของบัตรเครดิตในระดับใกล้เคียง - SCB First เก็บ 10,000 บาท
- SCB Private Banking เก็บ 50,000 บาทต่อปี
- Central The Black (บัตรระดับ World MasterElite ถือเป็นบัตรระดับสูงของค่าย Master Card)
มีค่าธรรมเนียมรายปีค่ะ 20,000+vat. ต่อปี
สรุปวิเคราะห์รวบยอดสิทธิพิเศษต่างๆ ของตัวบัตรฯ
โดยภาพรวมแล้วบัตรอินฟินิท ธนาคารกรุงเทพ ถือว่าเป็นบัตรเครดิตที่มอบสิทธิประโยชน์ให้แก่เจ้าของบัตรได้หลากหลายแถมยังโดดเด่นในเรื่องของการเป็นบัตรระดับ Infinite ที่ปัจจุบันถือเป็นบัตรที่อยู่ในระดับสูงสุดของ VISA ค่ะ แต่บัตรเครดิตใบนี้ก็ยังมีทั้งจุดที่โดดเด่นและจุดด้อยของสิทธิประโยชน์ในบางข้อค่ะ
สิทธิพิเศษที่ไม่มีหรือควรปรับปรุง - เรื่องการอัพเกรดระดับชั้นของตั๋วเครื่องบินค่ะสิทธิพิเศษนี้ไม่มี
(ซึ่งบัตร SCB Private Baking ออฟเฟอร์การอัพเกรดระดับตั๋วของการบินไทยให้หนึ่งระดับค่ะ) - ที่จอดรถสำรองตามห้างสรรพสินค้าหรือธนาคารเจ้าของบัตร
(บัตร The Wisdom Signature และ SCB Private Banking มีให้) - ส่วนที่ควรปรับปรุงเห็นชัดๆ คือเรื่องฟิตเนสที่จำกัดจำนวนครั้งเพียง 1 ครั้งต่อเดือน แถมยังมีสถานที่ให้เลือกออกกำลังกายได้น้อยมาก หากเทียบกับบัตรที่ใช้เงินลงทุนต่ำกว่าอย่างบัตร Krungsri Exclusive Signature (กำหนดให้มีเงินลงทุน หรือ เงินฝาก กับ ธนาคารกรุงศรี เฉลี่ยย้อนหลัง 6 เดือน เกิน 5 ล้านบาทขึ้นไป) สิทธิประโยชน์ในเรื่องสุขภาพและฟิตเนสจะมีความหลากหลายกว่า
สิทธิพิเศษที่โดดเด่น - ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ ที่ให้วงเงินในการรักษาพยาบาล เข้ารักษาตัวแบบผู้ป่วยในเมื่อเจ็บป่วยในต่างประเทศ ในวงเงินคุ้มครองสูงสุด 2 ล้านบาท
- สามารถขอรับเอกสารยืนยันสิทธิประโยชน์จากความคุ้มครองเพื่อใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศต่างๆ ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการทำประกันสุขภาพเพิ่มเติม
- อภินันทนาการมื้ออาหารพิเศษ และชุดน้ำชายามบ่าย ฟรีเดือนละครั้ง ดีทั้งในแง่ของจำนวน และความหลากหลายของตัวเลือกโรงแรม
- สิทธิพิเศษที่สนามบินอย่างห้องรับรองของ Royal Silk ของสายการบินไทย ที่ผู้ถือบัตรสามารถใช้บริการได้ทั้งการเดินทางในประเทศ และต่างประเทศค่ะ ส่วนนี้โดดเด่นและทำได้ดีกว่าบัตรเครดิตในระดับเดียวกัน
คุณสมบัติผู้สมัคร
ส่วนใหญ่แล้ววงเงินลงทุน 10 ล้านบาท สำหรับธนาคารอื่นนั้นมักจะได้แค่บัตรเครดิตในระดับ Signature ซึ่งเป็นบัตรระดับรองลงมาจาก Infinite ของค่าย VISA ยกตัวอย่างเช่น บัตรเครดิต WISDOM Signature ของกสิกรไทย ส่วนบัตรเครดิตระดับ Infinite ของค่ายอื่นๆ นั้นล้วนแล้วแต่จะต้องใช้วงเงินในการลงทุนที่สูงกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไปทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น บัตรเครดิต KTC-KTB Precious Plus Visa Infinite ต้องมีสินทรัพย์ลงทุนตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป เช่นเดียวกับบัตร SCB Private Banking ส่วนบัตรเครดิต The Wisdom Infinite ของธนาคารกสิกรไทยนั้น ต้องมีวงเงินในการลงทุนกับทางธนาคารสูงถึง 150 ล้านบาทขึ้นไปทีเดียวค่ะ ดังนั้นผู้ที่มีเงินลงทุนสูงๆ และต้องการที่จะครอบครองบัตรเครดิตระดับสูงสุดของ VISA อย่างบัตร Infinite ก็น่าจะสนใจบัตร Infinite ธนาคารกรุงเทพค่ะ เพราะถือว่าเป็นบัตรระดับสูงที่กำหนดวงเงินการลงทุนไว้น้อยที่สุดแล้วค่ะ
สอบถามเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการสมาชิกบัตรอินฟินิท ธนาคารกรุงเทพ โทร. 02-638-4899