บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ประกาศเปิดตัว
NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car มาพร้อมแนวคิด
Touchable Smart EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ โดย NETA เป็นแบรนด์จากประเทศจีนที่เข้ามาทำตลาดในไทยโดยบริษัทแม่เอง โดยร่วมมือกับ
บริษัท อรุณ พลัส จำกัด ทำการผลิตให้ (เปิดสายพานการผลิตภายในปี 2024) อีกทั้งยังเป็นฐานการผลิตเพื่อจำหน่ายในภูมิภาคอาเซียน ส่วนด้านการขาย, การตลาด ทาง เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จะเป็นผู้ดำเนินการเอง
สำหรับ
NETA V จะมากับสมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งานด้วยขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous ขนาด 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 38.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางในการวิ่งสูงสุด 384 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็มตามมาตรฐาน NEDC ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP67 พร้อมด้วยระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ HEPT 3.0 และระบบระบายความร้อนแบบ LIQUID COOLING SYSTEM รองรับการชาร์จทั้งกระแสสลับ AC Normal Charge แบบ Type 2 จาก 0-100% ในระยะเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง (ผ่าน NETA WallBox) และการชาร์จกระแสตรง DC Quick Charge แบบ CCS ผ่านตู้ชาร์จสาธารณะจาก 30-80% ในระยะเวลาประมาณ 30 นาที (ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ และกำลังไฟของสถานีชาร์จนั้นๆ) ให้อัตราเร่ง 0-50 กิโลเมตร /ชั่วโมง ใช้เวลาต่ำกว่า 3.9 วินาที โดยมีระบบ regenerative Systems ช่วยให้รถได้รับพลังงานกลับคืนในทุกครั้งเมื่อชะลอรถหรือเบรก
ด้านการออกแบบ
NETA V ได้แรงบันดาลใจมาจาก โลมา หรือ Dolphin Streamline และได้รับการออกแบบภายนอกที่ลงตัวตามหลักอากาศพลศาสตร์ทำให้มีความโฉบเฉี่ยวพร้อมลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานได้เป็นอย่างดี โดยมีมิติตัวถังอยู่ที่ ยาว 4,070 มม., กว้าง 1,690 มม., สูง 1,540 มม. และระยะฐานล้อ 2,420 มม. ส่วนไฟหน้าจะเป็นโปรเจคเตอร์ แบบฮาโลเจน ที่มาพร้อมระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติและ Daytime Running Lights แบบ LED ส่วนไฟท้ายเป็น LED รวมถึงไฟเบรกดวงที่ 3 ที่มากับสปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ต ด้านล้ออัลลอยจะมีขนาด 16 นิ้ว ที่มากับยางขนาด 185/55 R16
และยังมีระบบกุญแจอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อม Ride & Go function ให้รถพร้อมสำหรับการขับขี่ทันทีที่เปิดประตูรถ กับระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) ฟังก์ชันการปล่อยไฟฟ้าสู่ภายนอกที่ให้กำลังไฟฟ้าที่ปล่อยจากรถ 3,300 วัตต์
ในส่วนของภายในเป็นการออกแบบภายในสไตล์ Hi-Tech Minimalist Concept ที่เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในสไตล์มินิมอล พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เบาะนั่งเป็นหนังสไตล์สปอร์ตออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ Ergonomic Zero Gravity Seat โดยเบาะนั่งด้านหลังพับเก็บได้ รองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง สำหรับผู้ขับจะมีหน้าจอมาตรวัดแบบดิจิตอลขนาด 12 นิ้วมาให้ ส่วนหน้าจอกลางเป็นระบบสัมผัส Infotainment Screen แบบแนวตั้งขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ควบคุมการทำงานฟังก์ชันต่างๆ ได้ง่าย รองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS (แอปพลิเคชั่นบางแอปพลิเคชั่นไม่อนุญาติให้ทำการสะท้อนหน้าจอซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแอปพลิเคชั่นนั้นๆ) ผ่าน Mobile hotspot และ สาย USB เคเบิล ให้คุณเพลิดเพลินกับความบันเทิงจากจอเล็กสู่จอใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ GPS นำทาง, ฟังเพลง, คุยโทรศัพท์ และควบคุมระบบปรับอากาศ ที่มาพร้อมระบบกรองอากาศ N95
ส่วนพวงมาลัยจะเป็นแบบมัลติฟังก์ชัน กับระบบระบบเกียร์ไฟฟ้า (Electronic Shifter) ที่เป็นก้านด้านขวา สำหรับพื้นที่บรรทุกสัมภาระจะอยู่ที่ 335 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังจะมีความจุมากขึ้นถึง 552 ลิตร
นอกจากนี้
NETA V ยังครบครันด้วยระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และ ระบบดิสก์เบรกด้านหน้า-หลัง, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันและระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน, ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง, ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS, ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์, กล้องมองหลังพร้อมสัญญาณกะระยะหลังและ เบรกมือไฟฟ้า
โดยในงานแถลงข่าวเปิดตัว NETA V ได้มีการประกาศราคา (ปกติ) ออกมาที่ 760,000 บาท แต่หลังจากหักส่วนลดจากการสนับสนุนของทางภาครัฐทำให้ราคาถูกลงเหลือ 549,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ NETA V พร้อมมีสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี ประกอบไปด้วย
สี Sky Blue
สี Cyan
สี Midnight Grey
สี White Strom
และ สี Sakura Pink
สำหรับผู้ที่จอง NETA V 3,000 คันแรกจะเริ่มส่งมอบภายในสิ้นปีนี้ ขณะนี้ทาง NETA มีผู้แทนจำหน่ายอย่างน้อย 24 แห่ง (กรุงเทพฯ และปริมณฑล 10, ภาคเหนือ 4, ภาคกลาง 1, ภาคใต้ 2,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 และภาคตะวันออก 3 ข้อมูลอัพเดต 3 สิงหาคม 2565) และจะขยายเป็น 30 แห่งภายในสิ้นปี
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ NETA ได้ที่ : Facebook : Neta Auto Thailand, Neta Line Official : @netaautothailand และ
www.neta.co.th