2025 Kia K4 เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ New York Auto Show โดยเป็นซีดาน C-Segment รุ่นใหม่ที่จะมาแทน Kia Forte/Cerato/K3 เดิม สำหรับราคาจะเปิดเผยอีกทีเมื่อใกล้วันวางจำหน่าย
โครงสร้างชื่อรุ่นใหม่
ก่อนหน้านี้เราอาจจะเคยเห็นชื่อ K4 ถูกใช้ในรถที่ขายเฉพาะในจีนด้วย แต่ปัจจุบัน ดูเหมือนว่า Kia จะเปลี่ยนโครงสร้างชื่อรุ่นใหม่ โดยเพิ่งเปิดตัวคอมแพ็คซีดานในชื่อ K3 เพื่อทำตลาดในประเทศกำลังพัฒนาโดยเฉพาะ และใช้ชื่อ K4 ขึ้นมาแทนรุ่น Forte เดิม
คู่แข่ง Honda Civic / Toyota Corolla Altis
Kia K4 มาพร้อมความยาว 4,710 มม. กว้าง 1,850 มม. มีระยะฐานล้อ 2,720 มม. นับว่ายาวกว่ารุ่นเดิมอย่าง Forte เกือบ 80 มม. ทำให้พื้นที่ห้องโดยสารเพิ่มขึ้น รวมถึงพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายก็มีถึง 413 ลิตรเลยทีเดียว โดยคู่แข่งคงหนีไม่พ้น Honda Civic, Toyota Corolla Altis แน่นอน
ออพชั่นครบครัน บางอย่างเหนือกว่าเจ้าตลาด
เมื่อเข้ามาภายในรถ เราจะเห็นดีไซน์แผงหน้าจอขนาดใหญ่ อย่างที่เห็นใน Kia รุ่นใหม่ ๆ หลายรุ่น ซึ่งประกอบไปด้วยมาตรวัดดิจิทัล และหน้าจอ infotainment แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ระบบความบันเทิงสามารถรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายเป็นมาตรฐาน และสามารถอัพเดทซอฟท์แวร์แบบ over-the-air ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบเสียงพรีเมียมอย่าง Harman Kardon เบาะอุ่นและเบาะเย็นในตำแหน่งคู่หน้า ซันรูฟ และระบบสั่งงานด้วยเสียง
รถคันนี้ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่มากมายให้เลือก ตัวอย่างเช่น ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินถนนและคนปั่นจักรยาน ระบบเตือนการจราจรหน้า-หลัง ระบบเตือนจุดบอดด้านข้าง ระบบความคุมให้อยู่ในเลนอัตโนมัติ กล้อง 360 ฯลฯ
ขุมพลังน้ำมันล้วน ไร้ไฮบริด
ถึงแม้เราจะเห็นว่า Kia จะเปิดตัว EV ออกมาหลายรุ่น รวมถึงมีแผนที่จะเปิดตัว EV อีกหลายรุ่นภายในปี 2027 แต่ Kia K4 นั้นไม่ได้มาพร้อมขุมพลังไฟฟ้าอย่างที่ใครหลายคนคิดไว้
ในเบื้องต้น Kia K4 จะมาพร้อมขุมพลัง 2 รูปแบบ ดังนี้
- เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร 147 แรงม้า 178 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ IVT (เกียร์ CVT ของ Kia) ขับเคลื่อนล้อหน้า
- เครื่องยนต์ 4 สูบ 1.6 ลิตร เทอร์โบ 190 แรงม้า 264 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า ในรุ่นนี้จะมี paddle shift มาให้ด้วย
ชุดแต่ง GT-Line เสริมความสปอร์ต พร้อมช่วงล่างอิสระ
Kia K4 จะมีรุ่นตกแต่งสปอร์ต GT-Line และ GT-Line Turbo ที่จะมาพร้อมเครื่องยนต์เดิม เสริมชุดแต่งรอบคัน และเปลี่ยนมาใช้ช่วงล่างหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ เพื่อการขับขี่ที่ดีขึ้น ส่วนรุ่น GT ตัวแรงนั้นยังไม่มีการยืนยันในตอนนี้
แฟน ๆ EV รออีกหน่อย
ส่วนแฟน ๆ รถ EV ไม่ต้องเสียใจไป เพราะ Kia มีแผนที่จะเปิดตัว EV4 อีวีทรงแฮทช์แบ็คเซกเมนต์เดียวกันกับ K4 ตามมาในอีกไม่ช้า หากมีข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติม เราจะนำมารายงานให้ทราบกันอย่างแน่นอน