การครอบครอง รถยนต์กระบะ สักคันถ้าเป็นรถที่ใช้เพื่อการพาณิชย์ส่วนมากก็จะใช้งานให้เสื่อมไปตามสภาพเพราะเน้นเป็นการหารายรับมากกว่าที่จะก่อให้เกิดรายจ่ายจึงนิยมใช้รถรูปแบบเดิม ๆ จากโรงงาน แต่ถ้าเป็นรถยนต์กระบะที่ใช้เพื่อเป็นรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ก็มักจะมีการนำมาตกแต่งเพื่อเพิ่มสมรรถนะ, เพื่อเพิ่มความสวยงาม แต่ก็ยังอยากให้รถยนต์กระบะคันดังกล่าวนั้นได้รับความคุ้มครองจากประกันภัยที่ทำเอาไว้เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ว่าแต่จะตกแต่งรถยนต์กระบะอย่างไร? ให้ประกันภัยยังคงคุ้มครองรถของเราด้วยนั้น ไปดูกันดีกว่า
รถยนต์กระบะที่ผ่านการตกแต่งสามารถทำประกันภัยได้ แต่ก็มีข้อแม้ว่าการตกแต่งหรืออุปกรณ์ที่ได้ติดตั้งไว้ไม่มีส่วนใดที่ผิดกฎหมาย เพียงเท่านี้รถยนต์กระบะคันนั้นก็จะยังคงได้รับความคุ้มครองซึ่งก็จะมีอยู่ไม่กี่จุดที่สามารถทำการตกแต่งได้ ปะกอบด้วย เบาะรถ, สปอยเลอร์, กระจังหน้า, สเกิร์ต ดังนี้
- เบาะ : เป็น 1 ในไม่กี่จุดที่มักได้รับการตกแต่งในรถยนต์กระบะ เพราะนอกจากความสวยงามแล้ว เบาะนั่งยังเป็นจุดที่เราต้องอยู่กับมันนานที่สุด การเลือกที่จะตกแต่งเบาะด้วยวัสดุที่มีราคาค่อนข้างถูกไปจนถึงแพงนั่นเอง แต่ก็พึงระวังการตกแต่งที่เสี่ยงจะผิดกฎหมาย เช่น การถอดเบาะออกไปนั่นเองเพราะ
- สปอยเลอร์ : เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ตกแต่งเพื่อเพิ่มความสวยงามแล้วยังเพิ่มสมรรถนะให้รถ เพราะสปอนเลอร์จะทำหน้าที่ควบคุมอากาศที่ไหลผ่านตัวรถให้มีแรงกด
- กระจังหน้า : นอกจากจะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับรถยนต์กระบะของคุณ และยังเป็นส่วนที่ปกป้องความเสียหายที่จะเกิดกับหม้อน้ำ และเครื่องยนต์
- สเกิร์ต : เป็นส่วนที่ช่วยลดแรงดันอากาศที่จะเกิดขึ้นใต้ท้องรถ ทำให้ไม่เสียการทรงตัว ทำให้รถยังคงควบคุมได้ง่าย
- ล้อแม็ก : ที่นิยมเปลี่ยนเพื่อให้รถดูดีขึ้น
แต่ถึงอย่างไรก็ดีก็ขึ้นอยู่กับนโยายของบริษัทประกันภัยแต่ละแห่งด้วยเช่นกันว่าจะมีเงื่อนไขอะไรบ้างสำหรับรถยนต์กระบะแต่งซิ่งแต่ที่แน่ ๆ เลยก็คือจะต้องไม่ทำให้ความปลอดภัยของรถนั้นลดลง และจะต้องมีขั้นตอนการแจ้งข้อมูลการปรับแต่งให้ทางบริษัทประกันภัยได้รับทราบเพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูล ปรับกรมธรรม์ รวมถึงการคำนวณค่าเบี้ยให้เหมาะสม โดยจะต้องใช้เอกสารใบเสร็จของอุปกรณ์แต่ง หรือภาพถ่ายใบเสร็จ ที่ส่งให้บริษัทประกันภัยใช้เพื่อประเมินราคา จากนั้นก็รอบริษัทประกันภัยคำนวณค่าเบี้ยประกันเพิ่มเติม มาให้คุณไปชำระค่าเบี้ยประกันภัย จากนั้นบริษัทก็จะออกกรมธรรม์เพิ่มเติม หรือใบสลักหลังที่คุ้มครองอุปกรณ์แต่งรถยนต์ที่เพิ่มเติมเข้ามา
แล้วรถยนต์กระบะที่ตกแต่งอย่างไรที่ประกันภัยไม่คุ้มครอง ก็น่าจะเป็นการตกแต่งที่เกี่ยวของกับเครื่องยนต์, ระบบเบรก, ระบบช่วงล่าง หรือการกระทำที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของตัวรถ ที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัย รวมไปถึงการตกแต่งที่ผิดประเภทการขอเอาประกันภัย อาทิ
- การติดตั้งท่อไอเสียที่มีความดังมากกว่า 90 เดซิเบล และควันดำจากท่อไอเสียห้ามเกิน 50% เมื่อวัดด้วยกระดาษกรองก็จะเข้าข่ายผิดกฎหมาย
- การดัดแปลงเครื่องยนต์
- การติดเกจวัดมากเกินความจำเป็น (เสี่ยงที่จะได้รับอาการบาดเจ็บจากเกจ์เหล่านี้)
- รถกระบะที่โหลดเตี้ยต่ำกว่า 40 เซนติเมตร หรือยกสูงกว่า 175 เซนติเมตร ตามกำหนดใน พรบ.รถยนต์
- การเปลี่ยนสีรถโดยไม่มีการแจ้งกับทางกรมการขนส่งทางบกทราบ
- ดัดแปลงสีไฟ (ไฟถอย, ไฟเลี้ยว, ไฟเบรก และไฟหน้า) จนไม่ใช่สีเดิมตามที่ควรจะเป็น
- มีการดัดแปลงแผ่นป้ายทะเบียนหรือใช้แผ่นป้ายทะเบียนที่ไม่ใช่ของกรมการขนส่งทางบกออกให้
- ล้อรถเกินออกมาจากด้านข้างตัวรถ
- โรลบาร์กระบะแต่งซิ่งในรถกะบะ 4 ประตู ที่ถูกนำเบาะหลังออก หรือโรลบาร์ท้ายกระบะถ้ามีการติดตั้งห้ามนำฝาท้ายออกจากตัวรถ
ถ้ามีการตกแต่งที่ผิดเงื่อนไข ทางบริษัทประกันภัยก็จะถือว่าท่านผู้เป็นเจ้าของได้ยินยอมที่จะรับความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการตกแต่งรถยนต์ดังที่กล่าวมาแล้ว และเพื่อให้แน่ใจว่ารถกระบะแต่งซิ่งของคุณจะได้รับความคุ้มครอง ควรติดต่อบริษัทประกันภัยของคุณเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่เกี่ยวข้อง