Asian Le Mans Series อดีตนักแข่ง F1 พาทีมคว้าชัยหลังจบการแข่งขันสุดโหด 4 ชั่วโมง ที่บุรีรัมย์

สนามช้างฯ ต้อนรับศักราชใหม่ให้แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตได้สนุกกันตั้งแต่ต้นปี ด้วยศึกมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกรายการ Asian Le Mans Series 2018/2019 สนามที่ 3 ที่มีรถ LMP2, LMP3 และ GT เข้าร่วมการแข่งขันกันอย่างคับคั่ง ก่อนจะดวลกันสุดโหดด้วยเวลา 4 ชั่วโมงเต็มเพื่อค้นหาผู้ชนะ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ. บุรีรัมย์ ซึ่งถือเป็นอีกครั้งที่ฝ่ายจัดการแข่งขันเปิดโอกาสให้เยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี เข้าชมฟรี เพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตระดับโลกอย่างใกล้ชิด

Algrave Pro Racing ในรถแข่ง Ligier JS P2 Judd คว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่นในรุ่น LMP2

ศึกมอเตอร์สปอร์ตรายการ Asian Le Mans Series 2018/2019 สนาม 3 นับเป็นปีที่ 4 ที่จัดการแข่งขันขึ้นในประเทศไทย เริ่มด้วยรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ท โดยในการจับเวลารอบควอลิฟาย แบ่งรถแข่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ LMP2 และLMP3 ลงจับเวลาด้วยกัน ส่วนอีกกลุ่มเป็นรถแข่งคลาส GT ผลปรากฏว่าในคลาสสูงสุดอย่าง LMP2 ตำแหน่งโพลโพซิชั่นตกเป็นของทีมแข่งสัญชาติโปรตุกีสอย่าง Algrave Pro Racing ในรถแข่ง Ligier JS P2 Judd หมายเลข 24 ที่ขับโดย Harrison Newey (GBR) กับทีมเมท Andrea Pizzitola (FRA) ด้วยเวลาต่อรอบ 1:25.571 วินาที ส่วนกริดที่ 2 เป็นของทีม United Autosports ทีมแข่งสัญชาติอเมริกัน ซึ่งเป็นจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพ ในรถแข่ง Ligier Js P2 Nissan หมายเลข 22 ที่ขับโดย Phillip Hanson (GBR) กับ Paul Di Resta (MON) ด้วยเวลาต่อรอบ 1:25.956 วินาที ด้านกริดที่ 3 เป็นของ ARC Bratislava ทีมแข่งจากสโลวาเกีย หมายเลข 4 ที่ขับโดย Darren Burke (GBR), Miro Konopka (SVK) และ Ling Kang (CHN)

United Autosports หมายเลข 2 คว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่นในรุ่น LMP3

ด้านคลาส LMP3 กริดสตาร์ทลำดับแรกเป็น รถแข่งหมายเลข 2 จากทีม United Autosports ที่ขับโดย Wayne Boyd (GBR), Chris Buncombe (GBR) และ Garett Grist (CAN) ด้วยเวลาต่อรอบ 1:29.508 วินาที ส่วนกริดที่ 2 เป็นของรถแข่งหมายเลข 65 จาก Viper Nazar Racing ทีมแข่งจากมาเลเซียที่ขับโดย Nigel Moore (GBR) และ Douglas Khoo (MAS) ด้านกริดที่ 3 เป็นของรถแข่งหมายเลข 13 จากทีม Inter Europol Competition จากโปแลนด์ ขับโดย Jakub Smiechowski (POL) และ Martin Hippe (GBR) 

ตำแหน่งโพลโพซิชั่นในรุ่น GT เป็นของรถ Ferrari 488 GT3 หมายเลข 51 จากทีม Spirit Of Race

ขณะที่กริดสตาร์ทในคลาส GT ตำแหน่งโพลโพซิชั่นตกเป็นของรถแข่ง Ferrari 488 GT3 หมายเลข 51 จากทีม Spirit Of Race ทีมแข่งสัญชาติสวิส ที่ขับโดย Alessandro Pier Guidi (ITA), Oswaldo Negri Jr (USA) และ Francesco Piovanetti (PUR) ด้วยเวลาต่อรอบ 1:32.617 วินาที เฉือน Ferrari 488 GT3 หมายเลข 11 จาก Car Guy ทีมแข่งจากญี่ปุ่นที่มาเป็นอันดับที่ 2 ขับโดย James Calado (GBR), Takeshi Kimura (JPN) และ Kei Cozzolino (JPN) ส่วนกริดที่ 3 เป็นของรถแข่ง Audi R8 LMS หมายเลข 88 จาก Tianshi Racing Team จากจีน ขับโดย Jean Karl Vernay (FRA), Chen Wei An (CHN) และ Alex Au (HKG)

