ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

ส่องรถกระบะน่าใช้...ราคาดี ประจำเดือนกันยายน 2567

icon 16 ก.ย. 67 icon 2,522
ส่องรถกระบะน่าใช้...ราคาดี ประจำเดือนกันยายน 2567
รถกระบะ หรือ รถปิกอัพ ก็ยังเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอยู่เสมอในตลาดรถยนต์เมืองไทยเพราะด้วยความอเนกประสงค์ จะเดินทางก็ได้ จะขนของก็ดี โดยตลาดรถกระบะในช่วงนี้ก็มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเลือก กระบะออฟโรด..ตัวแรง หรือกระบะไฟฟ้าที่กำลังพัฒนาและจะทยอยเปิดตัวในอนาคต, กระบะ...สายซิ่ง และกระบะ...ที่พร้อมเคียงคู่บนเส้นทางธุรกิจ โดยทาง Checkraka ได้รวบรวมรถที่น่าสนใจ พร้อมราคาจำหน่ายในเดือนกันยายน 2567 นี้มาให้เลือกกันตามมความพอใจ ไปดูกันเลย 
 

กระบะออฟโรด...ตัวแรง

Ford

รุ่น : Ranger Raptor

ราคา :


สายชอบความแรงคงไม่มีใคนไม่นึกถึง กระบะบินได้ อย่าง Ford Ranger Raptor ที่มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ คือ เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร EcoBoost V6 เทอร์โบคู่  ที่ให้กำลัง 397 แรงม้า กับแรงบิด 583 นิวตันเมตร และอีกหนึ่งทางเลือกคือเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร ในรุ่นนี้แม้เครื่องยนต์จะเล็กกว่าแต่ก็ให้กำลังถึง 210 แรงม้า กับแรงบิด 500 นิวตันเมตร โดยใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter พร้อมเทคโนโลยี Active Park Assist และเบรกมือไฟฟ้า กับโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (ประหยัด, ปกติ, สปอร์ต, ถนนลื่น, โคลน/ร่อง, ปีนทางกรวด และบาฮา) ที่จะพาไปได้ทุกที่ ทำให้ Raptor ทั้ง 2 รุ่น เป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ชื่นชอบรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง ทั้งยังอัดแน่นไปด้วย DNA ของ Ford Performance ด้วยอุปกรณ์, เทคโนโลยีทันสมัย อาทิ กล้องมองรอบคัน 360 องศา, ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop&Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน และหน้าจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูงให้สีสันคมชัดปรับแต่งได้ กับหน้าจอ Multi-Touch ขนาดใหญ่ที่ม่พร้อมระบบ SYNC 4A ใหม่ล่าสุด รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับ Apple CarPlay และ Android Auto ส่วนที่ทำให้ Raptor ทั้ง 2 รุ่นนี้จะต่างกันก็คือ ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร จะไม่มีปลายท่อคู่ ส่วนช่วงล่าง Fox จะมีไม่เซ็นเซอร์ควบคุม Live วาล์ว (ปรับอัตราการดูดซับแรงสั่นสะเทือนตามการเคลื่อนไหวของตัวรถ) แต่ที่จะเพิ่มมาคือฝาท้ายไฟฟ้าที่ให้มาจากโรงงาน ส่วนอุปกรณ์ที่มีเฉพาะรุ่น 3.0ลิตร V6 ก็คือจะได้ ลำโพง Bang & Olufsen, ระบบ Active Valve Exhaust ปรับระดับเสียงท่อ 4 โหมด, MY Mode ระบบบันทึกการตั้งค่า (รูปแบบพวงมาลัย, ระบบกันสะเทือน และท่อไอเสีย) 

รีวิว

 

Toyota

รุ่น : Hilux Revo GR Sport
ราคา : Double Cab 4x4 2.8 GR Sport AT 1,499,000 บาท   

 

