กู้ซื้อบ้านยังไง . . . ให้ผ่านฉิว?

ผู้กู้ต้องมีอายุ 20-70 ปี เพราะอายุของผู้กู้มีผลต่อการพิจารณาระยะเวลาในการให้กู้ตั้งแต่ 5-30 ปี ถ้าผู้ยื่นกู้อายุยังน้อยก็จะทำให้ได้ระยะเวลาการผ่อนที่ยาวขึ้น ส่งผลให้ค่างวดผ่อนบ้านในแต่ละเดือนลดลง เช่นเดียวกับถ้าผู้ยื่นกู้อายุมากระยะเวลาผ่อนบ้านก็จะน้อยลง

รายได้ขั้นต่ำ 10,000 - 15,000 บาท มีอาชีพมั่นคง และมีหลักแหล่งที่ชัดเจน

อายุการทำงานเกิน 6 เดือนขึ้นไป บางที่อาจขอถึง 2 ปี เพราะนอกจากจะดูระดับเงินเดือนแล้ว อายุการทำงานก็เป็นอีกหนึ่งตัวบอกความมั่นคงของงานเราด้วย

กรณีรายได้ต่อเดือนไม่ถึงสามารถขอกู้ร่วมได้สูงสุดถึง 3 คน โดยบุคคลที่คุณกู้ร่วมควรเป็นคู่สมรส หรือบุคคลในครอบครัว ก็จะทำให้ธนาคารพิจารณาอนุมัติการกู้ให้ผ่านได้ง่ายขึ้น

ภาระหนี้ที่รับผิดชอบต้องไม่เกิน 40-60% (หรือ 4,000-6,000 บาท ต่อระดับรายได้ทุกหนึ่งหมื่นบาทต่อเดือน) ซึ่งถ้าเพิ่มค่างวดของการกู้ซื้อบ้านรวมเข้าไปอีกต้องไม่เกิน 80% หากเกินต้องพยายามปิดหนี้บางตัวออกไป เพราะจะทำให้ธนาคารมองว่าเรามีความสามารถในการชำระหนี้ต่ำ อาจจะผ่อนค่างวดไปได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง

ไม่ติดเครดิตบูโร หรือที่ทุกคนเข้าใจว่าติดแบล็คลิสต์ หากติดต้องเคลียร์หรือปิดบัญชีก่อนยื่นกู้ไม่น้อยกว่า 6 เดือน ขอแนะนำเพิ่มเติมว่าถ้ามีแพลนที่จะยื่นกู้ซื้อบ้าน ก่อนระยะเวลายื่นกู้ 6 เดือน ให้หยุดใช้บัตรเครดิตเพื่อผ่อนสินค้า หรือกดเงินจากบัตรกดเงินสด เพราะค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะกลายเป็นเงื่อนไขที่ลดโอกาสการพิจารณาปล่อยกู้ซื้อบ้านจากทางธนาคารทั้งนั้น (คลิกเพื่อดูบทความแนะนำเกี่ยวกับเครดิตบูโร)

ส่วนที่ 1 ออมเงินก้อนสำหรับดาวน์บ้าน ต้องเตรียมไว้ประมาณ 10-20% ของราคาบ้าน (คิดง่ายๆ ก็คือล้านละ 1-2 แสนบาท) หากเราไม่เก็บเงินในส่วนนี้ไว้เลย ก็คงต้องมองหาโครงการบ้านหรือคอนโดที่ยังสร้างไม่เสร็จและให้ผ่อนดาวน์ได้ แต่การผ่อนดาวน์ก็จะเพิ่มภาระทางการเงินให้ตึงมืออยู่พอสมควร เพราะฉะนั้นเราแนะนำให้คุณเก็บเงินก้อนสำหรับดาวน์บ้านให้ได้ก่อนคิดซื้อบ้านจริงจะดีกว่า

ส่วนที่ 2 ออมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องใช้ในขั้นตอนการซื้อบ้าน เพราะนอกจากเงินดาวน์ยังมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยอีกหลายอย่างที่เราจะต้องเตรียมไว้ เช่น เงินจอง ทำสัญญา (คลิกอ่านบทความค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้าน, หรืออ่านบทความค่าใช้จ่ายในการซื้อคอนโด) และโดยทั่วไปธนาคารจะปล่อยสินเชื่อแค่ 90% ของราคาซื้อขาย เราจึงควรเตรียมเงินเก็บสำรองในส่วนนี้ไว้ 10-15% ของราคาบ้าน เพราะนอกจากจะช่วยให้อุ่นใจแล้วเงินคงเหลือในบัญชีก้อนนี้ยังมีส่วนช่วยให้ธนาคารพิจารณาปล่อยกู้สินเชื่อบ้านให้เราด้วย

ส่วนที่ 3 ออมเงินเพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต ประมานการขั้นต่ำของเงินออมส่วนนี้ควรจะมีมากพอ สามารถรองรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเรา ในกรณีที่เราขาดรายได้ขั้นต่ำ 6 เดือนขึ้นไป เพื่อให้เรามีระยะเวลาตั้งหลักเพื่อหางานหรือแหล่งรายได้อื่น

เอกสารส่วนตัว สำเนาบัตรประชาชน ของผู้กู้ และผู้กู้ร่วม, สำเนาทะเบียนบ้านถ่ายเอกสารครบทุกหน้า, กรณีสมรสแล้วต้องใช้สำเนาทะเบียนสมรส หรือเป็นม่ายก็ต้องใช้สำเนาใบสำคัญการหย่า หรือใบมรณะบัตร, หนังสือยินยอมตรวจเครดิตบูโร

เอกสารแสดงรายได้ สลิปเงินเดือนหรือเอกสารแสดงรายได้ล่าสุดอายุไม่เกิน 3 เดือน, Statement ย้อนหลังเป็นเวลาติดต่อกัน 6 เดือน และหนังสือชำระภาษีประจำปี

เอกสารหลักทรัพย์ สำเนาโฉนดที่ดินหรือสำเนากรรมสิทธิ์ห้องชุด, สำเนาเอกสารสัญญาซื้อขาย, สำเนาเอกสารหลักฐานการชำระเงินดาวน์หรือเงินมัดจำ และแผนที่โดยสังเขปของที่ตั้งหลักทรัพย์ค้ำประกัน