โดยมี
คุณอรนุช อิติโกศิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้กล่าวเปิดงาน นำเสนอประสบการณ์การ การอยู่อาศัยของบ้าน โดยกล่าว “ด้วยความเชื่อที่ว่า “RARE SEEK RARES - คนที่แตกต่างย่อมมองหาอะไรที่ไม่เหมือนใคร” จุดนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญให้ NOBLE ริเริ่มพัฒนาบ้านเดี่ยวคอลเลคชัน ‘THE RARE SELECTION BY NOBLE’ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่สะท้อนภาพความสำเร็จและรสนิยมอันแตกต่างผ่านดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ สอดคล้องกับแนวคิดผ่านโครงการ
โนเบิล เทอร์รา พระราม 9 – เอกมัย ที่หลอมรวมชีวิตครอบครัวของคนรุ่นใหม่ให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ให้บ้านไม่ใช่เพียงที่อยู่อาศัย แต่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและค้นพบความสงบได้เมื่อกลับบ้าน และสามารถใช้เวลาร่วมกับคนที่เรารักได้ตลอดเวลาโครงการบ้านเดี่ยวนี้เป็นโครงการแรกที่ ‘แอนโนนีม’ มาร่วมสร้างสรรค์บ้านที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ในจำนวนจำกัดสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพียง 29 ยูนิต
Rare Location: ทำเลที่ครบทุกความสะดวกสบาย ในย่านพระราม 9 – เอกมัย โครงการตั้งอยู่ ถนนพระราม 9 ซอย 17 (ซอยจำเนียรเสริม) จุดเด่นสำคัญของโครงการนี้ลัดเลาะได้หลายเส้นทาง ทั้งประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วน) - พระราม 9 - เอกมัย - เพชรบุรี - ประชาอุทิศ - รัชดาภิเษก เชื่อมต่อกับถ.อโศกมนตรี - สุขุมวิท ทั้งยังรายล้อมด้วยสถานที่สำคัญต่างๆ อย่างรถไฟฟ้า โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โรงเรียนนานาชาติชั้นนำ เช่น Regent’s, SISB, KIS International, Lycée Français International de Bangkok เป็นต้น
Rare Design: เชื่อมต่อคนกับธรรมชาติ ด้วยการออกแบบที่เหนือระดับ โดย คุณปานดวงใจ รุจจนเวท สถาปนิกผู้ออกแบบโครงการ และ Co-founder บริษัท แอนโนนีม จำกัด ที่ออกแบบแนวคิดพื้นฐานตอบโจทย์กลุ่มคนที่ต้องการความพอดี เชื่อในความเรียบง่าย โดยคำว่า ‘Terra’ หมายถึง ผืนดิน ผู้ออกแบบจึงตั้งใจวางคอนเซปต์ให้ดูเป็นบ้านที่ค้นพบความสงบแม้จะอยู่ในใจกลางเมืองและมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว โดยคำนึงถึง 3 องค์ประกอบคือ CONNECTING การกระชับสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว ผ่าน TRIPLE-VOLUME SKYLIGHT ที่เชื่อมโยงกับต้นไม้กลางบ้าน เพื่อเป็นจุดศูนย์กลางของบ้านในการเชื่อมต่อทุกคนในบ้านให้มองเห็นกันได้ตลอดเวลา, GROUNDING การสร้างสิ่งแวดล้อมให้ผู้อยู่อาศัยสงบและกลับมาสู่จุดสมดุลเหมือนได้กลับมาชาร์จพลังชีวิตทุกครั้งที่กลับบ้าน ผ่านองค์ประกอบของธรรมชาติทั้ง แสงธรรมชาติ การหมุนเวียนอากาศและพื้นที่สีเขียวที่เชื่อมต่อกันตั้งแต่หน้าบ้าน กลางบ้านจนไปถึงหลังบ้านเพื่อสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว, SELF SUFFICIENT การอยู่อาศัยแบบพึ่งพาตัวเอง ด้วยการออกแบบที่ใช้พลังงานน้อยลง พึ่งพาธรรมชาติมากขึ้นเพราะสามารถเปิดรับแสงแดด สายลม อากาศบริสุทธิ์จากพื้นที่สีเขียวในบ้านได้มากขึ้น ผ่านการออกแบบช่องเปิดต่างๆ และ SKYLIGHT และกระจกบานใหญ่ภายในบ้านรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้น
Rare Experience: ยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิต ให้บ้านเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย รวมถึงสังคมที่มีคุณภาพ มีความเป็นส่วนตัวสูง ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและฟังก์ชันที่สร้างประสบการณ์ที่เหมาะสมสำหรับครอบครัวในโลกยุคใหม่ นำเอานวัตกรรม และดีไซน์อันชาญฉลาดที่ผสานเข้ากับความสวยงามได้อย่างลงตัว เริ่มตั้งแต่ประตูทางเข้าโครงการแบบ Double-Gate Security มีประตู 2 ชั้น ช่วยหลีกความวุ่นวายจากถนนเมื่อเข้ามาในโครงการ รวมถึงมีการออกแบบ Sanctuary Clubhouse ไว้ติดกับ Gate ทางเข้าเพื่อความสะดวกในการใช้งาน และการเตรียมจุดติดตั้ง EV Charger ให้กับบ้านทุกหลังเพื่อตอบสนองเทรนด์ความยั่งยืน