สมัครบัตรเครดิตอะไรดี?... 4 Key Successes เลือกบัตรให้โดนใจ
สมัครบัตรเครดิตอะไรดีอะพี่ มันเยอะเหลือเกิน ? จากข้อมูลของ Checkraka (เดือน ก.ย. 58) ในบ้านเรามีบัตรเครดิต In Circulation อยู่ในตลาดทั้งหมดประมาณ 224 ใบจากผู้ประกอบการ 18 ราย เลือกกันไม่ถูกเลยละสิคะ!! ซึ่งถ้ามีให้เลือกกันมากมายขนาดนี้ วันนี้ Checkraka มี Keyword สั้นๆ ง่ายๆ เป็นข้อแนะนำในการเลือกบัตรเครดิตให้โดนใจค่ะ คือ "เลือกบัตรเครดิตที่ตรงกับการใช้งานในแต่ละวันของตัวเราให้มากที่สุด!!" ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูกันเลยค่ะ
1. ค่าใช้จ่ายประจำรูดบัตรที่ไหน "บ่อย" ที่สุด?
โดยปกติพวกเราทุกคนมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายประจำ (Regular Expenses) ทุกๆ สัปดาห์ หรือทุกเดือน ซึ่งก็จะมีอยู่ 3 อย่างหลักๆ คือ ค่าสาธารณูปโภค (เช่น ค่าโทรศัพท์) ค่าใช้จ่ายซุปเปอร์มาร์เก็ตซื้อของกินของใช้เข้าบ้าน (เช่น ค่าซื้ออาหารสด นม สบู่ ยาสีฟัน) และค่าเดินทาง (เช่น ค่าน้ำมันรถ) เทคนิคง่ายๆ คือให้เลือกสมัครบัตรเครดิตที่ออกร่วม หรือออกโดยห้างสรรพสินค้า สถานบริการ หรือร้านค้านั้นๆ ค่ะ เพราะบัตรพวกนี้มักจะให้ผลตอบแทน หรือคะแนนสะสมที่คุ้ม และเยอะกว่าการที่เราจะเลือกใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตทั่วไปค่ะ ตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ นะคะ ถ้าปกติทุกวันเสาร์ คณแม่ชอบลากเราไปกินข้าว หรือซื้อของที่ห้าง Tesco Lotus หากเราถือบัตร Tesco Lotus Visa Platinum เราจะได้ประโยชน์จากบัตรนี้ประมาณนี้ค่ะ
ส่วนวิธีการคำนวณคืน 3.5% คูปองเงินสด คลับการ์ด เมื่อช้อปที่เทสโก้ โลตัส
ด้วยบัตรเครดิต เทสโก้ โลตัส วีซ่า แพลทินัม จะใช้สูตรการคำนวณง่ายๆ ตามภาพนี้ได้เลยค่ะ 2. Lifestyle เราเป็นแบบไหน?
