Mazda 3 ใหม่ 2017 สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นด้วย G-VECTORING CONTROL และ i-ACTIVSENSE
ทีมงานเช็คราคา.คอม ได้โอกาสร่วมทดลองขับ
มาสด้า 3 ใหม่ (MY2017) หลังเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา โดยเน้นไปที่การสัมผัสเทคโนโลยี GVC หรือ G-Vectoring Control รวมถึงการปรับปรุงเทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ที่ได้ระบบ SCBS และ MRCC เข้ามาเสริม และยังได้ปรับปรุงคุณภาพโดยรวมของตัวรถ ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกและภายใน (อาจสังเกตการเปลี่ยนแปลงได้ยาก เพราะเดิมก็นับว่าลงตัวอยู่แล้ว) ฟังก์ชั่นต่างๆ และการขับเคลื่อนที่เงียบกว่าเดิม
การทดลองขับแบ่งกระจายนั่งคันละ 2-3 คน ผู้เขียนได้ขับ 2 รุ่นคือ 2.0 SP ตัวถังซีดานและ 2.0 S ตัวถังแฮตช์แบ็ก เส้นทางจากโชว์รูมไซม์ดาร์บี้ มาสด้า พาราไดซ์ พาร์ค ถนนศรีนครินทร์ - สนามกอล์ฟ Rancho Charnvee เขาใหญ่ รวมระยะทางกว่า 225 กม.
การขับช่วงแรกขบวนรถ Mazda 3 ใหม่ มุ่งหน้าจากโชว์รูมบนถนนศรีนครินทร์ออกถนนบางนาเพื่อวกกลับเข้าถนนกาญจนาภิเษก เพื่อไปแยกออกถนนรังสิต-นครนายก มุ่งหน้าไปเขาใหญ่เพื่อพักทานอาหารกลางวันที่ ดาษดา แกลเลอรี่ จากนั้นมุ่งขึ้นเขาใหญ่ทางด่านปราจีนบุรี เพื่อออกไปสู่ถนนมิตรภาพแล้วยิงยาวไปแรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ทแอนด์คันทรี่คลับ จังหวัดนครนายก เพื่อรอการทดสอบระบบ GVC และ MRCC ในลานสนามบินเล็กของรีสอร์ท
ความรู้สึกโดยรวมจากการขับตลอดเส้นทางสู่แรนโชฯ ภายใต้โครงสร้างตัวถังและเครื่องยนต์เดิม แต่มีพระเอกใหม่อย่าง สกายแอคทีฟ เวฮิเคิล ไดนามิกส์ เป็นซีรีส์ล่าสุดจากเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ เพื่อควบคุมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ ระบบส่งกำลัง ช่วงล่างและตัวถัง ประสานให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวระหว่างคนกับรถ โดยมี จี-เวคเตอริ่ง คอนโทรล ( G-Vectoring Control - GVC) เป็นจุดเด่น การขับบนถนนหลวงทางช่วงรถติดและถนนโล่ง สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมชัดเจนคือ การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารของมาสด้า3 ใหม่ทำออกได้ดีมาก นอกจากนี้การปรับแต่งคอนโซลภายในเพิ่มเติมก็ช่วยให้ดูพรีเมียมมากขึ้น แต่ผู้เขียนรู้สึกเสียดายที่เบาะไม่เป็นแบบปรับไฟฟ้า อัตราเร่งของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ 2.0 ลิตร อาจไม่หวือหวามากนัก แต่ถ้าเป็นการเติมความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ ก็นับว่าทำได้อย่างน่าพอใจ ระบบเบรกเพื่อชะลอหยุดทั้งความเร็วต่ำและสูงจากดิสก์เบรก 4 ล้อ ให้ความรู้สึกตอบกลับที่ดีและมั่นใจ การเปลี่ยนเลนและเข้าโค้งทำได้อย่างเฉียบคม ระบบกันสะเทือนทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อประสานงานกับ GVC การเข้าโค้งขึ้น-ลงเขาใหญ่ก็กลายเป็นความสนุกกับการขับ รู้สึกกลมกลืนไปกับตัวรถดี ในช่วงพักระหว่างทางผู้เขียนมีโอกาสขยับไปนั่งเบาะหลัง พื้นที่ด้านหลังยังให้ความรู้สึกเหมือนเดิมคือ ค่อนข้างแคบตามสไตล์ตัวถังรถ แต่ก็ยังนั่งได้สบายตลอดทาง แม้เจอการโยนเข้าโค้งแรงๆ ไม่รู้สึกโคลงมากเหมือนรถยนต์ทั่วไป โดยรวมนับว่าพอใจมากกับการปรับปรุงในมาสด้า 3 ใหม่ เพียงแต่อยากได้อัตราเร่งที่ดีกว่านี้อีกนิด
