Honda Connect เชื่อมคุณกับรถยนต์ ให้มั่นใจปลอดภัยทุกการเดินทาง
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว "ฮอนด้า คอนเนค (Honda Connect)" นวัตกรรมเพื่อการขับขี่อย่างมั่นใจและเพื่อความปลอดภัยในทุกการเดินทาง เป็นเทคโนโลยีที่ผสานการทำงานกับแอปพลิเคชันบนมือถือสมาร์ทโฟน โดยผู้ขับขี่และรถยนต์สามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกันได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งช่วยเตรียมความพร้อมให้รถยนต์และผู้ขับขี่ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน และเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถยนต์ นับเป็นจุดเริ่มต้นของสังคมการขับขี่แห่งอนาคตที่เทคโนโลยีจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้รถใช้ถนน โดยฮอนด้า คอนเนค มาพร้อมฟังก์ชั่นหลักทั้งการตรวจสอบและแจ้งเตือนสถานะความพร้อมของรถยนต์ การแสดงข้อมูลลักษณะการขับขี่ และหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดฮอนด้า คอนเนค ยังมีระบบติดต่อช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน เพื่อเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นในตลอดทุกการเดินทาง
ฮอนด้าเล็งเห็นว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตของผู้คนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฮอนด้าในฐานะผู้นำในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ มีความมุ่งมั่นในการพัฒนายนตรกรรม และสร้างสรรค์เทคโนโลยี เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข รวมทั้งมุ่งสร้างสังคมที่ปลอดอุบัติเหตุ ฮอนด้าจึงได้สร้างสรรค์นวัตกรรม "ฮอนด้า คอนเนค (Honda Connect)" ขึ้นเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าฮอนด้าที่ชื่นชอบในเทคโนโลยีอันล้ำสมัย อีกทั้งต้องการความมั่นใจและความปลอดภัยตลอดการขับขี่ โดยฮอนด้า คอนเนค พร้อมทำการติดตั้งและจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม เป็นต้นไป ณ โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
"ฮอนด้า คอนเนค (Honda Connect)" เป็นการนำเทคโนโลยี Telematics ซึ่งเป็นระบบอัจฉริยะในการควบคุมการรับส่งข้อมูลทางไกล ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือสมาร์ทโฟน และกล่องอุปกรณ์รับส่งข้อมูลทางไกล (Telematics Control Unit หรือ TCU) ที่ถูกติดตั้งบนรถยนต์ฮอนด้า ทำหน้าที่เก็บข้อมูลสำคัญผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ เพื่อจัดเก็บและประมวลผลโดย Cloud Technology พร้อมด้วยระบบ GPS ที่ช่วยในการตรวจสอบพิกัดรถยนต์ได้อย่างแม่นยำ และกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน Call Center ยังสามารถแจ้งเตือนหรือติดต่อเพื่อส่งความช่วยเหลือให้ผู้ขับขี่ได้อย่างทันท่วงที
6 ฟังก์ชั่นการใช้งานหลักของ "ฮอนด้า คอนเนค (Honda Connect)"
1) ฟังก์ชั่นสถานะรถยนต์ จะช่วยแจ้งสถานะความพร้อมของรถยนต์ก่อนออกเดินทาง เช่น ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น และอื่นๆ รวมถึงแจ้งเตือนการบำรุงรักษา ประวัติการเข้ารับบริการและกำหนดการเข้ารับบริการครั้งถัดไป เพื่อให้ผู้ใช้ได้ดูแลรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
2) ฟังก์ชั่นข้อมูลลักษณะการขับขี่ ที่จะบันทึกข้อมูลการขับขี่และแสดงผลพฤติกรรมการขับขี่ต่างๆ เช่น ระยะทางการขับขี่ ช่วงเวลาการขับขี่ อัตราความเร็วสูงสุด อัตราความเร็วเฉลี่ย และการบันทึกประวัติการเดินทาง
3) ฟังก์ชั่นตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์
