รถยนต์แบบแฮตช์แบ็ค 5 ประตูได้รับความนิยมมากขึ้นด้วยรูปทรงดูกระทัดรัดคล่องคัว และความอเนกประสงค์เมื่อต้องการขนสัมภาระยังสามารถพับเบาะด้านหลังเพิ่มเพิ่มพื้นที่ได้อีก แต่หากจะดูความจุของส่วนท้ายที่แท้จริงแล้ว รุ่นไหน คันไหนจะมีพื้นที่ขนสัมภาระแบบยังไม่พับเบาะมากกว่ากัน โดยใช้ตัวอย่างรถยนต์หลายรุ่นที่น่าสนใจและมีทั้งแบบตัวถังเตี้ยและยกสูงแบบครอสโอเวอร์หรือเอสยูวี ที่สามารถหาข้อมูลได้ โดยเริ่มจากมีพื้นที่น้อยสุดไปมากสุด
(*ไม่นับรวมรถประเภท 7 ที่นั่ง หรือ Crossover/PPV/SUV ขนาดใหญ่บางรุ่น และรุ่นที่ไม่มีข้อมูลเป็นทางการ)
Changan Lumin : 104 ลิตร
Changan Lumin พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย
ขนาด 104 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังจะเพิ่มเป็น 580 ลิตร มาพร้อมพลังมอเตอร์ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลัง 48 แรงม้า แรงบิด 83 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 101 กม./ชม. ความจุแบตเตอรี่ 28.08 kWh ระยะเวลาการชาร์จแบบ AC (0-100%) ใน 10 ชม. ระยะเวลาการชาร์จแบบ DC (30-80%) ใน 35 นาที พร้อมระบบดึงพลังงานกลับมาใช้ใหม่ มาพร้อมกับแบตเตอรี่ CATL วิ่งได้สูงสุด 301 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC กับน้ำหนักตัวรถ 925 กก. มี 2 รุ่นย่อย คือ
นับเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กเน้นใช้งานในเมือง และใช้ความเร้วไม่สูงนัก นั่ง 1 - 2 คนเป็นประจำ สัมภาระไม่มากนัก สมรรถนะถือว่าดีพตัว เร่งออกตัว หรือแซงความเร็วต่ำ ๆ ได้ดีทันใจ พวงมาลัยและช่วงล่างยังให้ความเป็นรถยนต์สไตล์ K-Car อยู่บ้าง โดยความสูงสุดทำได้ไม่เกิน 110 กม./ชม.
Suzuki Celerio : 254 ลิตร
Suzuki Celerio พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย
ขนาด 254 ลิตร รถยนต์ที่เน้นความประหยัด ทนทาน ใช้งานสะดวก ไม่มีเทคโนโลยีอะไรมากมาย และราคาเข้าถึงได้ง่ายมาก ทั้งระบบการดาวน์น้อย ผ่อนต่ำ ขนาดเล็กกระทัดรัดตัวรถยาวเพียง 3.6 เมตร และกว้าง 1.6 เมตร ทำให้ขนาดเทียบได้ว่าแทบจะเป็นรถยนต์แบบ "K-Car" อยู่แล้วครับ เครื่องยนต์ K10B 1.0 ลิตร แบบ 3 สูบ 12 วาล์ว ขนาด 68 แรงม้า แรงบิดใ 90 นิวตันเมตร เกียร์ CVT และมีรุ่นเกียร์ธรรมดาให้เลือกด้วย ส่วนน้ำหนักตัวรถราว 800 กว่ากิโลกรัม ทำอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อ 20 กม./ลิตร มีให้เลือก 4 รุ่น คือ
Suzuki Celerio นับเป็นรถที่ตอบสนองความต้องการผู้อยากได้รถไว้ใช้ในครอบครัวแบบราคาเบา ๆ ไม่ต้องเอื้อมและไม่เน้นใช้ระบบอะไรมากมายใช้การใช้งานนัก เพียงเปิดล็อคประตู-สตาร์ทเครื่อง-ขับไปจอดจุดหมายปลายทาง-ลงจากรถและล็อคจบ!
Suzuki Swift : 265 ลิตร
Suzuki Swift พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย
ขนาด 265 ลิตร ความจุระดับนี้ไม่เล็กไม่ใหญ่พอดีกับตัวรถสวิฟท์ เพราะออกแบบให้เป็นรถประหยัดคันเล็กคล่องตัว มาพร้อมเครื่องยนต์สุดประหยัดแต่ขับสนุก เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร หัวฉีดคู่หรือ DUALJET ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยกำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงประเภท E20 ประหยัดเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยกว่า 23 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งในการทดลองขับจริงจะอยู่ราว ๆ 18-19.5 กม./ ลิตร (ทั้งนี้อัตราการประหยัดขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย) หรือขับอย่างไรก็ไม่ต่ำกว่า 16 กม./ชม. เลยทีเดียวครับ ปัจจุบันมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย คือ
Suzuki Swift เน้น "เฟิร์ส จ็อบเบอร์ (First Jobber)" วัยที่กำลังเริ่มต้นทำงานเก็บออม หรือผู้ที่มองหารถยนต์คันแรกใช้งาน มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก หรือจะด้วยปัจจัยอะไรก็แล้วแต่ เช่น ที่ทำงานอยู่ในตัวเมือง ต้องออกไปพบลูกค้าเป็นประจำ เดินทางเข้าเมืองบ่อย ๆ ใช้รถยนต์ส่วนตัวสะดวกกว่า ไม่ชอบเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะ นี่แหละน่าสนใจเป็นตัวเลือกที่ดีคันหนึ่งเลยครับ
ORA Good Cat : 288 ลิตร
ORA Good Cat พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย
ขนาด 228 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังจะเพิ่มเป็น 858 ลิตร เจ้าเหมียวไฟฟ้าขวัญใจชาวไทย ผลิตจากโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) เพื่อส่งออก ขายสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทย ทำราคาลงมาได้อีกหน่อย แต่แบตเตอรี่ก็คนละไซต์คนละแบบกันคือ แบตเตอรี่ความจุแบตเตอรี่ 57.7 kWh ชนิดลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) มีระยะทางวิ่ง สูงสุด 480 กิโลเมตร (NEDC Standard) มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ หรือ 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ในรุ่น GT ยังให้ความแรงเหมือนเดิมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 126 กิโลวัตต์หรือ 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีระยะทางวิ่ง สูงสุด 460 กิโลเมตร (NEDC Standard)
มีให้เลือก 3 รุ่นคือ
เจ้าแมวน้อยตัวนี้เน้นขับขี่ได้คล่องตัวในทุก ๆ วัน ภายในสะดวกสบายและกว้างขวางไม่แพ้รถไซต์ B-segment แต่ว่าพื้นที่เก็บของด้านหลังนั้นเล็กไปหน่อย บางครั้งใส่ตระกร้าผ้ายังไม่พอ แต่ใส่ของที่มีลักษณะกว้างได้ดีกว่าทรงสูงเพราะเวลาปิดจะติดขอบประตู
Mazda 2 Sport : 250 ลิตร
Mazda 2 Sport พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย
ขนาด 250 ลิตร เน้นขนของเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าต้องการของเยอะขึ้นก็แค่พับเบาะ ซึ่งอาจจะมีความจุเพิ่มขึ้นอีกราว ๆ 900 - 1,000 ลิตร เลยก็ได้ครับ (ไม่มีข้อมูล) แต่มาสด้า 2 ก็ยังตอยโจทย์ความประหยัดคล่องตัว และอีกรุ่นที่เน้นความประหยัด แต่แรงสั่งได้ด้วยพลังดีเซล ขึ้นกับความต้องการและงบประมาณ ขุมพลัง 2 ทางเลือก เบนซิน Skyactiv-G 4 สูบ 1.3 ลิตร กำลังสูงสุด 93 แรงม้า และแรงบิดสูง 123 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟไดรฟ์ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างสนุกสนานและราบรื่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังโดดเด่นด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง (GVC Plus) และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล Skyativ-D กำลังสูงถึง 105 แรงม้า และแรงบิดสูง 250 นิวตัน-เมตร ทั้งแรงและประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร
ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 599,000 - 830,000 บาท (Skyactiv-D)
