CHEVROLET TRAILBLAZER ชีวิต...ยังไปได้อีก
เทรลเบลเซอร์ใหม่ มาพร้อมสุนทรียภาพและความสะดวกสบายที่เหนือกว่า เพิ่มสีตัวถังใหม่ และการตกแต่งภายในที่หรูหรายิ่งขึ้น ห้องโดยสารที่เงียบกว่าเดิม เน้นย้ำความโดดเด่นระดับพรีเมียม
รูปลักษณ์อันแข็งแกร่ง พร้อมสีตัวถังใหม่
รูปลักษณ์ภายนอกอันแข็งแกร่งของเทรลเบลเซอร์ใหม่ มาพร้อมกับสีตัวถังใหม่อย่างสีเทา Satin Steel Gray ขณะที่ด้านหลังใช้ไฟท้ายแอลอีดีเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น LTZ และ LTZ1 เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยบนท้องถนนให้มองเห็นได้ชัดขึ้นโดยเฉพาะในสภาวะที่มีแสงน้อย
ด้านท้ายรถเทรลเบลเซอร์ยังติดตั้งกล้องมองหลัง เมื่อเข้าเกียร์ถอย ภาพด้านท้ายรถจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีนสีบนคอนโซล พร้อมเส้นกะระยะที่แสดงให้เห็นถึงพื้นที่ด้านท้ายรถ โดยภาพบนหน้าจอจะเปลี่ยนทิศทางไปตามการหมุนพวงมาลัย
สำหรับมิติโดยรวม เทรลเบลเซอร์ยังคงมีระยะฐานล้อที่กว้างกว่าคู่แข่ง ขณะที่พื้นที่ในห้องโดยสารมีความกว้างขวางมากกว่า เบาะที่นั่งแถวที่สองและสามมีการจัดวางแบบที่นั่งโรงภาพยนตร์ช่วยให้ผู้โดยสารมองเห็นทัศนวิสัยได้รอบด้าน และสามารถพับให้แบนราบได้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและยืดหยุ่นในการใช้งาน
ห้องโดยสารที่หรูหราและสะดวกสบายยิ่งกว่า
เบาะที่นั่งแบบใหม่ของเทรลเบลเซอร์หุ้มด้วยหนังคุณภาพดี สะดุดตาด้วยสี Brown Stone เพิ่มความหรูหรา ด้วยวัสดุเสริมสีดำมันเงา Piano Black บนแผงแดชบอร์ด คอนโซลกลาง และพวงมาลัย นอกจากนี้ ผู้โดยสารยังสามารถสัมผัสได้ถึงความเงียบในห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการเพิ่มวัสดุดูดซับเสียง ช่วยแยกเสียงรบกวนระหว่างห้องเครื่องยนต์และห้องโดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เบาะที่นั่งผู้ขับขี่เป็นแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ขณะที่ผู้โดยสารทุกที่นั่งจะรู้สึกเย็นสบายตลอดการเดินทางด้วยระบบปรับอากาศของเทรลเบลเซอร์ที่มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารทั้งสามแถว
ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบความประหยัดน้ำมันผ่านหน้าจอแสดงผลอีโค อินเด็กซ์ (Eco Index) ซึ่งมีหน้าจอสถิติที่แสดงอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงในช่วง 50 กิโลเมตรที่ผ่านมา หน้าจอจะแสดงรูปใบไม้หากมีการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันซึ่งวัดค่าจากการกดคันเร่ง
ระบบอินโฟเทนเมนท์เชฟโรเลต มายลิงค์ (MyLink)
ระบบอินโฟเทนเมนท์เชฟโรเลต มายลิงค์ (MyLink) ที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพถูกติดตั้งอยู่ในเทรลเบลเซอร์ทุกรุ่น โดยรุ่นท็อป เทรลเบลเซอร์ LTZ1 มาพร้อมลำโพงหกตัว หน้าจอสีแบบทัชสกรีน และระบบนำทางผ่านดาวเทียมในตัว สามารถแสดงหน้าปกอัลบั้ม วิดีโอ ภาพ และเล่นดีวีดีได้ ขณะที่รุ่น LTZ มีวิทยุ BYOM ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน USB และ AUX ได้ เมื่อเชื่อมต่อแล้วจะมีการแสดงเมนู ได้แก่ เพลง, รูปภาพและวิดีโอ, โทรศัพท์, สมาร์ทโฟน และการติดตั้ง ขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีนของเทรลเบลเซอร์ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงรายการส่วนตัวและใช้โทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี รวมถึงฟังก์ชันอื่นๆ ได้
ขุมพลังเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ
นับเป็นเครื่องยนต์เจนเนอเรชั่นที่สอง โดยรุ่น 2.8 ลิตร ให้พละกำลังสูงถึง 200 แรงม้า (147 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ทำให้เทรลเบลเซอร์เป็นรถที่ทรงพลังที่สุดและมีแรงบิดสูงสุดในรถระดับเดียวกัน เครื่องยนต์ให้อัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจและสมรรถนะที่ต่อเนื่อง รวมถึงศักยภาพการลากจูงและการบรรทุกได้เต็มพิกัด ขณะที่รุ่น 2.5 ลิตรให้พละกำลัง 163 แรงม้า (120 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 380 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลังเป็นแบบ 6 สปีด มาพร้อมกับอัตราทดที่เน้นบุคลิกอันทรงพลังของขุมพลังดูราแม็กซ์ ทำให้เทรลเบลเซอร์มีสมรรถนะและความประหยัดที่เป็นเลิศ ซึ่งเทรลเบลเซอร์ถือเป็นรถอเนกประสงค์รุ่นแรกในตลาดที่ใช้ระบบเกียร์ 6 สปีด ทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ
เทรลเบลเซอร์ใหม่ มีช่วงล่างด้านหลังแบบคอยล์สปริงทั้งสี่ล้อและแบบ 5 ลิงค์ ซึ่งเป็นระบบที่พบได้ในรถอเนกประสงค์ระดับพรีเมียมเท่านั้น และถือเป็นระบบช่วงล่างที่ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน การออกแบบช่วงล่างเช่นนี้จะช่วยลดความสะเทือนและอาการโยนตัวของรถ คอยล์สปริงยังช่วยลดแรงกระแทกได้ดีในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด และเพิ่มความนุ่มนวลเวลาขับขี่ผ่านเส้นทางอันขรุขระ เทรลเบลเซอร์เป็นรถอเนกประสงค์แรกในตลาดที่ใช้ระบบดิสก์เบรกสี่ล้อ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจในทุกการขับขี่
ระบบความปลอดภัย
สำหรับความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและแบบแพสซีฟ เทรลเบลเซอร์ใหม่ มาพร้อมเข็ดขัดนิรภัยคาดตักแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ช่วยลดแรงกระชากจากการรั้งของเข็มขัดนิรภัย ซึ่งจะทำงานร่วมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้า นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน
ประหยัดค่าบำรุงรักษา
เทรลเบลเซอร์ยังมีค่าบำรุงรักษาที่ประหยัด โดยกำหนดการเข้าตรวจเช็คสภาพรถอยู่ที่ทุก 15,000 กม. ซึ่งมีระยะเวลาการกำหนดเข้าตรวจเช็คสภาพนานกว่าคู่แข่งที่กำหนดการตรวจเช็คไว้ที่ทุก 10,000 กม.
เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ใหม่ มี 4 รุ่นย่อยให้เลือก โดยมีราคาจำหน่ายดังนี้
- เทรลเบลเซอร์ 2.5 ลิตร ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์ธรรมดา รุ่น LT 1,095,000 บาท
- เทรลเบลเซอร์ 2.8 ลิตร ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์อัตโนมัติ รุ่น LT 1,129,000 บาท
- เทรลเบลเซอร์ 2.8 ลิตร ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์อัตโนมัติ รุ่น LTZ 1,289,000 บาท
- เทรลเบลเซอร์ 2.8 ลิตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์อัตโนมัติ รุ่น LTZ1 1,465,000 บาท
เชฟโรเลตยังนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษระหว่างงานเปิดตัวเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ใหม่ สู่สาธารณชนที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 14 - 15 กุมภาพันธ์นี้ โดยลูกค้า ที่ซื้อเทรลเบลเซอร์ รุ่นใดก็ได้ จะได้รับบัตรเงินสดมูลค่า 5,000 บาทสำหรับแลกซื้อชุดแต่ง ซึ่งโปรโมชั่นนี้มีที่ศูนย์ผู้จัดจำหน่ายเชฟโรเลตทุกแห่งทั่วประเทศในวันเดียวกันอีกด้วย