"ประยุทธ์" ใช้มาตรา 44 ลงดาบ "ผิดกฎจราจร-ไม่จ่ายใบสั่ง-ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย" เริ่มบังคับใช้แล้ว
"ประยุทธ์" ใช้มาตรา 44 เอาผิดเด็ดขาด "จอดรถที่ห้ามจอด-ไม่จ่ายใบสั่ง-ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย" คาดโทษหนัก สั่งกรมการขนทางบกห้ามต่อทะเบียนเด็ดขาดจนกว่าชำระค่าปรับเรียบร้อยแล้ว และให้กรมการขนส่งทางบกรับส่วนแบ่งค่าปรับ 5% เริ่มแล้ว 21 มี.ค. 2560
ในปัจจุบันมีผู้ขับขี่รถหรือเจ้าของรถที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกจํานวนมาก ทั้งยังมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงและเพิกเฉยต่อการบังคับใช้ทางกฎหมาย และทําความผิดดังกล่าวซ้ำอีก ทั้งการฝ่าฝืนกฏจราจรในหลายหลายรูปแบบ รัฐบาลภายในการนำของ คสช. จึงต้องปรับปรุงกฏหมายเก่าที่มีอยู่เดิม ให้ทันสมัยสอดคล้องกับยุคปัจจุบันมากขึ้น
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคําสั่งให้แก้ไขหรือยกเลิกความในวรรคต่างๆ แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2535
กรณีขับรถและไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ในตัวบทกฎหมาย ให้ยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา 123 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2538 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งในขณะขับขี่รถยนต์ และต้องจัดให้คนโดยสารรถยนต์รัดร่างกายไว้กับที่นั่งด้วยเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถยนต์ และคนโดยสารรถยนต์ดังกล่าวต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งในขณะโดยสารรถยนต์ด้วย"
กรณีได้รับใบสั่ง แล้วไม่ยอมไปจ่ายค่าปรับ ในบทกฏหมายใหม่ ให้ยกเลิกความในมาตรา 141 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2535 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
มาตรา 141/1 ในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถซึ่งได้รับใบสั่งไม่ปฏิบัติตามมาตรา 141 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่และนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์หรือกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก มีหน้าที่และอํานาจ ดังต่อไปนี้
ให้เจ้าหน้าที่ตําแหน่งตั้งแต่สารวัตรขึ้นไปมีหนังสือแจ้งการไม่ปฏิบัติตามใบสั่ง และจํานวนค่าปรับที่ค้างชําระให้ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ครบกําหนดชําระค่าปรับตามที่ระบุในใบสั่ง และให้ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถทําการชําระค่าปรับที่ค้างชําระด้วยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
กรณีที่ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถไม่ชําระค่าปรับ เจ้าหน้าที่แจ้งจํานวนค่าปรับที่ค้างชําระพร้อมหลักฐาน ให้นายทะเบียนตรวจสอบข้อมูลและแจ้งให้ผู้มาติดต่อขอชําระภาษีประจําปีสําหรับรถคันนั้นทราบ เพื่อไปชําระค่าปรับที่ค้างชําระภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ถ้าผู้มาติดต่อขอชําระภาษีประจําปีเป็นเพียงตัวแทนเจ้าของรถ ให้ผู้มาติดต่อแจ้งให้เจ้าของรถทราบเพื่อไปชําระค่าปรับภายในระยะเวลาดังกล่าว
กรณีที่เจ้าของรถไม่ชําระค่าปรับที่ค้างชําระหรือชําระไม่ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กําหนด เจ้าหน้าที่แจ้งนายทะเบียนให้งดการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจําปีสําหรับรถคันนั้น และแจ้งให้พนักงานสอบสวนดําเนินการตามหน้าที่และอํานาจต่อไป กรณีที่ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถเห็นว่า ตนมิได้ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตาม ให้ทําหนังสือโต้แย้งข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากนายทะเบียน
ส่วนเงินที่ได้รับจากค่าปรับ ให้อธิบดีกรมการขนส่งทางบกหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย หักไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บหรือในการดําเนินงานร้อยละ 5 ของจํานวนเงินที่ได้รับ โดยให้นําไปใช้จ่ายได้เช่นเดียวกับเงินงบประมาณตามระเบียบที่อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกําหนด ส่วนเงินที่เหลือให้นําส่งสํานักงานตํารวจแห่งชาติ