SENA ผนึกกำลัง บี.กริม เพาเวอร์ ลุยโครงการ Solar Farm ร่วมกัน
"บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA)" ผู้ประกอบการอสังหาฯ ชั้นนำของเมืองไทยผนึกบริษัท "บี.กริม เพาเวอร์" ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ ร่วมลงทุนธุรกิจ "โซลาร์ ฟาร์ม" โดยพิธีเซ็นต์สัญญาความร่วมมือด้านพลังงานทดแทน จัดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 26 พ.ค. 2558 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล-กรุงเทพฯ ด้านผู้บริหาร "ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์" มั่นใจช่วยต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คาดเตรียมจ่ายไฟเข้าระบบได้ภายในสิ้นปี 2558 พร้อมเตรียมต่อยอดในธุรกิจ Solar Rooftop ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของเสนา
หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปลายปี 2554 ทำให้บริษัทฯ เริ่มตระหนักถึงความอันตรายจากที่ภัยธรรมชาติที่ควบคุมไม่ได้ จึงเริ่มมีการศึกษาเรื่องพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทฯ ได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานอย่าง บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จนตกลงที่จะร่วมมือกันทำธุรกิจ Solar Farm เป็นการเริ่มต้นการทำธุรกิจพลังงานทดแทนขนาดใหญ่ เพื่อสร้าง Economy of Scale นำไปสู่การเพิ่มมูลค่าให้บ้านในโครงการของเสนา ด้วย Solar Rooftop
"การร่วมทุนกับ บี.กริม เพาเวอร์ ถือเป็นมิติใหม่ในการลงทุนของ SENA หลังจากบอร์ดได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหารไปศึกษาแนวทางในการขยายการลงทุนสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน เพื่อต่อยอดธุรกิจ และ บี.กริม เพาเวอร์ ถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานชั้นนำของโลก ทำให้เราตัดสินใจร่วมลงทุนธุรกิจ Solar Farm โปรเจคแรกนี้ร่วมกับทาง บี.กริม เพาเวอร์ และมั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย เป้าหมายหลักในการลงทุนธุรกิจ Solar Farm จริง ๆ แล้วก็เพื่อต่อยอดไปยัง Solar Rooftop ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของเสนา การทำ Solar Farm จะทำให้ประหยัดต้นทุน ได้ราคาแผงโซล่าร์ที่ถูกลง อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดธุรกิจ Recurring Income ของบริษัทฯ สร้างผลตอบแทนและรายได้ที่สม่ำเสมอ เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมด้านพลังงานทดแทน โดยรัฐจะรับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งหมด กำหนดให้ราคาเป็นแบบ Feed In Tariff ที่ 5.66 บาทต่อหน่วย (KW/H) เป็นระยะเวลา 25 ปี ทำให้เป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้กับลูกบ้านและสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัท" ผศ.ดร.เกษรา กล่าว
"คุณปรียนาถ สุนทรวาทะ" ประธานเจ้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ เปิดเผยว่า "การร่วมมือสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในครั้งนี้ สอดคล้องกับแผนธุรกิจของบริษัท ด้วยเหตุที่ บี.กริม เพาเวอร์ เป็นหนึ่งในผู้นำทางด้านธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน ซึ่งปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการผลิตและขายไฟฟ้าและไอน้ำอยู่แล้วทั้งหมด 10 โรง กำลังการผลิตรวมประมาณ 1,200 เมกะวัตต์ และยังมีโรงไฟฟ้าที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอีก 8 โรง กำลังการผลิตรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,200 เมกะวัตต์ รวมถึงการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ลาว และพม่า ในธุรกิจพลังงาน ทั้งที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และ น้ำ โดยวางเป้าหมายไว้ว่าในอีก 5 ปี ข้างหน้าจะมีกำลังการผลิตถึง 5,000 เมกะวัตต์"
การลงทุนของ กลุ่ม บี.กริม จะเน้นการเป็นพันธมิตรยาวนานกับบริษัทที่ได้รับความเชื่อถือและมีชื่อเสียงที่ดี กลุ่มเสนา ก็เป็นผู้ร่วมลงทุนที่เราภาคภูมิใจที่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกันและเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า จะร่วมมือกันก่อสร้างและบริหารโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุด