ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

New Honda Civic eHEV RS สวยขึ้นแม้ปรับไม่เยอะ สิ่งที่คาดไว้ไม่มี..แต่ราคาถูกลง 20,000 บาท!

icon 17 ก.ย. 67 icon 512
New Honda Civic eHEV RS สวยขึ้นแม้ปรับไม่เยอะ สิ่งที่คาดไว้ไม่มี..แต่ราคาถูกลง 20,000 บาท!
ลองขับและลองใช้งานออปชั่นใหม่ใน New Honda Civic e:HEV RS ที่ปรับโฉมเพิ่มความสะดวกสบายภายนอกและภายใน โดยที่ยังคงสมรรถนะความแรง เกาะถนน แน่นหนึบและประหยัดน้ำมันแบบ 23 กม./ลิตร แบบชิว ๆ ไม่ต้องปั่นแต่งใด ๆ ระหว่างเส้นทางไปกลับ กทม. (จุดปล่อยตัวฮอนด้าบางชัน) เขาใหญ่รวมกว่า 340 กม.  
 
การทดลองขับครั้งนี้ใช้เวลาเพียงค่อนวันไม่ถึง 1 วันเต็ม ดังนั้นอาจจะมีรายละเอียดบางอย่างที่ไม่อาจเล่าได้ครบทุกมุมมอง และนี้คือความรู้สึกส่วนตัวที่ได้ลองขับสัมผัสเจ้า ซีวิค ใหม่คันนี้ (ขับแค่ e:HEV RS เท่านั้น) และกล้าบอกเลยครับว่า Civic e:HEV นั้นเป็นรถที่อยากได้มากที่สุดคันหนึ่งเลย ด้วยสมรรถนะ ความแรง ความประหยัดตอยโจทย์น้ำมันแพงได้อย่างดี แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่คิดว่าปรับใหม่ครั้งนี้"ต้องมีแล้ว" แต่กลับไม่เห็นวี่แวว ส่วนเรื่องขับขี่เป็นไง มีอะไรเพิ่มและการใช้งานฟังก์ชั่นต่าง ๆ ดีหรือไม่เชิญอ่านครับ  
 
 

ปรับราคาลง 20,000 บาท แต่เพิ่มของให้ยกเว้น......?!

 
New Honda Civic e:HEV RS และทุกรุ่นย่อยมีการปรับโฉมเล็กน้อยน้อยที่เรียกว่า FaceLift นั่นแหละ แต่การปรับครั้งนี้ไม่ได้เน้นเรื่องสมารรถนะ เน้นเพิ่มเติมความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารและปรับปรุงระบบการทำงานเกี่ยวกับความต่อเนื่องและนุ่มนวลของการส่งกำลังการผสานกำลังระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ รวมถึงระบบความปลอดภัยที่ทำงานแม่นยำมากขึ้น 
 
สำหรับ Civic e:HEV RS จะปรับชัดเจนมากที่สุดเริ่ม ที่กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ซึ่งมองผ่าน ๆ อาจจะไม่รู้สึกมากนักแต่เมื่อค่อน ๆ เล็งดี ๆ ลวดลายและรูปทรงเส้นสายต่าง ๆ ของกันชนหน้าเปลี่ยนไป โดยเฉพาะไปตัดหมอก "หายไป" อยากได้ต้องซื้อเป็นอุปกรณ์ตกแต่งเท่านั้น ซึ้งไม่มีความจำเป็นในการใช้งานเลย เพราะไฟหน้าสว่างตาแตกอยู่แล้วครับ 
 
 
ไฟท้าย LED รมดำ อันนี้ยอมรับว่าสวยและดูดุดันเข้มมากขึ้น ยิ่งการใช้ของดำตัดขอบประตู มือจับ สปอยเลอร์ กระจกมองข้างและล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีดำแบบ Matte Black ดีไซน์ใหม่ นั้นยิ่งมีความเป็นวัยรุ่นมากขึ้น และเสริมด้วยเซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด และมีสีใหม่! สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) 
 
 
ภายในเพิ่มเติมความสะดวกสบายกับระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่งที่ลองฟังเสียงแล้วนับว่า หนักแน่นแบบนุ่ม ๆ เบสไม่กระทุ้งขี้หูมากนัก (ตั้งค่าเสียงเดิมจากโรงงานนะ) เรียกว่าเบสมาแบบไม่กรบย่านเสียงอื่น ๆ นับว่าออกแบบมาได้ดีระดับหนึ่งเลยทีเดียวครับ ส่วนสิ่งที่ใหม่มากคือ "Google built-in" แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัวใช้ได้ทันทีเพียงลงทะเบียนอีเมลส่วสตัวลงไปเท่านั้น      
 