กระบะ Hilux เป็นกระบะที่มีประวัติมายามนานของ Toyota และในการปรับโฉมใหม่ล่าสุดของ Hilux Revo ก็ได้เปิดตัวรถกระบะสมรรถนะสูงอย่าง Hilux Revo GR-Sport รุ่น 4x4 ที่มากับความแรงของเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.8 ลิตร (2,755 ซีซี) รหัส 1GD-FTV (High) ที่ให้กำลัง 224 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร โดยใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift ถือได้ว่าเป็นรุ่นเรือธงของ Hilux Revo ที่ได้แรงบันดาลมาจากรถแข่งออฟโรดรายการ Dakar Rally เพราะรถกระบะ HILUX ได้รับความไว้วางใจด้วยชื่อเสียงมาอย่างยามนาน และเพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มพรีเมียมที่ชื่อชอบการใช้งานกระบะสมรรถนะสูง เลยมีการเปิดตัวรุ่นนี้ขึ้นมา โดยไฮไลท์ของรุ่นนี้คือ การออกแบบภายนอกที่มีการจัดการเรื่องอากาศพลศาสตร์ พร้อมการออกแบบใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (ขนาดตัวถังกว้างขึ้นและสูงขึ้น) พร้อมการปรับจูนช่วงล่างให้มีระยะฐานล้อหน้ากว้างขึ้น 140 มิลลิเมตร ด้านหลัง 155 มิลลิเมตร ช่วยให้เกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ความสูงจากพื้นเพิ่มขึ้น 37 มิลลิเมตร รวมถึงพัฒนาระบบโช้คอัพ Monotube ปรับจูนคอยน์สปริง ส่วนด้านหลังเป็นโช้คอัพกับแหนบแบบนุ่ม และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อม Differential Lock ที่เฟืองท้าย เพิ่มดิสก์เบรกด้านหลัง ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ ยึดเกาะถนนได้ดีมากขึ้น ก็เป็นทางเลือกสำหรับใครที่รักในใแบรนด์ Toyota ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
 

กระบะไฟฟ้า...กำลังมา

BYD

รุ่น : Shark
ราคา : ยังไม่มีการเปิดตัวในไทย


BYD เป็นแบรนด์รถยนต์ที่เข้ามาทำตลาดจำหน่ายในไทยโดย เรเว่ ออโตโมทีฟ ที่กำลังขายดีกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ หรือ BEV แต่ในตลาดต่างประเทศ (แม็กซิโก และจะมีรุ่นพวงมาลัยขวาในออสเตรเลีย) ก็เพิ่งเปิดตัวรถกระบะรุ่นแรกของ BYD ถึงแม้ว่ามองแล้วจะชวนให้คิดถึงรถจากค่ายอเมริกันค่ายนึงก็ตามโดยใช้ชื่อรุ่นว่า Shark ที่มาพร้อมขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) โดยจะมีพื้นฐานแพลตฟอร์มเดียวกับ Fang Cheng Bao Bao 5 ที่ชือ DMO (ย่อมาจาก DM คือ Dual Mode (hybrid) และ O คือ Off-Road) ที่ผลิตขึ้นเพื่อรถออฟโรดโดยเฉพาะ แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นการบุกตลาดรถกระบะรถกระบะขนาดกลาง ด้วยพลังจากเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบ ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ 2 ตัว (หน้า-หลัง) จับคู่กับ Blade Battery ที่ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของแชสซีของรถ ให้กำลังรวมสูงสุด 430 แรงม้า สร้างอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 5.7 วินาที ทั้งยังสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ถึง 100 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ส่วนในไทยนั้นคงต้องรอดูว่า เรเว่ ออโตโมทีฟ จะเดอามาสู้กับแบรนด์กระบะที่มีอยู่ในตลาดหรือไม่ 
 

