10 เคล็ดลับการใช้บัตรเครดิตให้ปลอดภัย
บัตรเครดิต ได้กลายมาเป็นเครื่องมือในการจับจ่ายใช้สอยที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ด้วยเพราะสะดวกสบาย สามารถผ่อนชำระได้ แถมยังมีแคมเปญโปรโมชั่นจากธนาคารผู้ออกบัตรที่แข่งขันกันออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อคุณมีบัตรเครดิตอยู่กับตัวแล้ว ก็ควรระมัดระวังในการใช้ และรักษาเช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันอันตรายจากเหล่ามิจฉาชีพหัวใสที่หาทางแอบใช้เงินในบัตรเครดิตของคุณ หากบัตรเครดิตของคุณสูญหายหรือถูกโจรกรรม อาจมีผู้อื่นนำบัตรของคุณไปใช้ได้
การทุจริตผ่านบัตรเครดิตทำได้สารพัดรูปแบบ เช่น การลักลอบคัดลอกข้อมูลบัตร (Skimming) โดยคนร้ายอาจแอบคัดลอกข้อมูลส่วนตัวที่เก็บไว้ในแถบแม่เหล็กของบัตรโดยใช้อุปกรณ์ไฮเทคขนาดเล็ก จากนั้นจึงถ่ายโอนข้อมูลเหล่านั้นลงบนบัตรปลอมแล้วนำบัตรนั้นไปใช้ซื้อสินค้าเสมือนเป็นผู้ถือบัตรตัวจริง
วิธีทุจริตที่แพร่หลายอีกวิธีหนึ่งคือ การลักลอบนำหมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลอื่นๆ บนบัตรที่ขโมยมาไปใช้ซื้อสินค้า นอกจากนี้ มิจฉาชีพบางรายอาจพุ่งเป้าไปที่ตู้เอทีเอ็มเพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิตโดยใช้อุปกรณ์คัดลอกข้อมูลบนแถบแม่เหล็ก หรือแอบดูรหัสเอทีเอ็มของผู้ใช้บัตรผ่านกล้องตัวจิ๋วที่แอบติดตั้งไว้ขณะที่ผู้ถือบัตรทำรายการที่เครื่องเอทีเอ็ม
ด้วยเหตุนี้ คุณจึงควรเก็บรักษาบัตรเช่นเดียวกับที่คุณเก็บรักษาเงินสด มิฉะนั้น คุณอาจต้องรับผิดชอบต่อหนี้ที่เกิดขึ้นจากบัตรที่ถูกขโมยหรือจากข้อมูลบัตรที่ถูกผู้อื่นลักลอบนำไปใช้ รวมทั้งต้องมาเสียเวลากับการแจ้งยกเลิกบัตร และเปลี่ยนบัตรใหม่ มีข้อแนะนำวิธีการใช้บัตรให้ปลอดภัย ดังนี้
- โทรแจ้งธนาคารที่ออกบัตรทันทีที่บัตรของคุณสูญหาย และควรแจ้งความที่สถานีตำรวจ และเก็บเอกสารการแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
- เก็บรักษาบัตรของคุณเช่นเดียวกับที่คุณเก็บเงินสด
- หากเป็นไปได้ ไม่ควรปล่อยให้บัตรคลาดสายตาในระหว่างที่พนักงานนำบัตรของคุณไปรูด
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับบัตรกลับคืนมาทุกครั้งหลังชำระเงิน
- ก่อนเซ็นเซลส์สลิป ควรตรวจสอบจำนวนเงินว่าตรงกับราคาของสินค้าและบริการเพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นนำข้อมูลในเซลส์สลิปของคุณไปใช้ในทางที่มิชอบและเก็บไว้เพื่อตรวจสอบความถูกต้องภายหลังอีกครั้ง
- ตรวจสอบยอดค่าใช้จ่ายในใบแจ้งบัญชีบัตรเครดิตประจำเดือนว่ามีจำนวนเงินตรงกับที่คุณใช้ไปหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังกลับจากการเดินทางต่างประเทศ
- ไม่ควรบอกหมายเลขบัตรเครดิตของคุณแก่บุคคลอื่นทางโทรศัพท์ เว้นแต่คุณกำลังติดต่อกับองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือ หรือคุณเป็นฝ่ายเริ่มการติดต่อด้วยตัวเอง
- ตรวจสอบให้แน่ใจหากมีความจำเป็นต้องบอกหมายเลขบัตรเครดิตของคุณทางโทรศัพท์และขอเอกสารยืนยันการซื้อขายที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานขายทางโทรศัพท์ทุกครั้ง
- อย่าไว้ใจพนักงานขายสินค้าทางโทรศัพท์ที่เร่งหรือกดดันให้คุณรีบซื้อสินค้า อย่าให้หมายเลขบัตรจนกว่าคุณตัดสินใจแน่แล้วว่าจะซื้อสินค้า
- หากสมาชิกในครอบครัวคุณนำบัตรของคุณไปใช้อาจโดยที่คุณทราบหรือไม่ทราบมาก่อน คุณจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบยอดการใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพราะโดยหลักเจ้าของบัตรจะเป็นลูกหนี้บัตรเครดิต ไม่ใช่สมาชิกในครอบครัวที่เป็นคนรูดบัตร