OMODA C5 EV รถยนต์ไฟฟ้าล้วนหนึ่งในแบรนด์
Chery ซึ่งเป็นบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ติดอันดับ
TOP 10 ในประเทศจีน แต่นอนว่าต้องไม่ธรรมดา โดยเจ้ารุนที่นำมาลองขับคือ
OMODA C5 EV Long Range Ultimate แม้ว่าจะยังเป็นน้องใหม่ในประเทศไทย อาจจะยังไม่ค่อยเห็นโชว์รูมมากนัก แต่ด้วยตัวรถแล้วมีเทคโนโลยีที่ไม่น้อยไปกว่าค่ายอื่น ๆ หรือค่ายเจ้าตลาดเลย และ
ยิ่งเปิดราคาในรุ่นท็อปออปชั่นครบไม่ข้ามล้านบาท นับว่าเป็นรุ่นที่น่าจับตาและต้องขอลองใช้ดูสิว่ามีข้อดีข้อด้อยอย่างไร แค่ไหน รับได้หรือไม่? กับ 5 วันเต็ม ๆ ลองเล่นระบบต่าง ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ภายนอกและภายใน
รูปลักษณ์ภายนอกแล้วแต่คนจะมองส่วนตัวเฉย ๆ แต่ชอบความเป็นรถยกสูงอเนกประสงค์ที่ไม่ต้องพะวงกับถนนเมืองไทยและน้ำท่วมได้ระดับหนึ่ง ไฟหน้า LED ปรับสูงต่ำอัตโนมัติและตั้งระดับไฟหน้าบนจอกลางได้เองอีกด้วย และยังมีไฟส่องสว่างขณะเลี้ยวเมื่อหมุนพวงมาลัย ไฟตัดหมอกที่มีมุมส่องสว่างกว้างกว่าปกติจะติดขึ้น ทำให้เห็นสภาพถนนเมื่อเลี้ยวในที่มืดได้ดี อันนี้ถือว่าดีมากเพราะเป็นออปชั่นที่ส่วนมากจะมีในรถระดับพรีเมี่ยมราคาสูง ๆ
ด้านข้างรูปทรงแบบ SUV หรือจะเรียก "Crossover" น่าจะเหมาะกว่าเพราะไม่ใช้รถที่สูงมากนักขึ้นลงสะดวกสบาย ราวหลังคามีให้ (เฉพาะรุ่น Long Range Ultimate) หลังคาซัฟรูปเปิดปิดไฟฟ้าพร้อมแผ่นบังแดดเลื่อนด้วยมือ ถัดมาด้านหลังไฟท้าย LED ทรงแปลกตา มองผ่าน ๆ มีความคล้ายกับรถค่ายญี่ปุ่นบางรุ่น ไฟตัดหมอกหลัง เสาอากาศครีบฉลาม ฝาท้ายแบบไฟฟ้าพร้อมระบบ HandFree เพียงมีกุณแจติดตัวและเดินเข้ามาใกล้เมื่อมีสัญญาณดังและไฟเลี้ยวกระพริบ ประตูท้ยจะเปิดอัตโนมัติ แต่ว่าตอนปิดไม่มีปิดให้ครับยังต้องกดปุ่มปิดอยู่!!! (อ่าวทำไมงั้น) เพราะว่าลองเดินถอยออกอยู่หลายครั้งก็ไม่ปิดจนต้องกดปิดเอง
สำหรับมิติตัวรถกว้าง 1,830 มม. ยาว 4,424 มม. สูง 1,588 มม. และ ฐานล้อ 2,630 มม.
ความสูงใต้ท้องคันนี้อยู่ที่ 165 มม. ภายในภาพรวมจะมีความกว้างขวางพอ ๆ กับรถระดับเซกเมนต์เดียวกันคือ พอกับ
HR-V,
Corolla Cross/
Yaris Cross พื้นที่เก็บสัมภาระแบบไม่พับเบาะ 380 ลิตร ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ยาง 215/55 R18 จาก Kumho Ecsta PS71
ภายในเน้นเรียบหรูดูง่ายสบายตา ใช้วัสดุค่อนข้างเนียมเกินราคาอยู่บ้างในบางจุด แต่ก็ยังมีบางจุดที่ยังไม่สุด เช่น ปุ่มใช้งานบนพวงมาลัยที่ให้ความทันสมัยด้วยไฟเรืองแสง แต่เมื่อกดลงไปยังรู้สึกว่าไม่ค่อยแน่นหรือยังกลัวว่าปุ่มจะพังเร็ว ๆ ประมาณนี้ แต่ก็ยังใช้งานได้ปกติ เท่าที่ใช้งานในสวิตช์ต่าง ๆ ยังไม่เจออะไรผิดปกติ
ความสะดวกสบายที่ C5 ให้มายังมีความง่ายและสะดวดในการใช้งานเพราะมีปุ่มสั่งงานอื่น ๆ แยกออกมาจากจอกลาง เช่น ปรับกระจกมองข้าง, ปรับโหมดขับขี่, เพิ่ม/ลดแสงหน้าจอ, เปิดกระโปรงท้าย, ไฟตัดหมอก และที่สำคัญคือ ปรับช่องแอร์ด้วยมือปกติ
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะข้างคนขับปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง สัมผัสนุ่มนั่งสบายพร้อมฟังก์ชันระบายอากาศนี่เป็นออปชั่นที่คุ้มเกินราคาอีกจุดนึง แต่ขนาดตัวเบาะเล็กเมื่อเทียบกับขนาดตัวผู้ทดสอบ (เบาะขนาดประมาณะนิสสัน คิสก์) และพวงมาลัยพร้อมปุ่มควบคุมทั้งฝั่งของเครื่องเสียงหรือจอกลางและมาตรวัดคนขับที่เปิด-ปิดระบบควบคุมความเร็วแปรผันได้ด้วย ปรับได้แต่ขึ้น-ลง เท่านั้น
มาตรวัดคนขับและจอกลางรวมขนาด 24.6 นิ้ว ไม่ได้แยกขนาดมาให้คาดว่าแต่ละจอกว้างขนาดราว ๆ 12.3 นิ้ว ฝั่งคนขับแสดงข้อมูลการขับขี่ทุกระบบตั้งแต่ความเร็ว ระดับแบตฯ ระยะทางคงเหลือ, ระบบช่วยเหลือต่าง ๆ ระบบความปลอดภัย, และสามารถดูแผนที่ของตัวรถเองได้พร้อมขยายให้ใหญ่เต็มจอได้อีกด้วย (เฉพาะแผนที่ติดรถเท่านั้น) นอกจากนี้ที่คอพวงมาลัยด้านบนยังมีระบบตรวจจับผู้ขับขี่เตือนการเมื่อยล้าหรือเกิดเหตุไม่คาดคิด ระบบจะเตือนตลอดเวลาเมื่อคนขับไม่มีสมาธิ
ระบบแอร์อัตโนมัติแยกปรับอุณหภูมิซ้ายขวาพร้อมช่องแอร์ตอนหลัง ระบบเครื่องเสียงพรีเมี่ยมลำโพงจาก SONY พร้อมลําโพง 8 ตําแหน่ง รองรับ Apple CarPlay™ และ Android Auto กระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบลดเสียงรบกวนภายนอก กระจกคู่หลังแบบ privacy glass สีเข้มจากโรงงานแต่ก็ต้องติดฟิลม์กันร้อนเพิ่มอีกทีนะเพราะทนแดดบ้านเราไม่ไหว
ความสะดวกสบาย กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ กระจกมองข้างแบบไล่ฝ้า ฟังก์ชันไฟส่องนําทางหลังดับเครื่อง สายไฟ V2L ระบบกุญแจแบบ Keyless เดินห่างตัวรถจะล็อคอัตโนมัติและเมื่อเดินเข้าใกล้จะเปิดอัตโนมัติ
โดยรวมภายในคิดว่าอยู่ระดับกลาง ๆ คือ ไม่ทันสมัยล้ำอนาคตมากเกินไปนักแต่ใช้งานง่ายมาก แทบไม่ต้องปรับตัวใหม่เลย ทั้งสวิสต์ต่าง ๆ การเปิด-ระบบความปลอดภัย แม้จะใช้บนหน้าจอบ้างแต่ก็ยังมีคีย์ลัดแค่ปัดลงบนจอ หรือจะตั้งค่าการีเจน ระบบปรับระดับไฟหน้า ระบบแอร์ก็ทำได้สะดวก และยิ่งมีสวิสต์กระจกขึ้นลงอัตโนมัติทั้ง 4 บานและช่อง USB ทั้งหน้าหลัง เบาะหลับพับได้ 60 : 40 นับว่าเป้นรถที่มีฟังก์ชั่นครบถ้วนรุนหนึ่งเลยทีเดียวครับ
