อีซูซุ MU-X “THE NEXT PEAK” กับนิยาม “จุดสูงสุดใหม่...กับชีวิตที่เหนือกว่า” ปรับโฉมใหม่ เติมฟังก์ชันสมบูรณ์แบบกว่าเดิม อีกทั้งยังเพิ่มไลน์อัพสปอร์ตอย่างรุ่น RS ให้อารมณ์สปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน พร้อมกับการเป็นรุ่นท็อปออฟเดอะไลน์และนี่คือ เหตุผลว่าทำไมถึงต้องเลือกรุ่น RS ไม่ว่าต้องการระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือความสปอร์ตกับเครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที ซึ่งเป็นจุดเด่นเฉพาะรถรุ่นนี้เท่านั้น
MU-X RS รุ่นท็อปใหม่ พร้อมชุดแต่ง RS Design และสีใหม่ เทา ไอเกอร์ โอเพค นอกจากนี้ตัวรถด้านหน้ายังดูสปอร์ตกับกันชนหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Fighter Jet และสะดวกสบายกับการขับในเมืองมากยิ่งขึ้นด้วย พวงมาลัยไฟฟ้า และ 360° Surround View Camera กล้อง 360 องศา พร้อมอัพเกรดระบบความปลอดภัยที่เหนือไปอีกขั้นกับ ADAS Generation เวอร์ชันล่าสุด
อีซูซุ MU-X รุ่น RS นับเป็นรุ่นเพิ่มใหม่เข้ามาในซีรี่ย์ มิว-เอ็กซ์ และเป็นรุ่นท็อปใหม่ล่าสุดด้วยเช่นกันโดยใช้เครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที เพียงบล็อคเดียว แต่มี 2 รุ่นทางเลือกกับระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ภาพลักษณ์ของรุ่นนี้เน้นไปที่ความสปอร์ตตั้งแต่ภายนอก ภายใน พร้อมกับฟังก์ชันมากมาย และฟีเจอร์ใหม่ๆ ซึ่งมีหลายอย่างที่มีเฉพาะรุ่นนี้เท่านั้น ทำให้ความโดดเด่นของ อีซูซุ MU-X ใหม่ ตกยกให้กับรุ่นนี้จริงๆ แน่นอนว่ารวมไปถึงราคาด้วย ในส่วนของสมรรถนะการขับก็ยังตอบโจทย์รอบด้านกับการเป็นรถเอสยูวีครอบครัว 7 ที่นั่งคันใหญ่และไปได้ทุกเส้นทางจริงๆ ด้วยพวงมาลัยไฟฟ้าใหม่ทำให้การขับใช้งานเปลี่ยนไปจากรุ่นก่อนปรับโฉมชัดเจน ตอบสนองดีขึ้นเบามือและควบคุมได้แม่นยำขึ้น นอกจากนี้การมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อให้เลือกก็เป็นทางเลือกให้กับพ่อบ้านสายลุยที่ชอบการขับเที่ยวทางไกล ลุยเข้าเส้นทางออฟโร้ดสลับออนโร้ดได้เป็นอย่างดี ล่าสุดที่ได้ขับเป็นระยะทางกว่า 400 กม. ได้อัตราสิ้นเปลือง 10.4 กม./ลิตร ตัวรถแม้หนัก 2,175 กก. เพราะมีชิ้นส่วนขับเคลื่อน 4 ล้อติดตั้ง แต่ก็ให้การออกตัวและขับเคลื่อนในเมืองที่กระฉับกระเฉง คล่องแคล่วเหมือนไม่ใช่รถเอสยูวีขนาด 2 ตันกว่า การอยู่ในรถนานช่วงรถติดในเมืองนับว่าสบายและไม่อึดอัด ชอบเบาะหนังสังเคราะห์ COOLMAX แถมปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางฝั่งคนขับ และ 4 ทิศทางที่เบาะข้าง ให้ความละเอียดในการปรับมุมองศาให้เข้ากับสรีระและปรับเปลี่ยนสะดวกในช่วงเวลาที่ต้องการ ด้านระบบเครื่องเสียง ได้หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay แต่ไม่มีไวเลสชาร์จ และพอร์ตรองรับไทป์ C แบบใหม่อย่างเดียว ใครใช้สายหัวยูเอสบีแบบเก่าต้องใช้อแดปเตอร์ยูเอสบีที่ช่องจ่ายไฟเสียบเพิ่ม อย่างไรก็ตามการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนลองทั้ง 2 โอเอสแล้วพบว่า ฝั่งไอโอเอสเชื่อมต่อได้ง่ายกว่า การเล่นเพลงผ่านแอพฯ นิยมอย่าง Spotify สะดวกสบายแต่คุณภาพเสียงธรรมดากว่าที่คาดหวัง
