นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บริษัทฯรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้รับความไว้วางใจจากคณะผู้จัดงาน APEC ของรัฐบาลไทยในการเลือกใช้โซลูชั่นการจัดงานประชุมและอีเวนต์ครบวงจรของเรา ซึ่งจะเป็นการประเดิมเปิดใช้ศูนย์ฯสิริกิติ์โฉมใหม่อย่างเต็มรูปแบบ บริษัทฯมีความมั่นใจในศักยภาพของศูนย์การประชุมฯ ที่จะสามารถรองรับการจัดงานทุกรูปแบบได้อย่างไร้ขีดจำกัด เสริมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การันตีด้วยมาตรฐานทัดเทียมกับสถานที่จัดงานอีเวนต์ระดับโลกในประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีอัตลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมด้วยสถาปัตยกรรม และ ภูมิสถาปัตยกรรม ที่งดงาม โดดเด่น เชื่อมโยงกับพื้นที่โดยรอบเข้าด้วยกัน ผ่านการผสมผสานทั้งความเป็นไทยและสากลไว้อย่างลงตัว ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โฉมใหม่นี้ จะสามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าใช้บริการได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ ทีมงานมืออาชีพของเราจะนำองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในธุรกิจ มาใช้ในการให้บริการที่เป็นเลิศให้แก่คณะผู้จัดงานประชุมและผู้เข้าร่วมงานประชุม APEC 65 พร้อมทั้งสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพผู้จัดงานได้อย่างแน่นอน”
QSNCC โฉมใหม่ จะเป็นศูนย์การประชุมแห่งแรกของไทยที่สามารถทลายข้อจำกัดในด้านการจัดอีเวนต์ ด้วยการออกแบบพื้นที่ให้มีความยืดหยุ่น และเทคนิคการก่อสร้างที่ทันสมัย ทำให้ภายในอาคารมีสแปนเสาหรือ ระยะห่างระหว่างเสาที่กว้างมาก จึงได้พื้นที่ฮอลล์ขนาดใหญ่กว่า 22,500 ตารางเมตร สำหรับรองรับการจัดงานทุกรูปแบบอย่างไร้ขีดจำกัด นอกจากนี้ ยังออกแบบให้สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มศักยภาพด้วยฮอลล์ขนาดใหญ่ 2 ชั้นซ้อนกัน พื้นที่รวมกว่า 45,000 ตารางเมตร จึงสามารถจัดงานประชุมหรืออีเวนต์ได้หลายงานในเวลาเดียวกัน โดย QSNCC นับเป็นศูนย์การประชุม สัมมนา และจัดแสดงสินค้าเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีศักยภาพในระดับนี้ อีกทั้งยังเป็นศูนย์การประชุมแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพ เชื่อมตรงกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ในด้านเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก QSNCC ได้เตรียมระบบโครงสร้างพื้นฐานไว้รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่สุดในประเทศไทยรองรับได้ถึงอนาคต (6G) จึงพร้อมสนับสนุนการจัดอีเวนต์รูปแบบออนไลน์และไฮบริดได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมติดตั้งระบบเข้าใช้งานพื้นที่แบบไร้สัมผัส (Touchless Access) และใช้ระบบบริหารอาคารอัจฉริยะ (Intelligence Event Platform Management System) ในการควบคุมการให้บริการพื้นที่ ยิ่งไปกว่านี้ ยังใช้เทคโนโลยีในการดูแลรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดตามมาตรฐานการดำเนินงานระดับสากล พร้อมคำนึงถึงความปลอดภัยด้าน Life Safety เพื่อรองรับการจัดงานระดับโลกทุกรูปแบบ “ด้วยจุดยืนและบทบาทใหม่ในการเป็น The Ultimate Inspiring World Class Event Platform for All ศูนย์ฯสิริกิติ์โฉมใหม่ จะเป็น Event Destination ที่ดึงดูดให้กลุ่มลูกค้าชั้นนำทั้งในระดับประเทศและนานาชาติเข้ามาใช้บริการ และเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป” นายศักดิ์ชัย กล่าวทิ้งท้าย
ศูนย์ฯ สิริกิติ์เป็นศูนย์การประชุมแห่งแรกและแห่งเดียวของไทยที่ผ่านมาตรฐานอาคารเขียว LEED ระดับ Silver ที่มีการวางแผนการพัฒนาตั้งแต่ต้นจนแล้วเสร็จ เน้นการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า 25% และวัสดุที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้มากกว่า 75% การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์โดยรอบโครงการ และใช้อุปกรณ์อัตโนมัติเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและน้ำ หลังจากการพัฒนาแล้วเสร็จ โครงการแห่งนี้จะมีพื้นที่รองรับการจัดการประชุมและนิทรรศการมากถึง 78,500 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยฮอลล์สำหรับการจัดนิทรรศการขนาดใหญ่ 2 ฮอลล์ พื้นที่รวมมากกว่า 45,000 ตารางเมตร ห้องสำหรับจัดประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ 2 ห้อง พื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร และห้องประชุมย่อยที่สามารถรองรับการประชุมได้กว่า 50 ห้อง และมีที่จอดรถภายในอาคารรองรับได้มากกว่า 2,700 คัน อำนวยความสะดวกให้แก่ทั้งผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงาน โดยศูนย์ฯสิริกิติ์โฉมใหม่จะพร้อมเปิดให้บริการในเดือนกันยายน 2565