มาสด้า 2 ตอบสนองคนรุ่นใหม่ หรือครอบครัวที่กำลังเริ่มต้นใช้ชีวิตสร้างครอบครัวและเน้นความประหยัด แต่เป็นรถที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เกินตัวเหนือคู่แข่ง และให้ออปชั่นคุ้มค่า แต่อาจจะต้องแลกกับความ "กระทัดรัด" ของห้องโดยสารและอาจจะอึดอัดไปบ้าง
Honda City Hacthback : 289 ลิตร
Honda City Hatchback พื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 289 ลิตร ความจริงแล้วเป็นรถขนาดเล็กที่ขับมันและคุ้มค่า ได้ทั้งพลัง VTEC TURBO 1.0 ลิตร กำลังสู.สุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร เกียร์ CVT ประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร และมีระบบฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ติดตั้งในทุกรุ่นย่อย ส่วนใครต้องการความประหยัดสุด ๆ พิค..!! ต้องไปรุ่น e:HEV ฟลูไฮบริดสุดประหยัดขับยังไงก็ได้ 23 กม./ลิตร ขึ้นไปแบบง่าย ๆ และยังให้สมรรถนะดีออกตัวฉับไวด้วยพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน มอบการตอบสนองได้ดั่งใจตั้งแต่ออกตัวกับแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 - 3,000 รอบต่อนาที และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมยิ่งขึ้นที่ 27.8 กม./ลิตร
ฮอนด้า ซิตี้ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 599,000 - 839,000 บาท ในรุ่น RS ตกแต่งพิเศษ
ใครเล็งรถราคาน่ารักประหยัดสมรรถนะดีงบไม่เกิน 8 แสนนิด ๆ ฮอนด้า ซิตี้อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า ได้แบรนด์ที่แข็งแรง ดีไซน์สวย ออปชั่นครบ ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม และให้ความแรงพร้อมประหยัดได้ในคันเดียว โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดนี่ ประหยัดแบบลืมปั้มน้ำมันไปได้เลยครับ
NETA-VII : 335 ลิตร
NETA VII พื้นที่สัมภาระด้านหลัง
ขนาด 335 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังจะเพิ่มเป็น 552 ลิตร รุ่นประกอบในประเทศไทยไมเนอร์เชนจ์เล็ก ๆ เริ่มด้วยกระจังหน้าใหม่ลายตาข่ายดูหรูหราขึ้นกว่าเดิม ไฟท้ายลายใหม่พร้อมเส้นไฟยาวพาดเชื่อมถึงกัน และติดตั้งที่ปัดน้ำฝนกระจกหลัง เพิ่มระบบ ADAS - Adaptive Cruise Control พลังจาก Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร แบเตอรี่ความจุ 36.1 kW วิ่งไกล 382 km. (NEDC) มาพร้อม 2 รุ่นย่อย คือ
เนต้ารุ่นใหม่ นับว่าขับดีขึ้น ด้วยช่วงล่างที่ปรับปรุงใหม่ แน่น ๆ ไม่ย้วยเท่าเดิม พวงมาลัยบังคับได้ดีขึ้นแม่นยำและคล่องตัว ส่วนตัวชอบเรื่องระบบ ADAS ที่ให้มาเป็นเวอร์ 2.0 ที่ใหม่มาก ๆ และติดตั้งในราคาราคาเท่านี้ นับว่าคุ้มค่ามาก ๆ สำหรับใครที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าราคาเบา ๆ แต่ออปชั่นความปลอดภัยเียบเท่ารถระดับหลายแสนบาท
BYD Dolphin : 345 ลิตร
BYD DOLPHIN พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย
ขนาด 345 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังจะเพิ่มเป็น 1,310 ลิตร ถือว่าเป็นรถยนต์แฮตช์แบ็กที่มีท้ายกว้างเกินคาด และยังสามารถยกแผ่นวางออกเพิ่มความลึกได้อีกนิด มาพร้อมระบบความปลอดภัย ADAS ครบถ้วนในทุกรุ่น จอกลางหมุนได้ กล้อง 360 องศา ระบบ Adeptive cruise control สำหรับโลมาน้อยให้สมรรถนะที่ดีขับสนุก ด้วย 2 ขุมพลังทางเลือก มอเตอร์ไฟฟ้า 94 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า วิ่งได้ระยะทาง 410 กม. ประเภทแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ความจุแบตเตอรี่สูงสุด 44.9 กิโลวัตต์ - ชั่วโมง และ มอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 150 kWh หรือ 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร ระยะทางวิ่งสูงสุด NEDC Mode 490 กิโลเมตร ประเภทแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ความจุแบตเตอรี่สูงสุด 60.48 กิโลวัตต์ - ชั่วโมง และมาพร้อม "
ราคาใหม่ล่าสุดที่ปรับลดลงตามกลไลต้นทุนที่ต่ำลงหลังจากผลิตในประเทศไทย" นั่นคือ