ความปลอดภัยเลิศมาก...! เมื่อเทียบราคานี้
ความปลอดภัย ADAS L 2.5
ระบบความปลอดภัยในคันนี้ถือว่าเยอะมาก ๆและคุ้มเงินที่จ่ายไปแล้วได้ฟังก์ชั่นเทียบเท่ากับรถราคาข้ามล้าน อย่างเช่นง่าย ๆ เลยครับ แค่ระบบไฟส่องขณเลี้ยวนี่ก็หายากในรถระดับนี้แล้ว หรือระบบ ระบบกุญแจแบบ Keyless ที่แค่เดินเข้า/ออกห่างรถก็ต้อนรับ ระบบเปิดกระจกหน้าต่างด้วยรีโมท ระบบสั่งการทํางานระบบปรับอากาศผ่านรีโมท กระจกหน้าต่างควบคุมด้วยระบบ one-touch ระบบ
ระบบ ADAS L 2.5 ล่าสุดอีกเพียบ
ระบบการช่วนเหลือขับขี่ให้มาครบถ้วนเทียบเท่ารถระดับล้าน โดยจะมีทั้งส่วนระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุภายในชื่อ ADAS ที่มั่นใจได้ใช้กันในรถหลายรุ่นทั่วโลกและยังเป็นเวอร์ชั่นใหม่คือ L 2.5 อีกด้วย โดยจะมีระบบที่ให้มาแบบล้น ๆ ดังนี้
ระบบช่วยเหลือขับขี่กึ่งอัตโนมัติ
- ระบบเตือนการออกนอกเลน LDW
- ระบบป้องกันการออกนอกเลน LDP
- ระบบช่วยเหลือเพื่อเปลี่ยนเลน LCA
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW
- ระบบเตือนการชนด้านหลัง RCW
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ MCB
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ELK
- ระบบแจ้งเตือนการออกตัว
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC
- ระบบรักษารถให้อยู่กลางเลน ICA
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ในสภาพความเร็วต่ำ TJA
- ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ DMS
การทำงานค่อนข้างจะแม่นและตอบสนองไวถึงไวมาก(เกิน)ไป จนบางครั้งใช้ในสภาพการจราจรหนาแน่นมักจะเตือนตลอดเวลาและจะมีการคอยเตือนเบรกหรือบางครั้งก็จะลดความเร็วเอง เพียงแค่มีรถเบี่ยงมาใกล้ ๆ ทำให้ใช้งานจริงจะลำบาก ส่วนตัวที่ลองใช้งานมากจะเน้นเปิดระบบเตือนชนด้านหน้า เป็นหลัก ตัวช่วยให้รถอยู่ในเลนและออกนอกเลนอาจจะไม่ค่อยได้ใช้งานนนัก แต่ระบบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC นับว่าใช้งานได้ดีแม่นยำและไว้ใจได้พอสมควรเลยครับ เพราะช่วงรถติดหนัก ๆ ไหล ๆ สลับหยุดนิ่งระบบนี้ช่วยผ่อนคลายลดความเมื่อยได้ดีมาก ๆ และทำงานสมูทความที่คิดคือ ไม่เร่งกระชากมากนักและการชะลอหรือเบรกก็นุ่มนวล แม้จะยังไม่เท่าระบบนี้ในรถค่ายญี่ปุ่นและยุโรปแต่ก็นับว่าพอใจ
ระบบช่วยให้ขับขี่ง่ายและปลอดภัยขึ้นมีดังนี้
- เซ็นเซอร์ช่วยจอดรถด้านหน้าและด้านหลัง
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบช่วยเบรก BAS
- ระบบลดกําลังขับเคลื่อนเพื่อช่วยเบรก BOS
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน EBA
- ระบบช่วยลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ RSC
- ระบบป้องกันรถไหลเมื่อขึ้นทางลาดชัน HAC
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC
- ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง TPMS
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ
