เข้าใกล้หน้าร้อนเข้ามาอีกครั้งสำหรับปีนี้ บางคนก็เตรียมตัวดับร้อนด้วยการรอติดตั้งแอร์ใหม่ แต่ก่อนอื่นก็อาจจะต้องมาดูกันก่อนค่ะว่า ก่อนจะเลือกซื้อแอร์แต่ละตัวนั้น ต้องมาดูอะไรบ้าง เพราะแอร์นั้นก็มีหลายยี่ห้อ หลายขนาด และหลายราคา วันนี้เราจะเอาวิธีการเลือกซื้อแอร์ พร้อมปิดท้ายด้วยโปรโมชั่น 5 แอร์คุณภาพดี มาพร้อมระบบ inverter จากแบรนด์ดังที่กำลังจัดโปรฯ ลดราคา รอต้อนรับหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึงนี้ด้วยค่ะ
วิธีการเลือกแอร์ ต้องดูอะไรบ้าง
1. ประเภทของแอร์มี่กี่แบบ ?
แอร์มีทั้งหมด 6 แบบด้วยกันค่ะ ได้แก่ แอร์ติดผนัง (Wall Type), แอร์แบบตั้งหรือแบบแขวน (Ceiling/floor type), แอร์ตู้ตั้ง (Package type), แอร์ฝังติดเพดาน (Cassette Type), แอร์แบบหน้าต่าง (Window Type), แอร์แบบเคลื่อนที่ ( Movable type) ซึ่งที่เป็นที่นิยมที่สุดก็คือ แอร์ติดผนัง นั่นเองค่ะ ถ้าเราอาศัยอยู่ในบ้าน หรือคอนโด ก็จะใช้แอร์แบบติดผนัง หรือบางบ้านก็อาจจะใช้แอร์เคลื่อนที่ ซึ่งก็ต้องดูตามความเหมาะสมของแบบบ้านที่ตัวเองอยู่ค่ะ ซึ่งถ้าเป็นบ้านหลังใหญ่มาก ก็อาจจะใช้เป็นแอร์แบบฝังเพดาน ซึ่งก็มีหมู่บ้านจัดสรรบางโครงการใช้เหมือนกันค่ะ
2. ขนาดห้อง เท่าไหร่ เหมาะกับแอร์ BTU เท่าไหร่ ?
นอกจากนี้ก็ต้องมาดูห้องที่จะติดตั้งแอร์ว่ามีขนาดใหญ่เท่าไหร่ เพื่อที่จะได้เลือกขนาด BTU ของแอร์ได้ถูกต้อง การเลือกขนาด BTU ของแอร์ให้เหมาะสมกับห้องก็จะทำให้ประหยัดไฟได้ด้วยค่ะ เพราะถ้าใช้แอร์ที่ BTU เล็กเกินไป จะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานหนัก แอร์ก็จะพังเร็ว แต่ถ้าใช้ BTU ที่ใหญ่เกินไป อย่างแรกเลยคือ เปลืองเงินซื้อแอร์ใหญ่โดยใช่เหตุ นอกจากนี้ก็จะทำให้ห้องเกิดความชื้น และเปลืองไฟด้วยค่ะ ทีนี้เรามาดูหลักการเลือกขนาดแอร์กันคร่าวๆ สามารถทำได้ดังนี้ค่ะ
3. ประหยัดพลังงานแค่ไหน
ถ้าจะให้ง่ายเลยก็คือดูที่มีฉลากประยัดไฟเบอร์ 5 ที่รับรองโดยการไฟฟ้านั่นเองค่ะ ซึ่งเราก็คงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ซึ่งภายในฉลากกก็จะมีการบอกระดับการใช้ไฟฟ้า และข้อมูลเบื้องต้นของเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนั้นๆ เช่น ประสิทธิภาพ ค่าใช่จ่าย ซึ่งถ้าเป็นเบอร์ 5 ก็จะประหยัด และคุ้มค่าที่สุดนั่นเองค่ะ
4. ระบบการทำงาน non-inverter / inverter
ส่วนใหญ่แล้ว ถ้าจะเลือกระบบที่ประหยัดพลังงานก็น่าจะเลือกแบบ inverter เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของเครื่องปรับอากาศ เพื่อควบคุมการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดโดยใช้พลังงานให้น้อยที่สุด ระบบ inverter มีข้อดีหลายอย่าง ทั้งในเรื่องของการช่วยให้ประหยัดพลังงาน ถ้าเป็นแอร์สมัยก่อน พอเราเปิดไปแล้วต้องรอซักพักถึงจะเย็น แต่ถ้าเป็น inverter จะช่วยให้เย็นเร็วขึ้น และยังทำให้อุณหภูมิในห้องนั้นเย็นคงที่อีกด้วย ซึ่งถ้าตอนนี้บ้านไหนยังใช้แอร์แบบเก่าที่เป็นระบบ non-inverter อาจจะต้องลองหันมาเปลี่ยนเป็น inverter ดูค่ะ ถึงแม้ว่าราคาจะแพงกว่ากัน แต่ก็ช่วยประหยัดไฟในระยะยาวได้
5. คุณสมบัติพิเศษ
สำหรับข้อนี้จะขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ของแต่ละคนเลยค่ะ คุณสมบัติพิเศษในที่นี้ก็จะเป็นในเรื่องของฟังก์ชั่นที่มากกว่าเครื่องปรับอากาศทั่วไปเช่น ระบบฟอกอากาศ, ระบบ smart หรือแม้แต่ดีไซน์หน้าตาของเครื่องปรับอากาศก็สามารถนำมาตัดสินใจได้เช่นกันค่ะ
แนะนำแอร์จัดโปรโมชั่นเด็ดๆ สำหรับเครื่องไม่เกิน 12000 BTU พร้อมระบบ inverter ในราคาไม่เกิน 20,000 บาท
1. SAMSUNG เครื่องปรับอากาศ (8500 BTU, Inverter) รุ่น AR10MYFTAURNST
2. LG (12000 BTU, Inverter) รุ่น IZ13R.SE2
3. TOSHIBA เครื่องปรับอากาศ (11900 บีทียู, Inverter) รุ่น RAS-13U2KCV2G-T
4. DAIKIN เครื่องปรับอากาศ (9,200 BTU, Inverter) รุ่น ATKC09TV2S
5. SHARP เครื่องปรับอากาศ (12,000 บีทียู, Inverter) รุ่น AH/AU-GX13