ทดสอบพิเศษ Toyota C-HR ไกลถึง Singapore Motor Show สัมผัสกับสมรรถนะพื้นฐาน
ทีมงาน Car Guru Thailand by CheckRaka.com ได้เดินทางไปร่วมงานสิงคโปร์ มอเตอร์โชว์ 2018 ที่ผ่านมา พร้อมได้ทดสอบ
Totoya C-HR กับสถานีจำลองการทดสอบพิเศษเพื่อสัมผัสถีงการทำงานขั้นพื้นฐาน
การทดสอบเป็นแบบ มินิเทสต์ บนสนามจำลองในลานจอดรถท่าเรือ โดยมีรถทั้งหมด 3 คัน 3 ยี่ห้อต่างรุ่น จัดเป็นแบบสเตชั่นต่างๆ ในส่วนของสมรรถนะ และการทดลองระบบช่วยเหลือต่างๆ การขับเปรียบเทียบทำเฉพาะในส่วนของสเตชั่นสมรรถนะที่ในวันทดสอบมีฝนตกลงมาทำให้สภาพพื้นผิวของลานเปียกตลอดเวลา รถ 3 คันต่างยี่ห้อกันที่นำมาเปรียบเทียบ ประกอบด้วย Honda HR-V, Toyota C-HR และ Subaru XV โดยทั้ง HR-V และ C-HR เป็นระบบขับเคลื่อนสองล้อหน้า ส่วน XV เป็น AWD อย่างไรก็ตามผู้เขียนขอเน้นไปที่การทดสอบในส่วนของโตโยต้า CH-R ก่อน
การทดสอบแบ่งออกเป็นรุ่นละ 2 รอบ ซึ่งแต่ละรอบจะต่างตรงที่เปิด-ปิดระบบแทร็กชันคอนโทรลที่ช่วยออกตัว จุดเริ่มต้นของสถานีมีแผ่นเหล็กรองบนพื้นสนามอีกทีเพื่อให้แน่ใจว่าระบบแทร็คชันได้ทำงานแน่นอน ซึ่งวันทดสอบมีฝนยิ่งทำให้การออกตัวบนแผ่นเหล็กเปียกส่งผลต่อตัวรถเต็มที่
ผู้เขียนขับ Toyota C-HR เข้าประจำจุดสตาร์ทบนแผ่นเหล็ก โดยรอบแรกได้ลองปิดระบบแทร็กชันก่อน เพื่อรอเปรียบเทียบความแตกต่างในรอบต่อไป Instructor ที่นั่งไปด้วยบอกให้เริ่มด้วยการคิกดาวน์ ยางก็เกิดอาการสลิปทันที ล้อหน้าขยับพ้นแผ่นเหล็ก ตัวรถพุ่งทะยานออกไปข้างหน้าแบบที่ยังควบคุมได้ และไม่มีอาการรอจังหวะเหมือนกับรุ่นทดสอบก่อนหน้า ตัวรถพุ่งไปสุดทางตรง ผู้เขียนแตะเบรกชะลอเพื่อเลี้ยวขวาทันที และเข้าสู่ไพล่อนที่จัดวางแบบเลนเชนจ์ไว้ดักต่อเข้าสู่จุดเบรกหยุด ซึ่งพบว่าตัวรถยังรักษาอาการเหวี่ยงเข้าโค้งแรงๆ พร้อมกับการเปลี่ยนเลนได้ดีพอสมควร ไม่เสียอาการจนต้องแก้ไขหรือทำให้กังวล
จากจุดเบรกหยุด ก็เข้าสู่ช่วงแท่นที่มีอุปสรรคดัก ต้องใช้ความเร็วต่ำเพื่อจับการทำงานของช่วงล่าง ซึ่ง C-HR ทำได้ดีนุ่มนวลไม่กระด้างเลย จากนั้นก็วนเข้าสู่รอบต่อไปโดยได้เปิดระบบแทร็กชันวิ่ง การขับนับตั้งแต่จุดออกตัว ยางก็ยังมีอาการสลิปเบาๆ แต่ผู้เขียนประทับใจการส่งต่อกำลังที่ให้ความต่อเนื่องและควบคุมง่ายกว่าอีกยี่ห้อ รวมถึงการเข้าโค้งที่เฉียบคมกว่า และตัวถังออกอาการโรลน้อยมาก ช่วงล่างก็ซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีอีกด้วย นับเป็นความประทับใจในการทดสอบแบบสั้นๆ แต่ได้สัมผัสถึงสมรรถนะตัวรถพอสมควร อย่างไรก็ตามคงต้องรอการทดสอบแบบเต็มรูปแบบ ที่ต้องขับทางไกลและใช้งานเสมือนจริงอีกครั้งในโอกาสต่อไป