 
ใหม่! ช่องเชื่อมต่อ USB Type C 4 ช่อง โดยแบ่งเป็น 2 ช่องด้านหน้า และ 2 ช่องด้านหลัง ไว้ให้เพื่อนได้ชาร์จแบตฯ หรือหากไม่พอก็ยังมี Wireless Charge มาให้เช่นเคยอีกด้วย ชาร์จได้ครบทั้ง 5 ที่นั่งเลย ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว เท่าเดิมแบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto(TM) แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto และ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) ที่มีให้ในทุกรุ่นย่อยเช่นเดิม 
 
 
ใหม่! ในส่วนของการขับขี่ด้วยโหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) ที่สามารถตั้งค่าน้ำหนักพวงมาลัย ระบบเครื่องยนต์ได้ตามต้องการแบบส่วนตัวอีกด้วย อันนี้ถือว่าดีมาก ๆ ครับ และใหม่ด้วยช่องแอร์ด้านหลัง (ทุกรุ่นย่อย) และเบาะที่นั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 แบนราบขนสัมภาระได้เยอะ
 
แต่สิ่งที่หลายคน "ลอยคอหรือรอคอยนั้น" >>>>>>  คือ กล้องรอบคัน 360 องศา และระบบเตือนมุมอับสายด้านข้าง (BSM) ก็ยังไม่มีให้นะ เพราะ Honda LeneWatch ยังอยู่!!! ไม่ไปไหนรักฮอนด้ามาก ๆ  เอาล่ะครับโดยภาพรวมที่ปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้นมากนั้นรวม ๆ แล้วก็อาจจะมีมูลค่าเกินกว่า 20,000 บาท ทั้งที่ราคาขายจริงปรับลดลงมาต่ำกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวครับ
 
 

สมรรถนะการขับขี่ แรงและประหยัดจริงขับขำ ๆ 20 กม./ลิตร+++ 

 
สมรรถนะที่ยังคงเป็นจุดเด่นมาก ๆ ในรถระดับนี้ กับเครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit - IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด และผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว ตัวนึงปั่นไฟโดยเฉพาะอีกตัวขับเคลื่อนโดยเฉพาะ ไม่ได้ใช้ตัวเดียวทำหลายหน้าที่ พร้อมกับกำลังสูงสุดได้ถึง 184 แรงม้า ที่ 5,000 - 6,000 รอบต่อนาที ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ที่ 0 - 2,000 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันตามที่โรงงานเคลมไว้ที่ 25 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 96 กรัม/กิโลเมตร 
 
 
การตอบสนองเครื่องยนต์ทันใจแทบไม่มีอาการรอรอบหรือรอเปลี่ยนร์เกียร์หรือมีรอยต่อระหว่างระบบเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า นับว่าทำงานได้เนียนสมูท นุ่มนวล และเร่งได้ต่อเนื่องทันใจ เสียงเครื่องยนต์ไม่ดังเข้ามาในห้องโดยสารมากเกินไป น้ำหนักคันเร่งธรรมาชาติและกะน้ำหนักเท้าได้ง่าย ไม่ต้องปรับตัวเยอะ แป้นเบรกที่นุ่มเท้าและช่วยผ่อนแรงขณะกดเบรกโดยไม่ต้องใช้แรงมากนักแม้จะต้องเบรกอย่างรุนแรงก็ตาม ส่วนระบบช่วงล่างที่ให้ความหนึบนุ่มนวลและแน่น มีโยนตัวบ้างบางครั้งแต่ก็ไม่ทำให้รถส่ายไปมาเวลาเปลี่ยนเลยหรือเข้าโค้งก็ให้ความมั่นใจได้ ถือว่าในการขับขี่นั้นสะดวกสบาย แรงสะใจและมั่นใจได้ "เหมือนเดิม" ทุกประการครับ!
 