POER

รุ่น : Sahar HEV
ราคา : เปิดลงทะเบียนจองสิทธิเพื่อซื้อ 


เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เดินหน้าเร่งเครื่องเพื่อขึ้นเป็น 1 ใน 3 ผู้นำแบรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในไทย นอกจากแบรนด์ Haval, ORA และ GWM Tank ทาง GWM โดยในงานมอเตอร์โชว์ 2567 ที่ผ่านมาก็ได้แนะนำรถยนต์ใหม่จาก GWM นั่นก็คือ Poer ที่จะมารุกตลาดกระบะในไทยด้วย Sahar HEV รถกระบะที่จะมากับขุมพลังไฮบริดรุ่นแรกในไทย (เพราะรุ่นอื่นยังไม่เปิดตัวและรับจองสิทธิ) ที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้ สำหรับเครื่องยนต์นั้นเป็นเบนซินไฮบริด 2.0 ลิตร ที่จะมอบความเงียบ และนุ่มทั้งในการขับขี่แบบปกติ และเร่งแซง ก้วยกำลัง 224 แรงม้า พร้อมแรงบิด 380 นิวตันเมตร ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 106 แรงม้า แรงบิด 268 นิวตันเมตร และโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ (ในรุ่น ULTRA) และด้วยมิติตัวรถที่ให้ความสะดวกสบายในทุก ๆ ที่นั่งเหมือนการเดินทางในที่นั่งระดับเฟิร์สคลาส อีกทั้งเพิ่มมิติความกว้างของห้องโดยสารด้านหลังเหมือนรถเอสยูวี ส่วนภายในโดดเด่นด้วยการออกแบบอย่างประณีต หรูหรา มีระดับ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะที่มีให้ถึง 29 รายการ และฟังก์ชันพิเศษมากมาย โดย GWM จะเผยสเปคพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกที
 

ISUZU

รุ่น : D-MAX Hi-Lander MHEV 
ราคา : นำมาโชว์ในมอเตอร์โชว์ 2567 ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

 

เป็น 1  ในรถที่ทาง Isuzu ได้นำมาจัดแสดงในงานแถลง นโยบายสู่ความเป็น กลางทางคาร์บอนในระดับโลกและระดับประเทศของทางแบรนด์ จากนั้นก็ได้นำไปโชว์ตัวในงานมอเตอร์โชว์ 2567 ที่ผ่านมา โดยจะเป็นรถที่มีระบบการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก โดยติดตั้งแบตเตอรี่ 48 โวลต์ ที่จะทำหน้าที่เสริมกำลังขับเคลื่อนให้กับเครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power เพื่อลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ในช่วงออกตัว รวมถึงช่วยลดการสั่นสะเทือนในจังหวะ สตาร์ตเครื่องยนต์ และช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ (co2) ซึ่งในขณะนี้รถคันนี้ยังอยู่ในช่วงทดลองประกอบเพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกให้กับลูกค้าที่มีความต้องการ โดย Isuzu อยู่ในระหว่างการสำรวจตลาดก่อนจะวางแผนการจำหน่ายต่อไปในอนาคต แต่ก็มีทิศทางแล้วว่าดีเซลไฮบริดจาก Isuzu นั้นมีที่ท่าจะมาแน่ๆ 
 

รุ่น : D-MAX EV Concept
ราคา : นำมาโชว์ในมอเตอร์โชว์ 2567 ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

 

ไหนๆ ก็พัฒนารถกระบะไฮบริดแล้ว ก็เลยลองไปถึงรถยนต์กระไฟฟ้าแบบ BEV (ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่) ซึ่ง D-MAX EV Concept คันต้นแบบมากับตัวถัง D-Max 4 ประตู พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full Time โดยจะใช้แพลตฟอร์มเดียวกันรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ส่วนชุดมอเตอร์คู่ และเฟืองท้าย eAxle ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ ให้ทำงานร่วมกันทั้งด้านหน้า-หลัง ส่วนช่วงล่างด้านหลัง De-Dion ก็ได้รับการออกแบบใหม่ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกสภาพถนน ให้เหมาะสมกับการใช้งานของรถกระบะ จุดเด่นของ D-MAX EV Concept คือ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ให้แรงบิดรวมกัน 325 นิวตันเมตร กับการออกแบบโครงสร้าง และตัวถังที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่มความสามารถในการลากจูง โดยทาง Isuzu มีแผนที่จะเริ่มผลิตเพื่อส่งออกจากประเทศไทยภายในปี 2568 ในประเทศภาคพื้นทวีปยุโรปบางประเทศ เช่น นอร์เวย์ จากนั้นก็เป็นคิวของสหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย และ ไทย ตลอดจนประเทศ หรือภูมิภาคอื่นๆ เป็นลำดับถัดไป อดใจรอกันอีกนิดมาแน่นอน 
 

NEX

รุ่น : BEV Pickup Truck
ราคา :

  • Single Cab  ราคา 990,000 บาท

  • Double Cab NPD ราคา 1,100,000 บาท

 