ข้อแนะนำต่อมาคือให้เราลองถามตัวเองว่าเราชอบใช้ชีวิตแบบไหนค่ะ เช่น ชอบดูแลสุขภาพร่างกาย ชอบกิน ชอบดื่ม ชอบช้อปปิ้งตามห้าง หรือชอบเดินทางท่องเที่ยว เพราะบัตรเครดิตหลายๆ ใบมักจะออกแบบมาเพื่อให้ตรงกับ Lifestyle ของผู้ใช้บัตรเครดิตค่ะ และประโยชน์หลักๆ ที่จะได้ของการถือบัตรที่เน้น Lifestyle เหล่านี้คือ ยิ่งใช้บัตร ก็จะยิ่งได้ "ส่วนลด" หรือ "เพิ่มโอกาสในการ Enjoy สิ่งที่ชอบ" หรือ "ได้ฟรี" มาเลยก็มีค่ะ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเห็นผลชัดเจนถึง "ความคุ้มค่า" เมื่อเราใช้บัตรตรง Lifestyle เราเหล่านี้ต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อยสัก 3-4 เดือนขึ้นไปค่ะ
ตัวอย่าง: ถ้าเราชอบเดินทางท่องเที่ยว เราอาจเลือกบัตรที่ออกร่วมกับสายการบินค่ะ เช่น ได้ส่วนลดพิเศษเมื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน แต้มสะสมแลกตั๋วเครื่องบินฟรีได้ ได้ใช้ Lounge สนามบินฟรี หรือได้ประกันภัยกระเป๋าเดินทางหายฟรี เป็นต้น หรือสำหรับคนที่ชอบช้อปปิ้ง และทานของอร่อย Lifestyle แนวนี้หาบัตรใช้ง่ายค่ะ เพราะบัตรเครดิตแทบทุกใบมีโปรโมชั่นเอาใจคนชอบช้อป ชอบชิมทั้งนั้น แต่อาจจะมีข้อแตกต่างกันบ้างในรายละเอียดปลีกย่อย เช่น ร้านอาหารที่เราจะใช้บัตรได้ จำนวนส่วนลด หรือเรื่องเวลาหมดอายุของโปรโมชั่น
3. เลือก "Cash Back" หรือ "Reward Points" ที่ตรงใจ
เทคนิคต่อมาคือให้เลือกบัตรที่ให้ผลประโยชน์ที่โดนใจเราค่ะ โดยทั่วไปบัตรเครดิตจะมีรูปแบบการคืนผลประโยชน์ 2 แบบ คือแบบเครดิตเงินคืน (Cash Back) และแบบคะแนนสะสม (Reward Points) หลักการคร่าวๆ ของ 2 เรื่องนี้ คือ (ก) Cash Back มักจะคืนผลประโยชน์ให้ประมาณ 0.5 - 2% โดยจะคืนเงินเป็น % ให้จากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร ซึ่งบางใบก็คืนให้จากทุกยอดการใช้จ่าย และบางใบก็อาจจะมีเงื่อนไขในการคืนเงิน เช่น คืนเฉพาะค่าใช้จ่ายในหมวดที่กำหนดเช่น คืนให้ 1% เฉพาะยอดใช้จ่ายในหมวดสถานีบริการน้ำมัน ส่วนยอดใช้จ่ายที่ไม่เข้าพวกจะคืนแค่ 0.5% และ (ข) Reward Points จะให้ผลประโยชน์ในรูปของการสะสมคะแนน โดยส่วนใหญ่ 1 คะแนนจะมาจากทุกยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร 20 - 25 บาท โดยสามารถเลือกนำคะแนนไปแลกของ บัตรกำนัล หรือจะแลกเป็นเครดิตเงินคืนก็ได้เช่นกันค่ะ ตัวอย่างนะคะ ถ้าบ้านเราห่างจากที่ทำงาน 25 กม. ต้องขับรถแบบนี้ทุกวัน เติมน้ำมันเดือนละหลายครั้ง เราขอยกตัวอย่างประโยชน์ที่จะได้จากบัตรเครดิตกรณีเติมน้ำมันมาให้ดูเล่นๆ ดังนี้ค่ะ
4. เลือกบัตรที่ให้ "โปรโมชั่น" ที่หลากหลาย และกว้างขวาง