- ระบบจํากัดความเร็ว
- ระบบเตือนการออกนอกเลน LDW
- ระบบป้องกันการออกนอกเลน LDP
- ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA
- ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง RCTB
- ระบบตรวจสอบจุดอับสายตา BSD
- ระบบเตือนเมื่อเปิดประตู DOW
ในส่วนที่ชอบและใช้งานประจำน่าจะ "ระบบตรวจสอบจุดอับสายตา BSD" หรือ "ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA" กับ "ระบบเตือนเมื่อเปิดประตู DOW" ที่ได้ใช้งานในทุกครั้งที่ขับไปไหนมาไหนและต้องจอดรถ และระบบกุญแจที่เข้าใกล้ ๆ รถก้จะเปิดล็อคประตุและไฟต้อนรับ เมื่อลงรถแค่เดินห่างออกมารถก็จะล็อคให้อัตโนมัติ นับว่าเปนระบบที่สะดวกสบายมาก ๆ เลยครับ
พลังมอเตอร์ 204 แรงม้า 340 นิวตันเมตร วิ่งได้ 505 กม.(NEDC)
สมรรถนะพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าขนาด 204 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตันเมตร เกินพอในการขับขี่ใช้งานทั่วไปแบบสบาย ๆ ส่วนระยทางที่วิ่งได้จากโรงงานเคลมไว้ 505 กม. (NEDC) แต่เมื่อชาร์จเต็ม 100% จริง กลับแสดงระยะทางจริงบนมาตรวัดเพียง 406 - 422 กม. แล้วแต่ครั้ง ไม่ตรงกัน!!! อันนี้ตาดว่า...น่าจะเป็นการคำนวนการขับขี่ที่ผ่านมาทำให้แสดงระยะทางที่วิ่งได้ตามพฤติกรรมการขับขี่
อัตราเร่งแรง รวดเร็ว และกระชากพอตัว การตอบสนองการเหยียบคันเร่งไวมาก ๆ จนต้องปรับตัวและระยะการตอบสนองคันเร่งจะยังไม่ค่อยสมูทเท่าไหร่ มีอาการไม่ตามเท้าเวลาเหยียบหรือถอนคันเร่ง จะรู้สึกว่าไม่อากรมอเตอร์จะไม่พอดีกับคันเร่งที่ใช้จริง แต่ก็เป็นเพียงเสี้ยววินาทีครับ ปรับตัวเล็กน้อยก็คุ้นเคยและขับได้ไม่มีปัญหาแล้ว
ระบบช่วงล่างที่นุ่มนวลเวลาขับผ่านเนินชะลอความเร็ว แต่ก็ยังมีแข็งกระด้างในความเร็วต่ำ ๆ ในพิ้วถนนแบบซีเมน ส่วนความสูงนั้นถ้าไม่เกิน 110 กม./ชม. ถือว่าเอาอยู่สบาย ๆ ครับ ไม่ยวบมากนัก ไม่ต้องเกร็งมือมากในการบังคับพวงมาลัย แต่ถ้าความเร็วสูงกว่านั้น ต้องระวัง ช่วงล่างจะเริ่มนุ่มและยวบในสไตล์รถทรงสูง ๆ ระดับเดียวกัน คือ มีอาการโยนเวลาเปลี่ยนเลน หรือเข้าโค้งความเร็ว ๆ
การขับขี่สามารถเลือกโหมดให้ตรงกับการใช้งานคือ ECO, NARMAL ที่เป็นค่าเริ่มต้นเสมอ และ SPORT โดยที่ใช้งานมากหลายวันใช้ Sport เป็นหลัก เพราะคันเร่งตอบสนองทันใจ และพวงมาลัยจะปรับน้ำหนักให้หนักขึ้นเล็กน้อยตามโหมดนี้ เวลาขับขี่บนทางด่วนรู้สึกมั่นใจกว่า และไม่ได้กินไฟกว่าโหมดอื่น ๆ เท่าไหร่นัก แถมขับสนุกกว่าเยอะเลย เพราะให้อัตราเร่งได้ตามสั่งทันใจกว่า
ระบบเบรกแรก ๆ ดูเหมือนจะไม่น่าไว้ใจ ที่ความเร็วจะเบาเท้าและตอบสนองไวมากทำให้เบรกแล้วหัวทิ่มบ่อย ๆต้องปรับน้ำหนักอยู่หลายครั้งกว่าจะคุ้นเคย แต่ว่าเมื่อได้ขับที่ความเร็วกลาง ๆ แล้วต้องเบรกแรง ๆ กลับเอาอยู่โดยไม่มีเสียงร้องของยางและระบบ ABS ก็ยังไม่ทำงาน จึงรู้สึกว่าการกระจายแรงเบรกที่ความเร็วกลาง ๆ (60-80) ทำได้ดีมั่นใจได้ครับ โดยรถคันนี้ใช้ยางจากฝั่งเกาหลีใต้ KUMHO รุ่นนี้นับว่าคุ้มค่าและปลอดภัยจริง ๆ
ประหยัดไฟไหม ชาร์จนานไหม?
