MINI Cooper SE Hightrim จากความสำเร็จที่โดดเด่นของ Cooper SE ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับการเดินทางในเมือง ก้าวขึ้นเป็นมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม ด้วยการเปิดตัว Cooper SE Hightrim ที่มาพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม ครบครัน ยกระดับการขับขี่ไปอีกขั้น โดยยังคงรักษาเสน่ห์ภายนอกที่มาพร้อมกับไฟหน้า LED ทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมีการยกระดับทั้งด้านดีไซน์และการใช้งาน ไฮไลต์ของรุ่นนี้ได้แก่ ล้อแม็กซ์ Night Flash Spoke 2-Tone ขนาด 18 นิ้ว และตัวเลือกสีใหม่สุดพิเศษอย่าง Indigo Sunset Blue ซึ่งเข้ากันกับรูปทรงที่โดดเด่นได้อย่างลงตัว มีความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสารของรุ่นไฮทริมโดดเด่นด้วยการเพิ่มอุปกรณ์ในหลากหลายด้าน โดยผู้ขับขี่จะได้สัมผัสกับระบบเครื่องเสียงเหนือระดับจาก Harman Kardon และเบาะไฟฟ้าพร้อมการตั้งค่าระบบจดจำการปรับเบาะแบบไฟฟ้าและฟังก์ชั่นนวดสำหรับเบาะผู้ขับขี่ เติมความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง ในเรื่องของสมรรถนะ ยังคงผสานพลังกับประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ และตอบสนองเร็ว ซึ่งขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่ปลอดมลพิษ ในด้านของความจุแบตเตอรี่ รุ่นไฮทริมสามารถเดินทางได้สูงสุด 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP นอกจากนี้ เมื่อชาร์จที่สถานีชาร์จ DC แบตเตอรี่สามารถเพิ่มขึ้นจาก 10 เปอร์เซ็นต์ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ได้ในเวลาไม่ถึง 30 นาที พร้อมกำลัง 218 แรงม้า และแรงบิด 330 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.7 วินาที แบตเตอรี่แรงดันสูง 54.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมง พร้อมให้เป็นเจ้าของที่ราคา: 1,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และ MSI Standard Package คุ้มครองการบำรุงรักษา 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง) มี 9 สีให้เลือก ไสีฟ้า Icy Sunshine Blue, สีน้ำเงิน Blazing Blue, สีเขียว British Racing Green IV, สีเขียว Ocean Wave Green, สีขาว Nanuq White, สีเงิน Melting Silver, สีเหลือง Sunny Side Yellow, สีแดง Chili Red II, และสีน้ำเงิน Indigo Sunset Blue
Toyota bZ4Xจะเป็นรถไฟฟ้า 100% ที่จะมาสร้างบรรทัดฐานใหม่ ออกแบบภายนอกภายใต้แนวคิด Hi tech & Emotion ที่เน้นความโฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ 0.279 ห้องโดยสารแบบ Open space มอบความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนกับอยู่ที่บ้าน ด้วยหลังคา Panoramic sunroof, หน้าจอสัมผัสแบบ Full HD ขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว รองรับ AppleCarPlay และ Andriod Auto เครื่องเสียง และลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง ขุมพลังเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มาจากชุดมอเตอร์อิสระ 2 ชุด จากมอเตอร์หน้า 80 กิโลวัตต์ และหลัง 80 กิโลวัตต์ รวมให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 337 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม ภายใน 6.9 วินาที การขับขี่แบบ X-Mode ใหม่ ช่วยเพิ่มเสถียรภาพ และการยึดเกาะของรถบนทุกพื้นผิวถนน ควบคุมการกระจายแรงขับที่ล้อ เบรก และคันเร่ง เพื่อใช้กับถนนลื่น และเนินเขาสูง และยังมีระบบ Regenerative Braking Mode ที่จะช่วยนำพลังงานไฟฟ้ากลับมาทุกครั้งที่ยกคันเร่ง สำหรับแบตเตอรี่ผ่านการทดสอบหลายรูปแบบ ทั้งมีขบวนการกำจัดสิ่งแปลกปลอมตลอดกระบวนการผลิต ที่สำคัญยังได้รับการปกป้องภายใต้โครงสร้างตัวรถที่ออกแบบมาอย่างแข็งแกร่ง พร้อมแผ่นรองรับกันกระแทกที่มีน็อตยึดเพิ่มความแข็งแรงมากถึง 56 จุด พร้อมฉนวนหุ้มระบบไฟฟ้าแรงดันสูงกันน้ำถึง 3 ชั้น และระบบล็อคที่ข้อต่อสายไฟ 2 ชั้น ป้องกันอย่างแน่นหนาไม่ให้น้ำรั่วซึมเข้าถึงระบบไฟฟ้าแรงดันสูงได้
ขับเคลื่อนด้วยขุมกำลังระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด ส่งกำลัง 160 กิโลวัตต์ / 218 แรงม้า และแรงบิด 330 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.7 วินาที