รายงาน การทดสอบสมรรถนะ "มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ : ที่สุดของความสมบูรณ์แบบ"
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมให้สื่อมวลชนทดลองขับรถ
มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ใหม่ ภายในสนาม MITSUBISHI PROVING GROUND อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ระยะทางสั้นๆ ประมาณ 3.7 กม. โดยแบ่งการทดสอบออกเป็น 3 สถานี พร้อมกระจายนักข่าวร้อยกว่าชีวิต แยกย้ายตามสถานีเพื่อทดสอบพร้อมกันก่อนสลับสถานีเพื่อให้ครบทุกการทดสอบ
ทีมงาน CAR GURU โดยเช็คราคา.คอม เริ่มทดสอบที่สถานี 2 COMFORTABLE เพื่อทดสอบความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร โดยผู้เขียนได้ขับรุ่น GT-Premium ขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่เริ่มต้นกับโหมดขับสอง และใช้ความเร็วประมาณ 40 กม./ชม.วิ่งบนสภาพพื้นผิวถนนแบบต่างๆ ที่จำลองให้ใกล้เคียงกับพื้นผิวถนนเมืองไทยมากที่สุด เช่น ผิวถนนยางมะตอยที่เป็นลอน และมีราดทับซ่อมเฉพาะจุด ถนนที่มีฝาท่อเป็นตะแกรงเหล็ก การขับทับปุ่มตาแมว ทั้งซ้าย-ขวา พบว่าตัวรถให้ความเงียบและนุ่มนวลเกินคาด ระบบช่วงล่างสามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนได้ดีมาก จากนั้นเป็นการขับพร้อมปรับโหมดขับเคลื่อนเป็น 4 ล้อแบบ 4H (SUPER SELECT 4WD II) โดยไม่หยุดรถที่ความเร็วประมาณ 40 กม./ชม. (ไม่ควรเกิน 100 กม./ชม.) ระบบปรับเปลี่ยนได้อย่างนุ่มนวล แล้วลองเลี้ยววงแคบอ้อมไพล่อน พบว่าความรู้สึกในการบังคับพวงมาลัยแทบไม่ต่างจากตอนใช้โหมดขับสอง และไม่มีเหมือนเลี้ยวด้วยรถขับเคลื่อน 4 ล้อปกติ นับเป็นความโดดเด่นจริงๆ
สนามทดสอบรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (MITSUBISHI PROVING GROUND) ตั้งอยู่ที่อำเภอ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี
รองรับการทดสอบเพื่อพัฒนาคุณภาพรถ โดยรอบสนามมีความยาว 1.5 กม.
จากนั้นสลับมาสถานี 3 PERFORMANCE โดยเปลี่ยนรุ่นรถทดสอบจากรุ่น GT-Premium ขับเคลื่อนสี่ล้อ เป็นรุ่น GT ขับเคลื่อนสองล้อ โดยเน้นการขับแบบเต็มรอบสนาม แต่จำกัดความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. เพื่อทดสอบการเข้าโค้ง การหักเลี้ยวกะทันหัน และการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ใหม่ (8AT with Sport Mode / INC - Idle Neutral Control) ซึ่งมีระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบไฟฟ้า ช่วยให้เปลี่ยนได้อย่างนุ่มนวล พร้อมมี INC ที่ตัดการส่งกำลังไปยังเพลาขับโดยอัตโนมัติเมื่อเหยีบเบรก จากการทดสอบเริ่มด้วย D ออกตัวนับว่ายังรอจังหวะบ้าง แต่เมื่อไต่ความเร็วขึ้นการเปลี่ยนก็ไหลลื่นแทบไม่รู้สึก ในการเข้าโค้งเพื่อรักษารอบเลี้ยงแรงบิดจึงใช้ Paddle Shift เปลี่ยนเกียร์ที่คอพวงมาลัยแทน เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์เอง โดยใช้เกียร์ต่ำลงเพื่อเลี้ยงแรงบิดในโค้ง ทำให้การขับออกจากโค้งเร่งความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อกลับเข้าสู่การขับปกติ เพื่อสลับใช้โหมด D จึงดึงแป้น Paddle Shift ด้าน + เข้าหาตัวค้างไว้ จริงๆ สามารถปล่อยให้รถเดินเบาไว้ราว 3 วินาที ก็ได้เช่นกัน
ด้านระบบเบรก ปาเจโร่ สปอร์ต ใหม่ ที่ใช้ดิสก์เบรก 4 ล้อ พบว่าการหยุดที่ความเร็วต่ำ-กลาง การตอบสนองค่อนข้างไว จนหน้าทิ่มหลายครั้ง ต้องใช้ความตั้งใจในการให้น้ำหนักพอสมควร จึงเบรกได้อย่างนุ่มนวล
