x
icon-filter ค้นหาบ้าน
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

NOBLE โชว์ยอดขาย 7 เดือน ทุบสถิติแตะ 12,540 ลบ. รับอสังหาฯฟื้น มั่นใจปีนี้รายได้เติบโตมี Backlog 21,000 ลบ.

ข่าว icon 16 ส.ค. 65 icon 1,280
บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) โชว์ฟอร์มยอดขาย (Pre-sale) 7 เดือนแรกฉลุย ทำนิวไฮทุบสถิติสูงเป็นประวัติการณ์แตะ 12,540 ล้านบาท หนุน Backlog พุ่ง 21,000 ล้านบาท รับอสังหาริมทรัพย์ฟื้น มั่นใจปีนี้รายได้เติบโตจากโครงการที่กำลังจะสร้างเสร็จ 5 โครงการและมี Backlog ในมือกว่า 21,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า จะรับรู้ได้ในปี 2565 เป็นจำนวนกว่า 6,000 ล้านบาท เล็งเปิดตัวโครงการใหม่ทาวน์โฮม "โนเบิล เคิร์ฟ” โซนเอกมัย-รามอินทรา มูลค่ากว่า 3,800 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน
นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล  ดีเวล ลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการที่อยู่อาศัยในทำเลชั้นนำของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้เริ่มมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน หลังจากสถานการณ์ของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ Sentiment รวมถึงกำลังซื้อของกลุ่มผู้บริโภคกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสะท้อนได้จากยอดขาย (Pre-sale) ของ NOBLE  ในช่วง 7 เดือนแรก 2565 ที่สามารถสร้างยอดขายแตะระดับ 12,540 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 173% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งยอดขายดังกล่าวถือเป็นการสร้างการเติบโตที่ทำสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาส (New Highs) และที่สำคัญยังเป็นการเติบโตสูงกว่าปี 2564 ทั้งปีที่มียอดขายที่ระดับ 8,035 ล้านบาท
สำหรับยอดขายในช่วง 7 เดือนแรกที่ผ่านมา แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมแนวสูงจำนวน 10,062 ล้านบาท และเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม Low Rise จำนวน 2,478 ล้านบาท ทั้งนี้หากแบ่งยอดขายดังกล่าวเป็นโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Inventory) เป็นจำนวน 1,286 ล้านบาท และโครงการเปิดใหม่รวมโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเป็นจำนวน 11,254 ล้านบาท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่เป็นจำนวนทั้งหมด 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 23,100 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมียอดขาย (Pre-sale) เฉลี่ยกว่า 50% แล้ว นอกจากนี้ยังมีโครงการเดิมที่สร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการโนเบิล บี19 สุขุมวิท โครงการโนเบิล เกเบิล วัชรพล โครงการนิว คอนเน็กซ์ เฮาส์ ดอนเมือง และ โครงการโนเบิล อราวน์ สุขุมวิท 33 เป็นต้น
ทั้งนี้ จากยอดขายดังกล่าวในข้างต้นส่งผลให้ยอดขายรอโอน (Backlog) ในมือของ NOBLE เติบโตทะลุระดับ 21,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ และต่อเนื่องไปใน 2-3 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าจะรับรู้ได้ในปี 2565 เป็นจำนวนกว่า 6,000 ล้านบาท ยอดขายรอโอนดังกล่าวทำให้บริษัทฯ เชื่อว่าปีนี้จะสามารถสร้างรายได้เติบโตมากกว่าปี 2564 และในปี 2566 จะเห็นการเติบโตของรายได้แตะที่ระดับ 15,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากยอด Backlog ที่มีมูลค่าสูงดังกล่าวจะเป็นตัวการันตีได้ว่าหลังจากนี้บริษัทฯ จะมีการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องโดยจะส่งผลให้บริษัทฯมีความสามารถในการสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในระยะยาว
สำหรับภาพรวมด้านผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,540 ล้านบาท หรือลดลง 48% YoY และมีขาดทุนสุทธิ 21 ล้านบาท หรือลดลง 103% YoY ขณะที่ช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,043 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิ 14 ล้านบาท เป็นผลมาจากบริษัทฯ ไม่มีโครงการใหม่ที่สร้างเสร็จพร้อมโอน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีโครงการสร้างเสร็จใหม่พร้อมโอน ทั้งนี้โครงการที่รับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 มาจาก โครงการโนเบิล บี 19 สุขุมวิท โครงการนิว แจ้งวัฒนะ โครงการนิว คอนเน็กซ์ เฮ้าส์ ดอนเมือง และโครงการโนเบิล เกเบิล วัชรพล เป็นต้น ซึ่งทั้ง 4 โครงการเป็นโครงการเดิมที่โอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2564 
นายธงชัย กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของบริษัทฯ ในปี 2565 (กรกฎาคม-ธันวาคม) จะมีทิศทางการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการทยอยส่งมอบโครงการที่มีกำหนดสร้างเสร็จใหม่ เช่น โครงการโนเบิล สเตท 39 โครงการนิว งามวงศ์วาน โครงการนิว ศรีนครินทร์-ลาซาล โครงการโนเบิล อราวน์ อารีย์ และ โครงการนิว โนเบิล เซ็นเตอร์ บางนา
อีกทั้งยังมีโครงการแนวราบที่เตรียมส่งมอบพร้อมกับการเปิดขาย เช่น โครงการนิว คอนเน็กซ์ เฮาส์ ดอนเมือง โครงการโนเบิล เคิร์ฟ โครงการโนเบิล คูเรท และ โครงการนิว โคฟ นอร์ธ ราชพฤกษ์ เป็นต้น ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยจะประเดิมด้วยโครงการ "โนเบิล เคิร์ฟ" เป็นโครงการทาวน์โฮมแนวคิดใหม่ "Urban Home" ใจกลางเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ในระดับราคา 12-30 ล้านบาทต่อยูนิต โดยมีมูลค่าโครงการกว่า 3,800 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวภายในเดือนสิงหาคมนี้
"ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มดีขึ้น การผ่อนคลายของมาตรการและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีทิศทางที่ดี ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการตอบรับในโครงการต่างๆ ของบริษัทฯ ที่ดีตามลำดับ รวมถึงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวก็ส่งผลดีต่อ Sentiment ของคนในประเทศด้วย ซึ่งจะเข้ามาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและรายได้ของคนในประเทศ อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่จะช่วยผลักดันกำลังซื้อจากต่างชาติเข้ามาเพิ่ม โดยเฉพาะลูกค้าชาวจีนที่ยังคงมีการสอบถามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงลูกค้าจากประเทศอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ เมียนมาร์ และยุโรปที่มีความต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ถือเป็นตลาดที่มาช่วยในช่วงที่ประเทศจีนยังไม่เปิดประเทศเต็มที่"

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวอสังหา ปี 2565 ข่าวโนเบิล 2022

ข่าวและอีเว้นท์บ้านล่าสุด




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)