Dolphin รถยนต์ไฟฟ้าน่าคบทั้งด้านสมรรถนะ ออปชั่น และความสะดวกสบายภายใน แม้ช่วงล่างจะนุ่มเกินไปบ้าง แต่ถ้าขับขี่ที่ความเร็วต่ำกลับให้ความสบายอย่างที่ไม่เคบรู้สึกมาก่อน ส่วนใครที่ชอบขับ "ซิ่ง" แนะนำว่า ลดความเร็วลงเถอะครับมันอันตราย โดยเฉพาะรุ่น 204 แรงม้านั้น กดคันเร่งที หน้ารถดิ้น ๆ ลอยได้เลยครับ แต่ถ้ายังจำเป็นต้องขับเร็วควร "เพิ่มสมรรถนะของระบบช่วงล่าง" อีกนิด จะขับมั่นใจขึ้นกว่าเดิมครับ
MG4 : 363 ลิตร
MG4 พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย
ขนาด 363 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังจะเพิ่มเป็น 1,177 ลิตร เป็นอีกรุ่นที่ท้ายทั้งกว้าง-ลึกและสูง ใส่ของได้เยอะ แถมมาพร้อมสมรรถนะที่โดดเด่นนับเป็นรุ่นเดียวที่มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนล้อหลังและ 4 ล้อ ในเซกเมนต์นี้ มีให้เลือก 2 ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้ากับ 2 ความจุแบตเตอรี่ เริ่มที่มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง ความจุแบตเตอรี่ 49 kWh ระยะทางวิ่ง 423 กม. (NEDC) รุ่น Long Range เพิ่มความจุแบตเตอรี่เป็น 64 kWh ระยะทางวิ่ง 540 กม. (NEDC) และ รุ่น XPower สูงขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 435 แรงม้า แรงบิดสูงสุด ถึง 600 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุดที่ 200 กม./ชม. ความจุแบตเตอรี่ 64 kWh ระยะทางวิ่ง 480 กม. (NEDC) แต่ความจริงมีมากถึง 4 รุ่นย่อยเลยครับ
MG4 นับเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกลางที่ขับสนุกและคล่องตัวมากที่สุด ทั้งความแน่นหนึบของช่วงล่างอิสระในทุกรุ่นย่อย และกำลังมอเตอร์ไไฟ้าที่แรงสะใจ โดยเฉพาะรุ่นใหม่ล่าสุด Xpower ที่บ้าคลั่งระดับ 435 แรงม้า แรงบิดสุดดุดัน 600 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ราคาตับต้องได้ แต่ขอเตือนว่า "ความแรงเกินตัวไปไกลมากครับ" ทำให้การควบคุมอาจน่ากลัวเกินไปสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่เพิ่มเคยเข้าวงการรถแรงระดับ 400 ม้าขึ้นไป แนะนำว่า "ค่อย ๆ ขับปรับตัวไปเรื่อย ๆ ก่อน" อย่ารีบ "ซ่า" นะครับ ส่วนใครที่คุ้มเคยกับพลังระดับนี้แล้วก็อาจเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นอีกนิด เพราะตัวรถเดิม ๆ นั้น อาจจะเกินควบคุมถ้าขับเกินลิมิตนะครับ แก้ไขข้อความ
Hyundai Ioniq 5 : 527 ลิตร
Hyundai Ioniq5 พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย
ขนาด 527 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง 1,587 ลิตร รถยนต์ไฟฟ้าอีกรุ่นที่มีท้ายกว้างมาก มาพร้อมรูปลักษณ์โดดเด่นสมรรถนะที่ให้เลือก 3 รุ่นย่อย กับ 2 พลังมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลัง 170 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่ 58 kWh 384 กม. ตามมาตรฐาน WLTP และแบตเตอรี่ Lithium-Ion และ มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลัง 217 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ Lithium-Ion สำหรับ Exclusive ความจุแบตเตอรี่ 72.6 kWh ระยะทางวิ่ง 481 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ส่วน First Edition ความจุแบตเตอรี่ 72.6 kWh ระยะทางวิ่ง 451 กม. ตามมาตรฐาน WLTP
ราคาดังนี้
Hyundai Ioniq 5 เป็นรถที่ให้ความสวยโดดเด่นสะดุดตา ออปชั่นใช้งานเต็มคันและสมรรถนะดี การขับขี่นุ่มนวล เปิดตัวด้วยราคาระดับที่มีคู่เปรียบเทียบมากและในส่วนของโชว์รูมยังไม่ครอบคลุมมากนัก แต่ถึงอย่างไรก็ยังเป็นรถที่มีคุณภาพดีไว้ใจได้จากประสบการณ์ที่มีจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้เองและใช้กันทั่วโลก
หมายเหตุเพิ่มเติม รถยนต์แฮตช์แบ็กบางรุ่นไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการ และไม่รวมถึงรถ 7 ที่นั่ง Crossover/PPV/SUV และบทความนี้ไม่ได้แบ่งด้านราคา ขนาดรถ กลุ่มเซกเมนต์รถแต่อย่างใด เป็นการนำข้อมูลมาให้เปรียบเทียบเพื่อตัดสินใจก่อนซื้อรถเท่านั้น