เป็นรถกระบะไฟฟ้าที่ผลิตโดย NEX Point หรือ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิต และจำหน่ายรถโดยสารเชิงพาณิชย์พลังงานไฟฟ้า (ขนาดใหญ่) อาทิ รถเมล์ไฟฟ้า, รถทัวร์ไฟฟ้า ฯลฯ นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวรถกระบะ (ขนาด 1 ตัน) ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ (BEV) โดยมีทั้งที่เป็นรุ่นกระบะตอนเดียว กับรุ่นที่เป็นกระบะ 4 ประตู โดยการออกแบบภายนอกดูคล้ายกับ Dayun V5 ส่วนภายในก็ออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแต่ให้ความสะดวกสบายไม่แพ้ใคร ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (ขับหลัง) ให้กำลัง 130 กิโลวัตต์ แรงบิด 330 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนแบตเตอรี่จะเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต รองรับการชาร์จแบตเตอรี่รองรับทั้งกระแสตรงและกระแสสลับ, พอร์ตชาร์จไฟฟ้า CCS ระยะเวลาในการชาร์จจาก 20-80% ใน 7.5 ชั่วโมง วิ่งได้ประมาณ 300 กิโลเมตร 
 

NEXTEM

รุ่น : ORCA Mini EVTruck
ราคา : 599,000 บาท

 
ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบกรายงานยอดจดทะเบียนกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคลพบว่า จำนวนรถยนต์ไฟฟ้ารวมอยู่ที่ 76,314 คัน เทียบกับปี 2022 อยู่ที่ 9,729 คัน แสดงให้เห็นถึงความต้องการในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดกว่า 600% จึงเป็นโอกาสในการเข้ามาของ NEXTEM ที่ต้องการเจาะช่องว่างทางการตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าประเภทรถกระบะ และรถบรรทุกขนาดเล็ก ด้วยการนำเข้า NEXTEM ORCA Mini EVTruck เพื่อเปิดทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการใช้รถเพื่อการค้าเอนกประสงค์ ชูจุดเด่นด้านความคล่องตัวของการใช้รถ-ขนส่งในเมือง ลดต้นทุนธุรกิจด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน 100% คุ้มค่าการลงทุน ลดก๊าซคาร์บอน ลดฝุ่น PM 2.5  ตั้งเป้าขยายดีลเลอร์ทำการตลาดและการขายทั่วประเทศ   

NEXTEM ORCA Mini EVTruck รถไฟฟ้ามินิทรัค ORCA เป็นรถนำเข้ามาตรฐานยุโรป โดยมีบริษัทแม่ NEXTEM ประเทศสิงคโปร์ให้การสนับสนุนการผลิตจากประเทศจีน  และได้รับลิขสิทธิ์ในการเป็นผู้จัดจำหน่าย (Distributor) แต่เพียงผู้เดียว ในประเทศไทย, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และราชอาณาจักรกัมพูชา ด้วยเอกลักษณ์ของ NEXTEM ORCA Mini EVTruck รถไฟฟ้ามินิทรัค ORCA ที่มีรูปลักษณ์สวยงาม ทันสมัย เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเป็นเจ้าของรถไฟฟ้า สำหรับใช้งาน เราภาคภูมิใจหากสามารถช่วยส่งเสริม กระตุ้นให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพ โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย  คือ ผู้ประกอบการในสาขาอาชีพต่างๆ ที่ต้องการลงทุนเพื่อการสร้างอาชีพ กลุ่มลูกค้าองค์กร ธุรกิจ Logistic ธุรกิจโรงแรม 5 ดาว ธุรกิจให้เช่ารถ ธุรกิจอีเว้นท์ เพื่อการสื่อสารจัดแสดง หรือธุรกิจรถโดยสารระยะสั้น  และอื่นๆ  ทั้งยังมีสมรรถนะใช้งานหนักบรรทุกได้ถึง 1 ตัน สามารถขับขี่ได้ทั่วไปในระยะทาง 200 กิโลเมตรต่อการชารจ์แบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง รับประกันแบตเตอรี่ 5 ปี  เสริมระบบความปลอดภัยด้วย Airbag  ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมการทรงตัว ESC Electronic Stability Control เลี้ยวโค้งด้วยความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป ได้รับการยอมรับในตลาดมากกว่า 35 ประเทศทั่วโลก  ซึ่งรถรุ่นแรกที่จะนำเข้า  
 
