พรีบิลท์ฯ เปิดขายเฟส 2 บ้าน "พรรณนา" ลั่นยอดขายโตสวนโควิด พร้อมลุยต่อ "พิมนารา" ศรีนครินทร์ฯ
พรีบิลท์ฯ เผย "พรรณนา" บ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ โครงการแรก ย่านพุทธมณฑลสาย 3 ยอดขายโตต่อเนื่องแม้เผชิญโควิดระลอก 3 ล่าสุดเปิดขายเฟส 2 ได้ตามกำหนด ล่าสุดยอดขายเกินเป้าที่ตั้งไว้ คิดเป็นมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท สิ้นปีคาดรับรู้รายได้จากพรรณนา-พิมนารา ได้ 700 ล้านบาท
นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด(มหาชน) (PRE-BUILT) เปิดเผยว่า จากการที่โครงการ พรรณนา พุทธมณฑลสาย 3 ภายใต้การพัฒนาของ บริษัทพรีบิลท์ ดีเวลลอปเม้นท์ บริษัทลูกของ พรีบิลท์ ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีมาโดยตลอดตั้งแต่เปิดโครงการล่าสุดบริษัทได้เริ่มเปิดขายเฟส 2 แล้วซึ่งเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ โดยได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องจากลูกค้า ทั้งนี้ ปัจจุบันขายไปแล้วกว่าครึ่งโครงการ หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวม 1,250 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีลูกค้าโอนบ้านและย้ายเข้ามาอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง และตลอดทั้งปีนี้โครงการ "พรรณนา" จะมีการโอนบ้านให้ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง และจะสามารถรับรู้รายได้ได้มากกว่า 600 ล้านบาท รวมทั้งเตรียมเปิดโครงการใหม่ "พิมนารา" ย่านถนนศรีนครินทร์หนามแดง ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทลงทุนเองทั้งหมดเช่นกัน ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 โครงการจะสร้างรายได้โดยรวมกว่า 700 ล้านบาท
"แม้ไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มระบาดมาตั้งแต่ในช่วงต้นปี 2563 ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันซึ่งเป็นระลอกที่ 3 จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่สำหรับโครงการบ้านเดี่ยว "พรรณนา" กลับสามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดบ้านตัวอย่างให้ลูกค้าที่สนใจสามารถเข้ามาทดลองอยู่จริงได้ 1 วัน ซึ่งทำให้ลูกค้าประทับใจเป็นอย่างยิ่งและส่งผลต่อการตัดสินใจในการซื้อบ้านเพิ่มขึ้น" นายวิโรจน์ระบุ
นายวิโรจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ พรีบิลท์ บริษัทแม่ของ บริษัทพรีบิลท์ ดีเวลลอปเมนท์ มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจก่อสร้างระดับไฮเอนด์มายาวนานและอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำต่างๆ จำนวนมาก ทำให้พรีบิลท์ ดีเวลลอปเมนท์ สามารถสร้างโครงการที่มีความสมบูรณ์แบบในทุกด้าน เพราะสามารถบริหารจัดการต้นทุนและเลือกสิ่งที่ดีและมีคุณค่าที่สุดให้กับลูกค้า ดังจะเห็นได้จากการที่ โครงการพรรณนา มีความคุ้มค่าและแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ในย่านเดียวกัน ทั้งทำเลที่ตั้ง การดีไซน์ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ลงตัว เรียบหรู โปร่งโล่งสบาย มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่สวยงามคงทน สามารถส่งต่อรุ่นสู่รุ่นได้อย่างทรงคุณค่า ในราคาที่สมเหตุสมผลและคุ้มค่า กล่าวได้ว่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ครบในทุกมิติ
ในท้ายที่สุดนายวิโรจน์กล่าวถึง ความคืบหน้าของโครงการ พิมนารา (PIMNARA) บ้านภายใต้แนวคิด "Less For More Living" บ้านโครงการที่สองของบริษัทซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวราคา 5.99 - 7 ล้านบาท บนทำเลถนนศรีนครินทร์ ว่าบริษัทคาดว่าจะสามารถเปิดขาย Presale โครงการพิมนารา ได้ภายในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2564 นี้ และจะสามารถให้ลูกค้าเข้าชมบ้านตัวอย่างได้ประมาณเดือนกรกฏาคมปีนี้ โดยในขณะนี้โครงการพิมนารามีความคืบหน้าอย่างน่าพอใจและเป็นไปตามแผนที่บริษัทกำหนดไว้