Alex Albon ถูกดันขึ้นทีม Red Bull Racing ประกบคู่ Verstappen ในศึก F1
การแข่งขัน F1 กลับมาเป็นที่สนใจของแฟนๆ ชาวไทยอีกครั้ง หลังจากที่มี นักแข่งสายเลือดไทยอย่าง อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ หรือ Alex Albon จากทีม Scuderia Toro Rosso ที่เพิ่งบินมาเมืองไทยเพื่อเซ็นสัญญากับสปอนเซอร์ใหม่อย่าง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ และ MOOSE CRAFT CIDER แบรนด์เครื่องดื่มคราฟท์แอปเปิ่ลไซเดอร์สัญชาติไทย ก็มีข่าวใหญ่หลังจากการแข่งขันรายการ ROLEX MAGYAR NAGYDIJ 2019 ที่ ฮังการี ว่าถูกทีมใหญ่อย่าง Red Bull Racing ขยับให้ขึ้นไปขับแทน Pierre Gasly คู่กับ Max Verstappen ส่วน Gasly ถูกดึงลงขับคู่กับ Daniil Kvyat ในช่วงที่เหลือของปี 2019 แม้จะเป็นฤดูกาลแรกของ Albon ใน F1 นับเป็นข่าวดีที่แฟนๆ หลายคนอดเป็นห่วงถึงเส้นทางของชีวิตนักแข่งของ Albon จะเป็นยังไงหลังจากนี้
หลังจาก Christian Horner ทีมบอสของ Red Bull Racing ได้ทำการประเมินฟอร์มของ Gasly แล้วตัดสินใจที่จะหาใครมาแทนซึ่ง Kvyat เคยขับให้ Red Bull Racing มาแล้วเลยมาเป็นโอกาสของ Albon ที่จะได้พิสูจน์ตนเอง เนื่องจากนักขับทั้งสี่คนอยู่ภายใต้สัญญาที่สามารถสลับตำแหน่งกันระหว่างสองทีมได้เมื่อทีมต้องการ ด้วยเหตุผลที่ว่า Gasly ไม่สามารถทำผลงานได้เข้าตา ยิ่งทำให้ทีม Red Bull Racing มีคะแนนตามหลัง Ferrari อยู่ถึง 44 คะแนน ( Ferrari 288 คะแนน ส่วน Red Bull Racing 244 คะแนน) ดังนั้นการแลกเปลี่ยน Gasly และให้ Albon ได้ลองจึงเป็นความเสี่ยงที่สนใจ
Albon เริ่มต้นเส้นทางด้วยการเป็นนักขับเยาวชนของ Red Bull ในปี 2012 ซึ่งเมื่อผลงานไม่น่าประทับใจ จึงตัดเขาออกจากโปรแกรมเยาวชนของทีมเมื่อสิ้นปี 2012 นั่นเอง จากนั้นก็ย้ายไปเป็นเยาวชนของทีม Lotus อีก 2-3 ปีถัดมา เมื่อ Lotus ถอนทีมออกจาก F1 เมื่อจบฤดูกาล 2015 Albon ได้ขยับมาแข่งขันใน F3 ยุโรป จบฤดูกาลเป็นอันดับที่ 7 ตามหลังนักขับหน้าใหม่ที่เพิ่งแข่งรายการนี้ปีแรก ทั้ง Charles Leclerc , Lance Stroll และ George Russell ต่อมาเมื่อเข้ามาแข่งขันในรายการซัพพอร์ตของ F1 ทั้ง GP3 และ F2 ความสามารถของเขาก็เป็นที่จับตามองมากขึ้น กระทั่งตกลงเซ็นสัญญากับทีม Formula-E ของนิสสัน เพื่อเป็นนักขับในฤดูกาล 2018-19 แล้ว Red Bull กลับยื่นข้อเสนอที่ยากจะปฎิเสธ
ตอนนี้ Albon ก้าวขึ้นมาอยู่ใน F1 อย่างที่หวังไว้ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ในทีม Scuderia Toro Rosso แต่มีโอกาสใหม่ให้ได้ลองด้วยการดึงขึ้นทีมใหญ่ในช่วงครึ่งฤดูกาลที่เหลือในทีม Red Bull Racing ความกดดันที่เกิดขึ้นกับ Albon คือเขาต้องดิ้นรนให้มากกว่า Gasly เพื่อจะพิสูจน์ว่ามีความสามารถเพียงพอที่จะอยู่ในทีม Red Bull Racing หรือ แม้แต่ทีม Scuderia Toro Rosso ด้วย ซึ่งทางทีม Red Bull Racing ออกมาให้ข่าวว่า ทีมจะใช้การแข่งขันเก้าครั้งที่เหลือเพื่อประเมินประสิทธิภาพของ Albon เพื่อตัดสินใจว่าใครจะควบคู่ที่จะได้ขับกับ Verstappen ในปี 2020
ผลงานใน F1 2019 เปรียบเทียบ Pierre Gasly กับ Alex Albon
Australian Grand Prix: Gasly รอบคัดเลือก: 17 ผลการแข่งขัน: 11 Albon รอบคัดเลือก: 13 ผลการแข่งขัน: 14
Bahrain Grand Prix: Gasly รอบคัดเลือก: 13 ผลการแข่งขัน: 8 Albon รอบคัดเลือก: 12 ผลการแข่งขัน: 9
Chinese Grand Prix: Gasly รอบคัดเลือก: 6 ผลการแข่งขัน: 6 Albon รอบคัดเลือก: 20 ผลการแข่งขัน: 10
Azerbaijan Grand Prix: Gasly รอบคัดเลือก: 15 ผลการแข่งขัน: DNF Albon รอบคัดเลือก: 13 ผลการแข่งขัน: 11
Spanish Grand Prix: Gasly รอบคัดเลือก: 6 ผลการแข่งขัน: 6 Albon รอบคัดเลือก: 12 ผลการแข่งขัน: 11
Monaco Grand Prix: Gasly รอบคัดเลือก: 5 ผลการแข่งขัน: 5 Albon รอบคัดเลือก: 10 ผลการแข่งขัน: 8
Canadian Grand Prix: Gasly รอบคัดเลือก: 5 ผลการแข่งขัน: 8 Albon รอบคัดเลือก: 14 ผลการแข่งขัน: DNF
French Grand Prix: Gasly รอบคัดเลือก: 9 ผลการแข่งขัน: 10 Albon รอบคัดเลือก: 11 ผลการแข่งขัน: 15
Austrian Grand Prix: Gasly รอบคัดเลือก: 9 ผลการแข่งขัน: 7 Albon รอบคัดเลือก: 13 ผลการแข่งขัน: 15
British Grand Prix: Gasly รอบคัดเลือก: 5 ผลการแข่งขัน: 4 Albon รอบคัดเลือก: 9 ผลการแข่งขัน: 12
German Grand Prix: Gasly รอบคัดเลืก : 4 ผลการแข่งขัน: DNF Albon รอบคัดเลือก: 17 ผลการแข่งขัน: 6
Hungarian Grand Prix: Gasly รอบคัดเลือก: 6 ผลการแข่งขัน : 6 Albon รอบคัดเลือก: 12 ผลการแข่งขัน: 10
แฟนๆ ต้องติดตามเชียร์ อละเป็นกำลังใจให้กับ Albon ตั้งแต่ Belgian Grand Prix เป็นต้นไปว่าที่สุดแล้วจะทำผลงานได้เข้าตาทีมขนาดไหน เพื่อที่นั่งในทีมไหนสักทีมนึงระหว่าง Red Bull Racing และ Scuderia Toro Rosso ในปี 2020