ข้อแนะนำสุดท้ายคือ ให้คำนึงถึงตอนใช้ (Credit Card Usage) ว่า เราจะได้ "ประโยชน์" หรือ "โปรโมชั่น" จากหลายๆ ที่หรือเปล่าเวลาใช้ เช่น ไม่จำกัดวงแคบว่าจะได้ประโยชน์เฉพาะบางสถานที่ หรือบางร้านเท่านั้น เพราะโดยปกติ โปรโมชั่นบัตรเครดิตจะมีกำหนดเวลา ซึ่งถ้าเราใช้บัตรที่ร้านนี้ไม่ได้เพราะโปรโมชั่นหมดแล้ว และบัตรเรามีโปรโมชั่นกว้างขวาง เราอาจใช้บัตรนี้กับร้านอื่นเทียบเคียงกันที่ยังมีโปรโมชั่นอยู่ก็ได้ค่ะ หรือหากบางคนไม่มี Lifestyle ที่ชัดเจน เราก็ขอแนะนำให้คุณเลือกใช้บัตรเครดิตที่มีโปรโมชั่นแบบใจกว้างให้ผลตอบแทนคืนกับลูกค้าจากทุกยอดการใช้จ่ายในทุกๆ สถานที่เอาไว้ก่อนค่ะ
ตัวอย่าง: ขอยกตัวอย่างกรณีบัตรเครดิต Tesco Lotus ต่อนะคะ บางคนอาจคิดว่าได้ประโยชน์แค่ที่ Tesco Lotus แต่ความจริงถ้าเอาไปใช้รูดนอกห้าง Tesco Lotus บัตรก็ยังมีโปรโมชั่นลดราคาตามร้านค้าชั้นนำต่างๆ เช่นกันค่ะ โดยเมื่อใช้จ่ายที่ร้านค้าทั่วไปทั่วโลกทุกๆ 20 บาทจะได้รับ 1 คะแนนสะสมเทสโก้ โลตัส วีซ่า รีวอร์ดส เทียบเท่าแต้มคลับการ์ด 10 แต้ม หรือคิดเป็นมูลค่าของผลตอบแทนในรูปแบบของคูปองเงินสดที่ 0.5% ของมูลค่ารายการใช้จ่ายเลยค่ะ (
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่)
รายละเอียดการรับคะแนนสะสมเทสโก้ โลตัส วีซ่า รีวอร์ด เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเทสโก้ โลตัส วีซ่า แพลทินัม ค่ะ
จาก 4 เทคนิคที่เราแนะนำมานี้ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกสมัครบัตรกันนะคะ โดยเราอาจจะเลือกใช้เพื่อถือเป็นใบที่ 2 หรือ 3 หรือสมัครใช้เป็นบัตรหลักใบแรกก็ได้ ถ้ามีแล้ว ยังรู้สึกอยากได้โปรโมชั่นบางอย่างเพิ่ม ก็ค่อยสมัครบัตรเพิ่มอีกสักใบสองใบเพื่อใช้ควบคู่กันไปก็ได้ค่ะ บัตรเครดิตไม่ใช่แฟนมีแล้วมีอีกได้ค่ะ ทีมงาน Checkraka บัตรเครดิต ขอสนับสนุนให้คนไทยเลือกบัตรเครดิตให้คุ้มค่า และบริหารการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตให้เป็น รับรองมีแต่ได้ไม่มีเสียค่ะ
โปรโมชั่นดีๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจสมัครบัตรเครดิตเทสโก้ โลตัส วีซ่า แพลทินัม ผ่านช่องทางออนไลน์วันนี้ รับฟรี! - กระเป๋าเดินทาง รุ่น iCool ขนาด 20 นิ้ว มูลค่า 4,490 บาท เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสมครบเพียง 8,000 บาทขึ้นไป
ภายใน 30 วันหลังจากบัตรอนุมัติ - หรือรับบัตรของขวัญเทสโก้ โลตัส มูลค่า 500 บาท เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสมครบ 3,000 บาท ขึ้นไป
ภายใน 30 วันหลังจากบัตรอนุมัติ
ระยะเวลาโปรโมชั่น : วันที่ 1 ตุลาคม ถึง 30 พฤศจิกายน 2558
ภายใต้เงื่อนไขบริษัทฯ / ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากสื่ออื่นๆ สมัครเลยมั้ย? คลิก ทิ้งท้ายกันด้วย MV โฆษณา เพลงน่ารักๆ ที่ฉีกจากโฆษณาบัตรเครดิตเดิมๆ ของบัตรเครดิต เทสโก้ โลตัส วีซ่า แพลทินัม บอกเลยสั้นๆ ว่า "ถ้าไม่ดูแล้วพี่จะเสียใจ"