"GVC - ช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ให้แปรตามการสั่งจากพวงมาลัย เพื่อควบคุมให้แรงเหล่านี้เป็นหนึ่งเดียวและเสริมประสิทธิภาพการรับน้ำหนักในแนวดิ่งของยางแต่ละเส้นให้รถยนต์ขับเคลื่อนไปได้อย่างนุ่มนวล และมีประสิทธิภาพสูงสุด GVC ช่วยควบคุมแรงบิด ทำให้เกิดการผ่อนแรงจีทันทีเมื่อเริ่มหมุนพวงมาลัย ทำให้การรับน้ำหนักถูกถ่ายไปที่ล้อหน้าจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนน และการตอบสนองของรถให้ดีขึ้น เมื่อผู้ขับบังคับพวงมาลัยให้อยู่ในองศาที่คงที่แล้ว GVC ก็จะช่วยเรียกคืนแรงบิดของเครื่องยนต์กลับมาและถ่ายน้ำหนักไปที่ล้อหลังเพื่อเพิ่มเสถียรภาพให้กับตัวรถ
การถ่ายน้ำหนักนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนให้แก่ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง รถจะขับเคลื่อนไปดังความตั้งใจของผู้ขับและมีเสถียรภาพเพิ่มขึ้น GVC นั้นให้ผลที่เป็นธรรมชาติและสร้างความสบายให้ทั้งแก่ผู้ขับและผู้โดยสาร เนื่องจากระบบนี้พัฒนาโดยมีปรัชญามนุษย์คือศูนย์กลางเป็นพื้นฐานช่วยให้ระบบนั้นกำเนิดปฏิกิริยาและการควบคุมที่สอดคล้องกับประสาทสัมผัสมนุษย์ ช่วงเวลาที่ระบบตอบสนองต่อการควบคุมพวงมาลัยของผู้ขับนั้นเร็วมากจนไม่สามารถจับสังเกตได้ และการเพิ่มแรงเฉื่อยไม่เกิน 0.1 GVC นั้นให้การควบคุมที่เหนือกว่ามนุษย์จะทำได้ ด้วยการควบคุมที่เป็นธรรมชาติกว่าและแม่นยำกว่าในการตอบสนอง
ข้อกำหนดเดียวที่มีใน GVC คือ ต้องมาจากเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเท่านั้น เพื่อให้การควบคุมแรงบิดเป็นไปอย่างแม่นยำ และระบบช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวสกายแอคทีฟที่ช่วยควบคุมพฤติกรรมรถให้ใกล้เคียงคำว่าสมบูรณ์แบบได้มากที่สุด เพราะ GVC นั้นเป็นเทคโนโลยีที่ไหลลื่นจึงสามารถปรับใช้ได้กับรถยนต์สกายแอคทีฟทุกรุ่นไม่ว่าจะใช้ระบบส่งกำลังแบบใดและเป็นรถเซกเมนต์ไหน นอกจากนี้ เนื่องจาก GVC คือระบบซอฟต์แวร์จึงไม่เพิ่มน้ำหนักให้แก่รถ GVC นั้นเอื้อประโยชน์ในการขับขี่ให้แก่ทุกคนในหลากหลายสถานการณ์ไม่ว่าผู้ขับจะมีทักษะในการขับรถระดับไหน ไม่ว่าจะเป็นการขับในชีวิตประจำวันด้วยความเร็วต่ำในเมือง การขับทางตรงความเร็วสูงบนทางหลวง ทางโค้ง หรือการควบคุมรถขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน GVC ก็ช่วยให้ประโยชน์แก่ผู้ขับเสมอ เพราะมีการถ่ายน้ำหนักลงสู่ล้อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และช่วยผู้ขับให้สามารถควบคุมรถให้อยู่ในเส้นทางที่ต้องการได้ ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องคอยแก้อาการพวงมาลัยบ่อยๆ ซึ่งมักจะทำไปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น ผู้ขับจึงขับรถได้อย่างง่ายดายและควบคุมรถให้อยู่ในเลนที่ต้องการได้ง่ายขึ้น รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถและมั่นใจในการขับรถมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการขับในระยะทางไกลๆ การเปลี่ยนของแรงจีที่นุ่มนวลนี้ช่วยให้ทั้งผู้ขับและผู้โดยสารโคลงตัวไปมาน้อยลงทำให้ทุกคนในรถรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง การควบคุมรถและเสถียรภาพของรถบนพื้นผิวถนนลื่น เช่น เมื่อฝนตก หิมะตก จะยิ่งมีประสิทธิภาพขึ้น ผู้ขับจะรู้สึกว่ายางรถนั้นเกาะถนนอย่างมั่นคงและทุกคนในรถรู้สึกปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม
การทดสอบพิเศษบนลานสนามบินเล็กของรีสอร์ท ทางผู้จัดได้ตั้งกรวยเป็นเลย์เอาท์ ซิกแซกไป-กลับแบบวงรี เพื่อให้ลองระบบ GVC กันอย่างเต็มที่ โดยมีมาสด้า 3 รุ่นก่อนปรับโฉมให้ลองขับก่อนเพื่อสังเกตความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ซึ่งก็พอจับความแตกต่างได้อยู่ นอกจากนี้ยังได้ลองระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (MRCC) หนึ่งในระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-ACTIVSENSE ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ โดยจะทำงานระหว่างความเร็ว 30 - 145 กม./ชม. เรดาร์ของระบบจะจับระยะห่างและความเร็วของรถคันหน้า ระบบจะควบคุมเครื่องยนต์และเบรกโดยอัตโนมัติเพื่อปรับความเร็วและระยะห่างที่เหมาะสมจากรถคันหน้า ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องคอยเหยียบคันเร่งและเบรกเอง จึงลดความเหนื่อยล้าเมื่อขับรถเป็นระยะทางไกลได้ เรดาร์เซนเซอร์ของระบบนี้สามารถตรวจจับรถคันหน้าได้อย่างแม่นยำ เมื่อผู้เขียนได้ลองหลายครั้ง แม้ช่วงแรกยังไม่ชินและเกรงจะชนรถคันข้างหน้าแต่พอเคยชินกับระบบก็ทำให้มั่นใจและรู้สึกถึงประโยชน์ของระบบนี้ ซึ่งมักได้เห็นกับรถยนต์พรีเมียมหรูของยุโรป แต่เมื่อมาสด้านำมาติดตั้งในมาสด้า 3 ใหม่ก็นับว่าเป็นการยกระดับความปลอดภัยของตัวรถให้ฉีกหนีคู่แข่งในตลาดไปอีกขั้น
สรุป Mazda 3 ใหม่ รุ่นท็อป 2.0SP ราคา 1,119,000 บาท ที่ได้ทดลองขับและทดสอบพิเศษนั้น มีความสมบูรณ์แบบในด้านการใช้งาน ขับสนุก และปลอดภัยสูง อย่างครบถ้วน (ถ้ามีเบาะไฟฟ้าและอัตราเร่งที่กระฉับกระเฉงกว่านี้จะยอดเยี่ยมไปอีก) โดยเฉพาะสกายแอคทีฟ เวฮิเคิล ไดนามิกส์ ซึ่งควบคุมทั้งเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ ระบบส่งกำลัง ช่วงล่างและตัวถัง ให้ทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน นอกจากนี้การเพิ่มระบบช่วยเหลือให้กับ i-ACTIVSENSE อย่างระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ (SCBS) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (MRCC) ก็ทำให้มาสด้า3 โดดเด่นด้านความปลอดภัยกว่าเดิมมาก นับเป็นความคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการซีดานหรือแฮตช์แบ็กขนาดกลางที่เด่นด้านรูปลักษณ์ สมรรถนะ และความปลอดภัยสูงสุด