สำหรับอัตรากินไฟเฉลี่ยแล้ว ไม่สูงจนเกินไป อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้จากพลังมอเตอร์ระดับ 200 แรงม้า แรงบิดระดับนี้ กินไฟเฉลี่ยนบยมาตรวัดเพียงแค่ 14 - 15 kWh เท่านั้น หากขับแบบซ่า ๆ หน่อยก็จะขยับขึ้นเป็น 16 kWh ก้นับว่ารับได้ครับ เพราะให้อัตราเร่งที่จัดจ้านและทันใจชดเชยกันไป ส่วนการชาร์จไฟนั้นแม้รองรับ DC 80 kw แต่เมื่อชาร์จเพียง 10 นาที ก็ได้ระยะทางเพิ่มขึ้นอีก 80 กว่า กม. และจุดชาร์จอยู่ด้านหน้ารถสะดวกในการจอดชาร์จมาก ๆ
สรุปความคุ้มค่ากับราคา
OMODA C5 EV Long Range Ultimate มาพร้อมราคา 949,000 บาท หากมองเรื่องตัวรถนั้นถือว่าคุ้มที่สุดในตลาดประเทสไทยตอนนี้ (ณ ต.ค.2567) เพราะได้รถ SUV ยกสูงลุยน้ำได้ลึก 45 ซม. นาน 60 นาที ขุมพลัง 204 แรงมา้ กับ 340 นิวตันเมตร ช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ล้ออัลลอย 18 นิ้ว หลังคาซันรูป ระบบช่วยเหลือการขับขี่และสิ่งอำนวยความสะดวกเต็มครบทุกฟังก์ชัน แม้ว่ายังมีเรื่องช่วงล่างเมื่อขับเร็ว ๆ มีอาการร่อนอยู่บ้างหรือเสียงลมและกลิ่นเข้าในรถ หรือเรื่องของวัสดุภายในอาจจะยังดูธรรมดาไม่หวืดหวานัก แต่ก็ต้องเทียบกับค่าตัวที่ไม่ข้ามล้านได้ออปชั่นครบแบบนี้
แม้ว่าโอโมด้า จะยังใหม่มาก ๆ ในไทยทั้งเรื่องของโชว์รูมและศูนย์บริการ รวมถึงเป็นแบรนด์ใหม่มาก ๆ แต่ก็มีการรับประกันคุณภาพตัวรถ 8 ปี หรือ 200,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน/ถ้ายังอยู่กันยาว ๆ) และแถมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินอีก 5 ปี
OMODA C5 EV Long Range Ultimate อาจจะยังใหม่สำหรับประเทสไทยและใครที่กำลังเล็งอยู่อาจจะยังไม่มั่นใจนัก แต่หากพิจารณาในส่วนตัวรถล้วน ๆ แล้วละก็ กล้าฟังธงครับว่า ได้รถยนต์ไฟฟ้าล้วนสมรรถนะดี เทคโนโลยีเกินตัว ราคาคุ้มค่า สุดท้ายต้องไปทดลองขับจับสัมผัสด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจ ที่โชว์รูม
OMODA ทั่วประเทศครับ