Marie Iwaoka และ Stephane Kox ทีม R24 ได้รับความสนใจไม่น้อยจากแฟนๆ

เนื่องในโอกาส วันเด็ก ของไทย สนามช้างฯ เปิดประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตระดับเวิลด์คลาสให้ "เด็กไทย" และผู้ปกครอง ที่เดินทางมาชมการแข่งขัน Asian Le Mans Series ในกิจกรรม Pit Walk ให้มีโอกาสกระทบไหล่นักขับชั้นนำของยุโรปและเอเชียอย่างใกล้ชิด พร้อมรับของแจกกว่า 300,000 ชิ้น หวังสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยรักกีฬาความเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ยังผนึกกำลังกับหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดและภาคเอกชน ร่วมกันจัดกิจกรรมออกบูธเล่นเกมส์แจกของรางวัลให้กับเด็กๆ ที่มาร่วมงานกว่าแสนคนได้มีรอยยิ้ม พร้อมรับของขวัญกลับบ้านกันถ้วนหน้า

การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบมาราธอนชิงแชมป์เอเชียรายการ Aisan Le Mans Series 2018/19 ที่ สนามช้างฯ ที่มีระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร ออกสตาร์ทในเวลา 11.45 น. แข่งขันต่อเนื่องถึง 4 ชั่วโมง โดยจบการแข่งขันในเวลา 15.45 น. ก่อนเริ่มการแข่งขัน ตำแหน่งโพลโพซิชั่นในเรซนี้เป็นของรถหมายเลข 24 ในคลาส LMP2 จาก Algrave Pro Racing ที่ขับโดย Harrison Newey (GBR) และ Andrea Pizzitola (FRA) และ Ate Dirk De Jong (NLD) ขนาบข้างด้วยจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพจาก United Autosports หมายเลข 22 ขับโดย Phillip Hanson (GBR) กับ Paul Di Resta (MON) อดีตนักขับ F1 กริดที่ 3 เป็นของ ARC Bratislava ทีมแข่งจากสโลวาเกีย หมายเลข 4 ที่ขับโดย Darren Burke (GBR), Miro Konopka (SVK) และ Ling Kang (CHN)

เกมการแข่งขันเข้มข้นตั้งแต่ช่วงออกสตาร์ท ก่อนที่ Paul Di Resta จะพารถแข่ง Ligier JS P2 Nissan หมายเลข 22 ของทีม United Autosports ขยับขึ้นเป็นผู้นำเหนือเจ้าของโพลอย่าง Algrave Pro Racing ในรถแข่ง Ligier JS P2 Judd หมายเลข 24 ซึ่งในชั่วโมงแรกนั้นขับโดย Harrison Newey ได้สำเร็จและรั้งตำแหน่งผู้นำเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ก่อนเข้าพิตเปลี่ยนตัวให้ทีมเมท Philip Hanson ออกมาทำหน้าที่ต่อ 

Paul Di Resta พา Ligier JS P2 Nissan หมายเลข 22 ของทีม United Autosports คว้าแชมป์

โดยทีมแข่งอเมริกันใช้กลยุทธ์เข้าพิต 4 ครั้ง ตามแผนสลับนักขับ 2 คน คนละ 1 ชั่วโมง และทำผลงานได้อย่างไร้ที่ติทั้งนักขับ และทีมช่าง ก่อนที่ Hanson จะนำรถแข่งเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก หลังผ่าน 4 ชั่วโมง โดยสามารถวิ่งไปได้ทั้งสิ้น 158 รอบสนาม คิดเป็นระยะทางทั้งสิ้น 719.532 กิโลเมตร คว้าแชมป์ Asian Le Mans Series สนามที่ 3 ของฤดูกาลไปครอง พร้อมกับเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกของทีม United Autosports ในประเทศไทย และเป็นแชมป์แรกของพวกเขาในฤดูกาลนี้ด้วย พร้อมกับเก็บแต้มขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ประจำปีเข้าไปอีก