- ผู้ใช้งานสามารถขอพิกัดของรถยนต์ (Find My Car) ได้โดยผ่านฟังก์ชั่นแสดงพิกัดรถยนต์ เมื่อเลือกฟังก์ชั่นขอพิกัดรถยนต์ ระบบจะทำการส่งพิกัดไปยังอีเมล์ที่ลงทะเบียนไว้ (เพื่อความเป็นส่วนตัวของข้อมูล)
- ในกรณีที่รถยนต์ถูกเคลื่อนย้าย ระบบจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนความผิดปกติมาที่ฟังก์ชั่นสถานะพิกัดรถยนต์ในแอปพลิเคชันบนมือถือสมาร์ทโฟน
4) ฟังก์ชั่นติดต่อเพื่อช่วยเหลือฉุกเฉิน
- เมื่อถุงลมทำงานในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ระบบจะส่งสัญญาณไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า (Honda Call Center) เพื่อติดต่อและประสานงานให้ความช่วยเหลือไปยังเบอร์โทรที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรสำรองฉุกเฉิน หากไม่สามารถติดต่อได้ ระบบจะทำการติดต่อหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน (1669)
- ในกรณีเหตุฉุกเฉินอื่นๆ ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปที่ฟังก์ชั่นเบอร์โทรสำคัญสำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น ศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า สถานีตำรวจ รถพยาบาล บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง รวมทั้งบริษัทประกันภัย เพื่อบริการประสานงานความช่วยเหลือฉุกเฉิน
5) ฟังก์ชั่นค้นหาและแชร์การเดินทาง ทำงานเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันแผนที่ เพื่อค้นหาเส้นทางหรือสถานที่ใกล้เคียง เช่น สถานีบริการน้ำมัน ตู้เอทีเอ็ม ร้านสะดวกซื้อ หรือผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า ทั้งนี้ ผู้ใช้สามารถทำการบันทึกสถานที่ที่ใช้ประจำ เพื่อช่วยในการนำทางไปยังจุดหมายได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น อีกทั้งสามารถแชร์บันทึกการเดินทางพร้อมภาพถ่ายบนเฟซบุ๊กส่วนตัวได้อีกด้วย
6) ฟังก์ชั่นข่าวสารและสิทธิพิเศษ ทำหน้าที่ให้บริการแจ้งข้อมูลข่าวสารและสิทธิพิเศษต่างๆ รวมถึงแจ้งเตือนการต่อประกันภัยและภาษีรถยนต์ล่วงหน้าให้กับผู้ใช้งาน
ลูกค้าที่สนใจติดตั้ง ฮอนด้า คอนเนค (Honda Connect) สามารถติดต่อศูนย์บริการเพื่อนัดหมายและนำรถยนต์ฮอนด้าของท่านเข้าติดตั้งกล่องอุปกรณ์รับส่งข้อมูลทางไกล (Telematics Control Unit หรือ TCU) ที่ศูนย์บริการฮอนด้าที่ท่านสะดวกทั่วประเทศ โดยลูกค้าจะต้องทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Honda Connect Thai (รองรับระบบปฎิบัติการสมาร์ทโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชั่น 8.0 ขึ้นไป และระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 4.0 ขึ้นไป) หลังจากนั้นศูนย์บริการจะทำการลงทะเบียนเชื่อมต่อข้อมูล TCU และแอปพลิเคชัน เพื่อสร้างบัญชีการใช้งาน โดยฮอนด้า คอนเนค พร้อมจำหน่ายในราคา 5,900 บาท (ฟรีค่าติดตั้งและค่าสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์เพื่อการส่งข้อมูลรายปี รวม 2 ปี)
รถยนต์ฮอนด้าที่สามารถติดตั้งนวัตกรรม "ฮอนด้า คอนเนค (Honda Connect)"
รุ่นรถยนต์ | ปี |
บริโอ้ / บริโอ้ อเมซ | 2016-2017 |
ซิตี้ / แจ๊ซ | 2014-2017 |
โมบิลิโอ | 2014-2017 |
บีอาร์-วี | 2016-2017 |
ซีวิค | 2012-2017 |
ซีวิค แฮทช์แบ็ก | 2017 |
เอชอาร์-วี | 2015-2017 |
ซีอาร์-วี | 2012-2017 |
แอคคอร์ด | 2013-2017 |
โอดิสซีย์ | 2014-2017 |
หมายเหตุ : รุ่นรถยนต์ที่ยังไม่สามารถรองรับนวัตกรรม "ฮอนด้า คอนเนค (Honda Connect)" ได้แก่
- รถยนต์ไฮบริด - แอคคอร์ด ไฮบริด, ซีวิค ไฮบริด และแจ๊ซ ไฮบริด
- รถยนต์นำเข้า - ฟรีด, สเตปแวกอน และ ซีอาร์-ซีร์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือศูนย์บริการ (Honda Call Center) โทร 0 2341 7777 และ
www.honda.co.th/hondaconnect