ส่วนระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระ ซ้าย-ขวา นับเป็นมาตราฐานของรถหลักล้านชั่วโมงนี้อยู่แล้ว ในมิวเอ็กซ์ระบบแอร์ทำงานไวเย็นเร็วทั่วถึงแม้ภายในห้องโดยสารจะกว้างก็ตาม และมีแผ่นกรองระบบปรับอากาศ PM 2.5 ซึ่งยุคนี้จำเป็นเลยกับการได้อากาศที่มีคุณภาพภายในรถ โดยเฉพาะรถสำหรับครอบครัว
ด้วยราคา 1,759,000 บาท พร้อมกับความครบครันของรถพีพีวี-เอสยูวี ที่ยังพร้อมไปต่อได้อีกไกล ไร้กังวลเรื่องการเดินทาง พร้อมเซอร์วิสได้ทุกที่ทั่วประเทศกับศูนย์บริการที่มากที่สุด นับเป็นตัวเลือกที่ยังให้ความมั่นใจและไว้วางใจได้มากที่สุดรุ่นหนึ่ง
ภายนอก
- กระจังหน้าใหม่! BLACK DIAMOND GRILLE พร้อม สัญลักษณ์ RS
- ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่! Dynamic Blade ดีไซน์สปอร์ตกับชุดไฟท้าย เส้น Embrace Line
- สปอร์ตด้วยล้ออัลลอยใหม่! RS Design ขนาด 20 นิ้ว พร้อม Fender Garnish สีดำ และ Side Garnish สัญลักษณ์ RS
- กันชนหน้าใหม่! แบบ Fighter Jet ดุดันพร้อม Air Curtain เพิ่มประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์
- สีใหม่ล่าสุด! EIGER GRAY Opaque และหลังคาดำ Black Roof พร้อมสัญลักษณ์ RS สี LIME GREEN
ภายใน
- บรรยากาศภายในห้องโดยสารโทนสีดำใหม่! พร้อมตกแต่งด้วย Matte Silver Garnish
- เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ตใหม่! เดินด้ายสี LIME GREEN และสัญลักษณ์ RS บนหัวเบาะ
- บรรยากาศภายในห้องโดยสารกับ Red Ambient Light
- คอนโซลสีดำดีไซน์ใหม่ สอดแทรกด้วยวัสดุ Matte Silver
ความสะดวกสบาย
- ใหม่! กล้อง 360 องศา (360 Surround View Camera) มั่นใจด้วยมุมมองใต้ท้องรถ
- ใหม่! พวงมาลัยไฟฟ้า (Electric Power Steering) ขับสบายคล่องตัวทั้งในเมือง และนอกเมือง มีในรุ่น RS และ Ultimate
- ใหม่! Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว แบบสัมผัส รองรับ Wireless Android Auto & Wireless Apple CarPlay พร้อม Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับ Integrated MID แสดงผลได้หลากหลายฟังก์ชัน เช่น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ
- Smart Tailgate with Step Sensor ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าและหยุดเมื่อมีสิ่งกีดขวางด้วยระบบ Jam Protection
- ที่นั่งโดยสาร 7 ที่นั่ง เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง และเบาะนั่งตอน 2 และตอน 3 ปรับเอนได้พร้อมพับได้ราบสนิท เพิ่มพื้นที่เก็บของ เข้าออกที่นั่งตอน 3 แบบ One Touch
Professional 4WD
- ระบบ Terrain Command ลุยได้ทุกสภาพถนนด้วย ระบบขับเคลื่อนที่สามารถเลือกได้ทั้งแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อ ทนทาน และประหยัดน้ำมันกว่า
- ระบบ Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และเบรกให้เหมาะสม เพื่อสามารถผ่านอุปสรรคได้ดีขึ้น ใช้ได้ทั้งในโหมดขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ
- ช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone และช่วงล่างหลังแบบ 5-Link Suspension เอกสิทธิ์เฉพาะ MU-X
- ตำแหน่งเครื่องยนต์เยื้องหลังเพลาหน้าแบบ Semi-Midship กระจายน้ำหนัก เกาะถนน ทรงตัวดียิ่งขึ้น
- รัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.6 เมตร