ความประหยัดที่ต้องเน้นว่า "ประหยัดจริงจัง" กับระบบฟลูไฮบริดที่เน้นใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเป็นหลัก เครื่องยนต์ช่วยปั่นไฟและอาจช่วยขับเคลื่อนในบางครั้ง นอกจากการใช้ความเร็วสูง ๆ ที่เกินกว่าประมาณ 110 กม./ชม.ขึ้น จะเป็นเครื่องยนต์ล้วน ๆ ซึ่งก็จะได้เรื่องความประหยัดเพราะเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรที่ใหญ่สมตัวยิ่งขับแบบลอยลำยิ่งให้อัตราสิ้นเปลืองที่ต่ำกว่า   
 
 
สำหรับอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยบนมาตรวัดในทริปนี้ขับแบบ 2 คนสลับกันขาไปกลับทำได้สูงสุด 23.4 กม./ลิตร กับระยะทางรวม 341 กม. น้ำมันลดไป 4 ช่องและระยะทางคงเหลือ 406 กม. จากที่เคลมเอาไว้ว่า 1 ถัง ไปได้ 800 กม. ก็อาจจะทำได้จริง (ขึ้นกับสภาพการขับขี่ด้วยนะครับ) 
 
 

ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้ดีละเอียดขึ้น

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)  
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) 
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) 
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) 
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) 
ต้องบอกว่าสิ่งที่รู้สึกได้ว่าระบบ Honda SENDSING มีการเปลี่ยนแปลงคือ รอยต่อของระหว่างระบบตัดต่อกำลังเครื่องยนต์และมอเตอรืไฟฟ้าที่เนียนไหลลื่นและต่อเนื่องไม่ว่าจะขับอยู่ความเร็วระดับใด เมื่อคิกส์ดาวน์แทบไม่รู้สึกเลยว่ามีการตัดต่อหรือสลับสับเปลี่ยนกำลัง นอกนั้นยังไม่สามารถรู้สึกได้ครบทุกรับบเพราะว่าใช้เวลาทดลองขับไม่นานนักครับ
 

การทำงานของระบบ Full Hybrid ใน Civic e:HEV (อีกรอบ)

 
ระบบฟลูไฮบริดของฮอนด้านับว่าเป็นการใช้พลังงานได้อย่างดีและประหยัดสูงสุดจริง ๆ ในรถระดับเดียวกันและได้ทั้งความแรงแบบจัดจ้านอีกด้วย มาดุระบบการทำงานกันอีกครั้งครับ
  • โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โดยมอเตอร์จะขับเคลื่อนล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ มอบอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม ออกตัวได้อย่างรวดเร็วทันใจโดยไม่ต้องรอรอบ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง ช่วยให้สามารถขับขี่ในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ได้อย่างต่อเนื่อง 
  • โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) โดยระบบจะขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ ผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว มอบอัตราเร่งที่นุ่มนวลและทรงพลัง
  • โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) โดยชุดล็อกอัพคลัตช์ที่อยู่ในเกียร์อัตโนมัติ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงและมีแรงเสียดทานต่ำ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่โดยใช้ความเร็วสูงคงที่
 

สรุปความคุ้มค่ากับราคา 1.239 ล้านบาท 

 
New Honda Civic e:HEV RS ผมถือว่าคุ้มค่าในระดับกลาง ๆ ยังสุด เพราะได้เรื่องความแรงประยัดน้ำมัน ได้ระบบความปลอดภัยที่เกือยจะครบ ขาดไม่กี่อย่าง ได้ฟังก์ชั่นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายเต็มคัน และยังประหยัดลงกว่าตัวก่อนหน้าอีก 20,000 บาท และแน่นอนว่าใครหลายคนเล็ง Civic เอาไว้เป็นรถที่หากมีโอกาสจะขอเป็นเจ้าของและอยากที่จะลองสัมผัสสมรรถนะสักครั้งหนึ่ง และส่วนตัวรู้สึกว่าฮอนด้าเก่งเรื่องการทำให้เจ้าซีวิคนี้ขับขี่สนุก มั่นใจเทียบแล้วใกล้เคียงกับรถยุโรปในบางรุ่นย่อยด้วยซ้ำไป แต่อย่างที่ทราบกันครับว่าทางฮอนด้าก็ยังมีจุดที่น่าเสียดายคือ "แอบหวงของ" โดยการไม่ให้ออปชั่นบางอย่างที่รถยนต์ทั่วโลกให้มาจนแทบจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานติดรถไปแล้ว!!!

 
แต่ถึงอย่างไร ก็ยังชื่นชอบรถยนต์ฮฮนด้าเสมอมา และหวังว่าจะปรับตัวให้ทันหรือก้าวนำคู่แข่งออกไปได้เช่นที่เคยทำมาในอดีตครับ "รักนะจู๊บ ๆ"  
 
แท็กที่เกี่ยวข้อง new honda civic e:HEV
CAR GURU
เขียนโดย สินธนุ จำปีศรี CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)