Mazda2 ใหม่ ขับสนุก มั่นใจทุกเส้นทาง
Mazda 2 (มาสด้า 2) เพิ่งเปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ไปได้ไม่นาน และเมื่อไม่นานมานี้ ทางทีมงานเช็คราคา.คอม ก็ได้มีโอกาสทดลองขับตัวจริง ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล มาสด้า 2 ใหม่ ปรับเพิ่มอุปกรณ์และระบบต่างๆ เข้าไปมากกว่าปรับเปลี่ยนโฉมภายนอก โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด
SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ที่มาพร้อมกับระบบ G-VECTORING CONTROL อันเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของเทคโนโลยีด้านการควบคุมการขับ ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานก็ใส่มามากขึ้น อย่างระบบ Cruise Control ควบคุมความเร็วคงที่ในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลตัวท็อป
การขับทดสอบ
Mazda 2 ในครั้งนี้ ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี โดยแบ่งรุ่นรถขับไป-กลับต่างกัน รุ่นเครื่องยนต์เบนซินใช้ขับวันเดินทางไป และขับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลในวันกลับ ผู้เขียนได้ขับรุ่น 1.3 High Connect ตัวถังซีดานในวันแรก รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ SKYACTIV-G 1.3 ลิตร ให้กำลังสูงถึง 93 แรงม้า และแรงบิดสูง 123 นิวตัน-เมตร ผู้เขียนพร้อมเพื่อนสื่อมวลชนอีก 1 ท่าน เริ่มเดินทางจากย่านประชาชื่นมุ่งสู่สนามทดสอบรถออฟโรดกรังด์ปรีซ์ที่ อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีผู้เขียนเป็นคนขับ การเดินทางใช้เส้นทางปากเกร็ด-กำแพงแสน-พนมทวน-บ่อพลอย เส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางเปิดโล่ง การจราจรเบาบาง ใช้ความเร็วได้เต็มที่ ส่วนช่วงสุดท้ายผู้เขียนใช้เส้นทางหลวงชนบท 3363 ไปบ่อพลอย เส้นทางคดเคี้ยวกว่าถนนสายหลักทำให้ได้ทดสอบการเข้าโค้งและการตอบสนองของระบบ G-VECTORING CONTROL ได้มากขึ้น ความรู้สึกที่ได้จากการขับมาสด้า 2 รุ่น 1.3 High Connect คือเป็นซีดานขนาดเล็กกลุ่ม Eco car ที่ขับสนุก และมีช่วงล่างที่ยึดเกาะได้อย่างโดดเด่น แม้กำลังเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร จะไม่หวือหวาแต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปรวมถึงเร่งแซงรถช้าในเลนสวน เพราะจริงๆ เครื่องยนต์ SKYACTIV-G 1.3 เน้นไปที่ความประหยัดมากกว่า แต่ก็ไม่ได้ลดทอนความสนุกเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย
วันรุ่งขึ้นผู้เขียนขับออกจากบ่อพลอยในช่วงเช้าเพราะต้องการถึงกรุงเทพฯ ในช่วงเวลาที่รถไม่พลุกพล่านมาก รถที่ใช้เป็นรุ่น XD Sports High Plus L ตัวถังแฮตช์แบ็ก เครื่องยนต์ SKYACTIV-D 1.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบแปรผันอินเตอร์คูลเลอร์ ให้พลัง 105 PS ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที หัวฉีดโซลีนอยด์ฉีดน้ำมันได้แม่นยำ มีประสิทธิภาพ ความรู้สึกการขับใกล้เคียงกับรุ่น 1.3 High Connect แต่ได้พลังทันใจตั้งแต่รอบต้นๆ และเร้าใจมากขึ้นกับสมรรถนะเครื่องยนต์ขนาด 105 แรงม้า และแม้เป็นเครื่องยนต์ดีเซลแต่การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารของ Mazda 2 ก็ทำได้อย่างดีเยี่ยม เพราะเพิ่ม 3 เทคโนโลยีใหม่ในเครื่องยนต์ดีเซล เพิ่มสมรรถนะการขับขี่และให้เสียงเครื่องยนต์ที่เงียบและนุ่มนวลกว่าเดิมเริ่มจาก High Precision DE Boost Control ช่วยให้แรงบิดตอบสนองได้อย่างดีกับอัตราเร่ง ส่วน Natural Sound Smoother และ Natural Sound Frequency Control ก็ช่วยให้เครื่องยนต์เงียบกว่าเดิม
สรุปความรู้สึกที่ได้จากการนั่งในรุ่น XD Sports High Plus L มั่นใจการการทรงตัวและเข้าโค้งฉับไวแม่นยำ อัตราเร่งดี เร่งแซงทันใจ เบรกชะลอหยุดสั่งได้ (ดิสก์ 4 ล้อ) และนั่งฟังเพลงเพลินไปกับระบบ MZD CONNECT: CONNECTIVITY AT YOUR FINGERTIPS ที่เชื่อมต่อออนไลน์แบบง่าย สะดวกและครบทุกฟังก์ชัน ผู้เขียนเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth และเปิดระบบนำทาง Navigator ดูไปด้วย นับเป็นความเพลิดเพลินในตำแหน่งผู้โดยสารตลอดการเดินทาง จนอยากเป็นเจ้าของ Mazda 2 XD Sports High Plus L ถ้าไม่เกี่ยงเรื่องพื้นที่ด้านหลังที่ค่อนข้างจำกัดไปหน่อย เว้นแต่ใช้เป็นรถคันที่สองเพื่อการเดินทางในเมืองหรือท่องเที่ยวใกล้ๆ