ใกล้วันหยุดเข้ามาทุกที หลายๆ คนอาจเตรียมเดินทางในช่วงวันหยุดยาว และคงไม่มีใครอยากได้ยินคำพูดที่ว่า "วันหยุดของเราเป็นวันทำงานของโจร!!" วันนี้เรามาดูกันครับว่าเพื่อความปลอดภัย และเรียบร้อยของบ้าน เราควรจัดการอะไรกับบ้านก่อนไปบ้าง เพื่อที่เราจะได้ไปเที่ยวยาวอย่างสบายใจไม่ต้องเป็นกังวลกับบ้านครับ
1. ล็อกประตู-หน้าต่างให้ครบทุกบาน
เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะลืมแต่บางทีก็ลืมได้ บางคนอาจลืมคือบานหน้าต่างในห้องน้ำ เพราะโดยปกติเราอาจเปิดระบายอากาศไว้แล้วมักลืม หรือมองข้ามไปเพราะอยู่ในมุมสูง ซึ่งเห็นเป็นช่องเล็กๆ อย่างนั้น แต่ในชีวิตจริงก็สามารถปีนเข้ามาได้ง่ายมากๆ
2. นำทรัพย์สินมีค่าเอาไปเก็บไว้ที่อื่น
สำหรับใครที่เก็บของมีค่าสำคัญไว้ในบ้าน เช่น ทองคำ หรือพระเครื่องที่มีมูลค่า เราอาจนำไปฝากญาติ หรือเช่าตู้เซฟธนาคารเก็บของเหล่านี้ชั่วคราวจะเป็นการปลอดภัยกว่ามาก ซึ่งค่าธรรมเนียมจะคิดเป็นรายปีมีตั้งแต่ 500 บาท-5,000 บาทขึ้นอยู่กับธนาคารและขนาดของตู้เซฟนิรภัย
3. เก็บสำเนาบัตรประชาชนของแม่บ้าน-คนขับรถ
บ้านไหนที่ใหญ่และมีพนักงานทำความสะอาด แม่บ้าน หรือคนขับรถอยู่กับเราหรือมาเช้าเย็นกลับ เราควรเก็บสำเนาบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และรูปถ่ายของพนักงานพวกนี้ไว้ให้หมด เพราะคนพวกนี้ถือว่าเป็นคนที่รู้ทางเข้า-ออก และคาดการณ์เวลาที่เราจะอยู่หรือไม่อยู่บ้านได้เสมอ ดังนั้น หากเกิดอะไรขึ้นมา และเกิดกรณีบุคคลเหล่านี้เป็นคนต้องสงสัยขึ้นมา เราจะได้มีข้อมูลเตรียมพร้อมไว้ได้
4. ปิดระบบไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น
ประโยชน์ของการทำแบบนี้คือ 1) เพื่อเป็นการประหยัดไฟ และ 2) เพื่อความปลอดภัยจากเหตุเพลิงไหม้ โดยควรสับสวิตช์ไฟสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่มีการใช้ในช่วงที่เราไม่อยู่บ้านไปที่ "Off" เช่น สวิตช์ทีวี เครื่องปรับอากาศ แต่ในบางส่วนอาจยังมีความจำเป็นก็ไม่ต้องสับสวิตช์ออก เช่น ตู้ปลาที่ใช้เครื่องปั๊มอากาศ หรือตู้เย็นที่เรามีเก็บอาหารอยู่
ถ้าเราไม่ต้องมีการใช้น้ำใดๆ ในบ้าน ก็สามารถปิดวาล์วปั๊มน้ำได้เลย เหตุผลหลักๆ ก็คือเพื่อความปลอดภัยเผื่อเกิดกรณีท่อน้ำ หรือก๊อกน้ำในบ้านเกิดรั่ว หรือซึมตอนที่เราไม่อยู่บ้าน ซึ่งถ้าเราปิดวาล์วไปเลย ก็ช่วยป้องกันปัญหาน้ำรั่ว น้ำซึมเหล่านี้ได้
6. ฝากบ้านไว้กับเพื่อนบ้านหรือตำรวจ