Algrave Pro Racing จบเรซในอันดับ 2

อันดับ 3 เป็นของ Panis Barthez Competition

ส่วนอันดับ 2 ในสนามนี้ตกเป็นของ Algrave Pro Racing ซึ่งประสบปัญหาหลายอย่าง โดยในช่วง 1 ชั่วโมงสุดท้าย Pizzitola ต้องนำรถเข้า Pit เพื่อแก้ไขปัญหาจากการปะทะกับรถแข่งในคลาส GT ขณะที่พยายามไล่แซงเพื่อน็อกรอบในโค้ง 5 ส่งผลให้การไล่ตามผู้นำเป็นเรื่องยาก และจบเรซในอันดับ 2 เวลาตามหลังแชมป์ถึง 2:18.044 วินาที (1 รอบสนาม) ด้านอันดับ 3 เป็นของรถแข่งหมายเลข 35 จาก Panis Barthez Competition ทีมแข่งฝรั่งเศสที่ขับโดย 3 นักขับ Matthieu Lahaye, Jean-Baptiste Lahaye และ Francois Heriau ตามหลังแชมป์ 1 รอบสนาม

United Autosports คว้าแชมป์ได้อีกรุ่น

ขณะที่คลาส LMP3 แชมป์ตกเป็นของ รถแข่งหมายเลข 2 จาก United Autosports ที่ขับโดย Wayne Boyd, Garett Grist และ Chris Buncombe โดยทั้งสามคนช่วยกันสร้างผลงานพาทีมเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยจำนวนรอบทั้งสิ้น 151 รอบสนาม คิดเป็นระยะทางทั้งสิ้น 687.654 กิโลเมตร 

อันดับ 2 จาก Inter Europol Competition

อันดับ 3 จาก Ecurie Ecosse/Nielsen Racing

อันดับ 2 อย่างรถแข่งหมายเลข 13 จากทีม Inter Europol Competition ที่ขับโดย Jakub Smiechowski และ Martin Hippe ตามหลังแชมป์ 1 รอบสนาม ส่วนอันดับ 3 เป็นของรถแข่งหมายเลข 79 จาก Ecurie Ecosse/Nielsen Racing ขับโดย 2 นักขับจากสหราชอาณาจักรอย่าง Antony Wells และ Colin Noble ตามหลังแชมป์ 2 รอบสนาม 

Ferrari 488 GT3 จาก Car Guy ทีมแข่งญี่ปุ่น คว้าแชมป์ในรุ่น GT

ด้านผลการแข่งขันในคลาส GT แชมป์ตกเป็นของรถแข่ง Ferrari 488 GT3 หมายเลข 11 จาก Car Guy ทีมแข่งญี่ปุ่นที่ขับโดย James Calado, Takeshi Kimura และ Kei Cozzolino ช่วยกันสร้างผลงานยอดเยี่ยม เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกโดยทำไปได้ทั้งสิ้น 146 รอบสนาม คว้าแชมป์ไปครองได้อย่างสุดมันส์ 

Tianshi Racing Team จากจีน ในรถ Audi R8 LMS คว้าอันดับ 2

 Ferrari 488 GT3 หมายเลข 51 จากทีม Spirit Of Race ทีมแข่งสัญชาติสวิส ได้อันดับ 3

อันดับ 2 อย่างรถแข่ง Audi R8 LMS หมายเลข 88 จาก Tianshi Racing Team จากจีน ที่ขับโดย Jean Karl Vernay, Alex Au และ Chen Wei An อยู่ 1:2.185 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของเจ้าของโพลอย่างรถแข่ง Ferrari 488 GT3 หมายเลข 51 จากทีม Spirit Of Race ทีมแข่งสัญชาติสวิส ที่ขับโดย Alessandro Poer Guidi, Oswaldo Negri Jr รวมถึง Francesco Pivovanetti ตามหลังแชมป์ 1 รอบสนาม

Paul Di Resta กับ Phillip Hanson คว้าแชมป์ Overall หลังผ่าน 4 ชั่วโมงของการแข่งขัน

United Autosports ประสบความสำเร็จทั้งในรุ่น LMP2 และ LMP3

สำหรับการแข่งขัน Asian Le Mans Series 2018/19 สนามสุดท้ายจะไปดวลความเร็วกันที่ สนาม เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 22-24 กุมภาพันธ์นี้