 
สามารถนำมาต่อประกอบได้หลายรุ่น อาทิ Chassis,  Pick-up Bed,  Standard Box, High-Box และ Hydraulic Tipper สามารถจ่ายไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านได้ (Vehicle-to-load V2L) ในราคาเริ่มต้นเพียง 599,000 บาท อีกทั้งให้ความเชื่อมั่นในเรื่องการปกป้องและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืน เป็นความมุ่งมั่นของบริษัทในการส่งเสริมพลังงานสะอาดและการลดมลพิษ และส่งเสริมแนวคิดการขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
 

RIDDARA

รุ่น : RD6
ราคา : มีแผนเปิดตัวในไทยในเดือนตุลาคมนี้  

 
เตรียมเปิดตัวทำตลาดในไทยกันอีก 1 แบรนด์ สำหรับ RIDDARA รถกระบะไฟฟ้า คันแรกจาก Geely Holding Group ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยสเปคที่จะเข้ามาทำตลาด แต่ถ้ามีข้อมูลเพิ่มมเติมจะมาอัพเดทให้ทราบกัน แต่พบแน่ ๆ ที่งาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2024 ปลายปีนี้ แน่นอนครับ โดย RIDDARA หรือในประเทศจีนคือแบรนด์ RADAR เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2022  โดยในปี 2023 ที่ผ่านมายังครองตำแหน่ง China's NO.1 EV-pickup รถกระบะไฟฟ้ายอดขายอันดับหนึ่งในประเทศจีนด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดกลุ่มรถกระบะไฟฟ้าในจีนมากกว่า 61.5% โดยปัจจุบัน RIDDARA มีรถกระบะพลังงานไฟฟ้าที่ทำตลาดรวม 2 รุ่นได้แก่ RIDDARA RD6 และ RIDDARA HOROIZON และมีแผนเปิดตัวรถกระบะพลังงานไฟฟ้าที่มาพร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมแผนการขยายธุรกิจในดับสากลที่ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วโลก
 

ในประเทศไทย RIDDARA จะดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลของ บริษัท ริดดารา ออโต้โมบาย (ประเทศไทย) จำกัด (RIDDARA AUTOMOBILE  (THAILAND) COMPANY LIMITED) สำหรับ RIDDARA มีแผนเปิดตัวรถกระบะพลังงานไฟฟ้ารุ่นล่าสุดของบริษัทฯ ในประเทศไทยในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม Multiplex Attached Platform (M.A.P) ซึ่งเป็นเพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับกระบะพลังงานไฟฟ้าโดยอาศัยพื้นฐานของแพลตฟอร์ม Sustainable Experience Architecture (SEA) อันล้ำสมัยของ GEELY จึงทำให้รถกระบะพลังงานไฟฟ้าจาก RIDDARA มีความโดดเด่นทั้งในด้านของการออกแบบ สมรรถนะและความอัจฉริยะในแบบฉบับของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า  ด้วยโครงสร้างตัวถังขนาดใหญ่และมีปลอดภัยสูง RIDDARA ยังมอบพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย และติดตั้งระบบระบบความปลอดภัยและระบบช่วยในการขับขี่ ADAS ที่ครบครัน  พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่รองรับทั้งการเดินทาง การบรรทุกและการทำกิจกรรมแบบ Outdoor  ยิ่งไปกว่านั้นยังมีค่าบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่น้อยกว่ารถยนต์กระบะสันดาปทั่วไป
 

TOYOTA

รุ่น : Hilux Revo e 
ราคา : นำมาโชว์ในไทย และนำไปวิ่งเป็นรถสองแถวในเมืองพัทยา (ยังไม่มีการเปิดราคาอย่างทางการ)

 

แบรนด์อื่นมีกระบะไฟฟ้า (BEV) มาแล้วมีหรือที่พี่ใหญ่อย่าง Toyota จะยอม เพื่อมั่งสู่ Carbon Neutrality หรือ ความเป็นกลางทางคาร์บอน โตโยต้าได้มีการลงนามในข้อตกลงกับพันธมิตรเพื่อความร่วมมือในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในไทย พร้อมนำรถต้นแบบ Hilux ที่มากับ 3 พลังทางเลือกใหม่ ทั้ง BEV, FCEV (Fuel Cell Electric Vehicle) และ Diesel HEV (Diesel Hybrid) มาจัดแสดง โดยรถประเภท BEV เป็นรถกระบะ Hilux รุ่นหัวเดี่ยวที่ปรับมาใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์ ด้านขุมพลังของ Hilux Revo e ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่กับโครงสร้างแชสชีส์ด้านหลังรถ กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ที่ถูกติดตั้งบริเวณใต้แชสชีส์ช่วงกึ่งกลางลำตัวรถ สามารถวิ่งได้ระยะทาง 300 กิโลเมตร/การชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC)
 
