"6 ประเภทการออมเงิน" แค่เลือกก็รวยได้...ง่ายนิดเดียว!!
เมื่อพูดถึงความ "รวย" ถือได้ว่าเป็นความฝันของคนที่อยากมีเงินเยอะๆ เอาไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแบบสบายๆ เหลือกินเหลือใช้... แล้วเราจะรวยได้ยังไง? (เพื่อนๆ คงมีคำถามนี้อยู่ในใจ) สิ่งที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราจะทำได้ก็มีไม่กี่วิธี และหนึ่งในนั้นก็คือ "การออมเงิน" ซึ่งเป็นการเก็บเงินในปัจจุบันเพื่อเอาไว้ใช้ในอนาคต ถือเป็นวิธีที่จับต้องได้มากที่สุด มันอาจต้องใช้เวลานาน แต่รับรองได้ว่ามั่นคงแน่นอนค่ะ
การออมเงินในปัจจุบัน เราสามารถเลือกออมได้หลายประเภท วันนี้ CheckRaka เอาการออมที่น่าสนใจมานำเสนอให้เพื่อนๆ ได้ทำความเข้าใจ พร้อมเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียด้วยกันทั้งหมด 6 ประเภท ได้แก่
- ออมเงินในบัญชีเงินฝาก เป็นการฝากเงินไว้กับธนาคาร โดยเราสามารถเลือกได้หลายรูปแบบ ทั้งบัญชีออมทรัพย์ และบัญชีฝากประจำ
- ออมเงินในหุ้น เป็นการลงทุนในหุ้นเพื่อต้องการได้มาซึ่งกำไร หรือผลตอบแทน ที่สูงกว่าการฝากเงินในบัญชี แต่มีความเสี่ยงมากกว่า
- ออมเงินในประกันชีวิต เป็นการออมเงินสำรองไว้เพื่อรองรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับเราในอนาคต ออมในรูปแบบของการจ่ายเบี้ยประกันให้กับบริษัทประกันชีวิต โดยบริษัทฯ จะต้องจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เอาประกันเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิตหรืออยู่ครบตามสัญญาในกรมธรรม์
- ออมเงินใน LTF/RMF เป็นการลงทุนระยะยาว รับดอกเบี้ยในอัตราสูงกว่าบัญชีเงินฝาก พร้อมได้สิทธิพิเศษในการนำเงินลงทุนมาใช้ลดหย่อนภาษีได้
- ออมเงินในกองทุนรวม คือการลงทุนในกองทุนที่มีผู้จัดการกองทุนคอยดูแลเงินให้ตามนโยบายกองทุน ซึ่งมีหลายประเภท และถือเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนอีกทางหนึ่ง
- ออมเงินในอสังหาริมทรัพย์ เป็นการซื้อที่ดิน, บ้าน หรือทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเก็บเป็นทรัพย์สินในอนาคต และเป็นการเก็งกำไรในอนาคตในระดับดี ขึ้นอยู่กับแต่ละทำเลที่ตั้ง
ตารางเปรียบเทียบข้อดี - ข้อเสียรูปแบบการออมทั้ง 6 ประเภท
ประเภทการออม | ข้อดี | ข้อเสีย |
ออมในบัญชีเงินฝาก | - ฝาก-ถอนได้ตามต้องการ
- สภาพคล่องสูง
- ปลอดภัย ความเสี่ยงต่ำ
| |
ออมในหุ้น | - ซื้อ-ขาย ได้ตามต้องการ
- ผลตอบแทนสูงตามความเสี่ยง
| - ความเสี่ยงสูง
- ต้องติดตามราคาหุ้นเป็นประจำ
|
ออมในประกันชีวิต | - แบ่งเบาภาระเรื่องภาษี
- ผลตอบแทนสูง
- คุ้มครองชีวิตและครอบครัว
| - ต้องออมในระยะยาวมาก
- อาจจะไม่ได้ใช้เงินออมนี้เอง เนื่องจากเสียชีวิตก่อนครบกำหนดระยะเวลา
|
ออมใน LTF / RMF | - ใช้ลดหย่อนภาษีได้
- ผลตอบแทนค่อนข้างดี
- ปลอดภัย ความเสี่ยงต่ำ
| |
ออมในกองทุนรวม | - ช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
- มีมืออาชีพดูแลจัดการการลงทุนให้
- ผลตอบแทนค่อนข้างดี
| - อัตราดอกเบี้ยมีความผันผวน เนื่องจากขึ้น-ลงในทิศทางตรงข้ามกับอัตราดอกเบี้ย
|
ออมในอสังหาริมทรัพย์ | - ผลตอบแทนค่อนข้างดี
- ใช้เก็งกำไรในอนาคตได้
| - สภาพคล่องต่ำ
- ใช้เงินลงทุนจำนวนมาก
|
สุดท้ายนี้ จะเห็นได้ว่าทุกการออมที่เสนอมานั้นมีทั้งข้อดี และข้อเสีย ไม่มีแบบไหนที่จะการันตีได้ว่า "ดีที่สุด" เพราะสุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับเราเองว่าจะเลือกแบบไหนให้เหมาะกับเราที่สุดนั่นเอง