ถ้าเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้าน ก็อาจรบกวนพี่ๆ น้องๆ ข้างบ้านเป็นหูเป็นตาดูแลบ้านให้ หรืออาจเข้าโครงการ "ฝากบ้านไว้กับตำรวจ" ก็ได้ บางคนไปฝากบ้านกับเจ้าหน้าที่นิติบุคคลหมู่บ้าน หรือยามในหมู่บ้าน อันนี้ต้องแน่ใจว่าคนพวกนี้ไว้ใจได้ ไม่งั้นอาจกลายเป็นการชี้ช่องให้มิจฉาชีพแทน
7. เปิดไฟหลอกว่ามีคนอยู่บ้าน
เทคนิคนี้อาจทำได้หลายวิธี เช่น ใช้หลอดไฟกันขโมย Sensor แสงอาทิตย์ซึ่งจะเปิด-ปิดเองอัตโนมัติ โดยหลอดไฟจะติดเองเวลากลางคืน และดับเองในเวลาที่มีแสงอาทิตย์ในระหว่างเวลาเช้าจนถึงก่อนค่ำ เช่น ยี่ห้อ EVE หรือ Lampton หรือหากมีการวางระบบไว้ดีๆ ก็อาจตั้งไฟให้เปิด-ปิดตามเวลาที่ต้องการได้
8. หาที่พักให้สัตว์เลี้ยง
หากท่านเลี้ยงสุนัข หรือแมวไว้ที่บ้าน แล้วต้องไปเที่ยวยาวๆ เราควรต้องฝากใครดูแลสุนัข หรือแมวสุดที่รักเราหน่อย เดี๋ยวนี้ มีสถานที่รับฝากเลี้ยง หรือโรงแรมสุนัขมากมายที่เราพอจะฝากเลี้ยงได้ สนนราคาก็ไล่ตั้งแต่ 100-600 บาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับขนาดสุนัข และปัจจัยอื่นๆ ว่ารวมอะไรบ้าง หรือรับเลี้ยงแบบไหน ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่ร้าน เช่น รวมอาหารหรือไม่ ขังกรงหรือไม่ขังกรง นอนห้องแอร์หรือไม่ เป็นต้น
9. รดน้ำต้นไม้
หากเรามีต้นไม้ หรือสวนในบ้าน มีข้อแนะนำเบื้องต้นที่น่าจะพอช่วยดูแลต้นไม้ของเราไม่ให้เหี่ยวแห้งได้ คือ ติดตั้งเครื่องรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ หรือถ้าเป็นกระถางเล็กๆ ในบ้านก็อาจจะรดน้ำให้ชุ่มที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือจะใช้วิธีหาขวดน้ำพลาสติกปากแคบ (หรือปิดฝาแล้วเจาะรูเล็กๆ) แล้วกลับหัวขวดคว่ำลงปักไปในกระถางเพื่อให้น้ำทยอยไหลลงมาเรื่อยๆ แต่วิธีนี้ต้องระวังไม่ให้น้ำไหลออกจากขวดเร็ว หรือช้าเกินไปด้วย เพื่อให้ต้นไม้ได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอเพียงพอ
10. ติดตั้งอุปกรณ์ช่วยสอดส่อง
การติดตั้งกล้องวงจรปิด (Closed-circuit TV) หรือสัญญาณกันขโมย (House Alarms) จะช่วยให้เราอุ่นใจ โดยอุปกรณ์ทั้งสองอย่างต่างก็มีข้อดี ข้อจำกัด และวัตถุประสงค์ที่ไม่เหมือนกันสักทีเดียว ดังนั้น คำถามหนึ่งที่ถามกันบ่อยคือจะเลือกติดตั้งอะไรดี ซึ่งคำตอบก็คงขึ้นอยู่กับความต้องการ จำนวนคนในบ้าน งบประมาณ ฟังก์ชั่นของอุปกรณ์ที่เราจะติดตั้งเป็นหลัก แต่ถ้าใครมีงบประมาณเพียงพอ การติดตั้งทั้งสองอย่างเลยก็เป็นสิ่งที่ปลอดภัย และสบายใจที่สุดสำหรับเจ้าของบ้านแน่ๆ
ท้ายที่สุดนี้ พวกเรา Checkraka.com ขออวยพรให้ทุกคนมีความสุขกับวันหยุด และปิดบ้านไปเที่ยวได้อย่างสบายใจไร้กังวลกันทุกคนนะครับ