สถานีสุดท้าย ระบบความปลอดภัย SAFETY มีเจ้าหน้าที่ชาวญี่ปุ่นขับให้ โดยผู้เขียนได้แค่นั่งร่วมสังเกตการทำงานของระบบต่างๆ แต่ก่อนทดสอบมีการบรรยายการทำงานของแต่ละระบบ เริ่มจาก BSW - Blind Spot Warning สัญญาณเตือนจุดอับสายตา ทำงานโดยการใช้คลื่นอัลตร้าโซนิคซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณมุมกันชนทั้ง 4 ด้าน โดยระบบจะส่งสัญญาณไฟเตือนบนกระจกมองข้าง ให้ผู้ขับทราบว่ามีรถอยู่ในจุดอับสายตา ซึ่งไม่สามารถมองเห็นจากกระจกมองข้าง ในขณะเดียวกันเมื่อเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือนพร้อมสัญญาณเตือนไฟกะพริบบนกระจกมองข้าง ทำงานที่ความเร็ว 20-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะไม่เกิน 3 เมตร เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการเปลี่ยนช่องจราจร (เฉพาะรุ่น GT-Premium) ระบบนี้จะทำหน้าที่เตือนว่ามีรถอยู่ในจุดบอดเท่านั้น ไม่ได้ช่วยเบรกหรือควบคุมพวงมาลัยให้โดยอัตโนมัติ แต่ถ้าระบบเตือนแล้วผู้ขับยังคงฝืนขับต่อก็อาจชน การทดสอบได้ใช้รถมิตซูบิชิ มิราจ ขับตามด้านหลังข้างขวาในจุดอับ ซึ่งระบบ BSW สามารถตอบสนองพร้อมเตือนผ่านสัญญานไฟที่กระจกมองข้างได้ตรงตามบรรยาย
FCM - Forward Collision Mitigation System ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมช่วยชะลอความเร็ว และเบรกหยุดนิ่งโดยอัตโนมัติ ทำงานโดยใช้เรดาร์ประเมินระยะห่างจากรถคันหน้าในช่องทางเดียวกัน หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถคันหน้า ระบบจะเตือนเพื่อให้เบรกและชะลอความเร็ว พร้อมเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก ถ้าความเร็วต่ำกว่า 30 กม./ชม. ระบบช่วยเบรกจะทำงานอัตโนมัติ ถ้าพบว่ามีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะชนรถคันหน้า (เฉพาะรุ่น GT และ GT-Premium)
การสาธิตทางผู้ขับซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ชาวญี่ปุ่น ขับด้วยความเร็ว 25 กม./ชม. พุ่งเข้าหาวัตถุคล้ายรถจำลอง โดยไม่แตะเบรกปรากฎว่า ระบบ FCM นอกจากเตือนแล้ว เมื่อไม่มีการตอบสนองจากผู้ขับ จึงเบรกให้ในระยะสุดท้ายก่อนการชน ทำให้ผู้เขียนที่กำลังอัดคลิปเสียการทรงตัว แต่นับเป็นความแม่นยำของระบบที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนได้จริง
เมื่อขับไปจอดใกล้รถมิตซูบิชิ มิราจ ก็เป็นการทดสอบ Multi-around Monitor กล้องมองภาพรอบคัน พร้อมเส้นแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของรถซึ่งแปรผันตามองศาการหมุนพวงมาลัย ทำงานด้วยกล้อง 4 ตัวรอบรถ ประมวลผลและแสดงภาพแบบ Bird's Eye View ผ่านมอนิเตอร์ที่คอนโซลกลาง ช่วยให้ผู้ขับมองเห็นภาพได้รอบตัวรถ เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการจอดรถ ระบบนี้ช่วยให้การเข้าจอดทำได้ง่ายขึ้น ทั้งการจอดในช่องและการจอดขนานขอบทาง ภาพจากกล้องรอบรถและการแสดงภาพมุมสูง ช่วยให้จอดได้สะดวกปลอดภัยขึ้น
จากนั้นเป็นการทดสอบ UMS - Ultrasonic misacceleration Mitigation System การตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อมีการเหยียบคันเร่งรุนแรง ระบบทำงานโดยใช้คลื่นอัลตร้าโซนิคตรวจจับวัตถุด้านหน้า-หลัง ภายในระยะ 4 เมตร ส่วนตำแหน่งเกียร์เป็น D หรือ R หากมีการเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรง ระบบจะตัดกำลังเครื่องยนต์ไว้ประมาณ 5 วินาที (ความเร็วต่ำกว่า 10 กม./ชม.) เพื่อลดความเสี่ยงจากการชน น่าเสียดายที่ผู้เขียนไม่มีโอกาสทดสอบเอง จึงไม่สามารถรับทราบถึงการทำงานของระบบนี้ได้ชัดเจน ซึ่งการทดสอบ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต แบบเต็มรูปแบบในโอกาสต่อไป ผู้เขียนอาจมีโอกาสได้ทดลองระบบเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง และพร้อมนำเสนอผ่านการรีวิวให้ได้ทราบกันในลำดับต่อไป