 
ที่ผ่านมาได้มีการทดลองใช้รถรุ่นนี้กับบริษัทที่เป็นพันธมิตร และล่าสุด โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ส่งมอบ Hilux Revo-e สำหรับทดลองให้บริการในรูปแบบรถสองแถวโดยสารประจำทางสาธารณะ (Fixed Route) ในพื้นที่เมืองพัทยา ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 – ธันวาคม 2568 โดยมีการส่งมอบเป็นจำนวน 12 คัน ในเมืองพัทยา และคาดว่าไม่นานนี้ก็จะมีการผลิตเพื่อจำหน่ายสู่สาธารณะต่อไป
 

กระบะ...สายซิ่ง

ISUZU

รุ่น : X-Series
ราคา :

 

Isuzu ก็มีตัวแต่งซิ่งอย่าง X-Series ที่มากับแนวคิดในรุ่นล่าสุด Isuzu X-Series…Gotta Xross The Line! (อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ แรงทะลุเวิร์ส) ที่ฉีกภาพลักษณ์เดิม ๆ ของรถกระบะทั่วไป ให้เป็นกระบะแต่งครบจบจากโรงงาน จนเป็น 1 ในรุ่นยอดนิยมของวัยรุ่น โดยในรุ่น Speed จะเป็นกระบะแนวสตรีทเรซ และรุ่น Hi-Lander ที่เป็นกระบะสปอร์ตยกสูง โดดเด่นด้วยชุดแต่ง The X Package พร้อมขุมพลังจากเครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power รหัส RZ4E-TC (1,898 ซีซี) ที่ให้กำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร มีการจัดวางตำแหน่งเครื่องยนต์แบบ Semi-Midship ทำให้มีการกระจายน้ำหนักที่สมดุล พร้อมระบบความปลอดภัยที่อัดแน่นมาสำหรับสายซิ่ง

รีวิว

 

TOYOTA

รุ่น : Hilux Revo Z-Edition
ราคา :

 

Toyota ก็มีรถกระบะสำหรับสายซิ่งอย่าง Hilux Revo Z-Editon ที่ปรับโฉมมาใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยจะทั้งตัวถังแบบ Smart Cab และ Double Cab ด้วยดีไซน์กระจังหน้าใหม่, ไฟตัดหมอก, ไฟหน้ารมดำ และวัสดุภายนอกสีดำเมทัลลิกในรุ่น Mid ส่งให้ภายนอกดูโฉบเฉี่ยว ดุดัน มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยทั้ง VSC และ HAC ส่วนเครื่องยนต์ จะเป็นเครื่องรหัส 2GD-FTV (2,393 ซีซี) ที่ให้กำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตร แต่รุ่น Mid จะเป็น 2GD-FTV (High) ถึงแม้แรงม้าจะเท่ากันแต่แรงบิดกลับเพิ่มเป็น 400 นิวตันเมตร ทำให้ Z-Edition เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้ากระบะในตลาดโซนเอเชีย นิยมใช้งานเพื่อการขับขี่เป็นรถยนต์ส่วนตัว ประกอบกับในกลุ่มวัยรุ่นที่มีความชื่นชอบในการตกแต่ง, ปรับจูนรถ ทีมออกแบบและพัฒนาของ Toyota จึงได้ทำให้รถรุ่นนี้เป็นรถกระบะสปอร์ตที่ผสมผสานระหว่างความโฉบเฉี่ยว แต่ดูเรียบหรู ด้วยราคาที่จับต้องได้ และพร้อมที่จะต่อยอดตกแต่งเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ และ แสดงความเป็นตัวตนของลูกค้าแต่ละราย
 

รุ่น : Hilux Revo GR Sport
ราคา : Double Cab 4x2 2.8 GR Sport AT ราคา 934,000 บาท

 

เป็นอีกหนึ่งทางเลือกจาก Toyota สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกระบะที่ตกแต่งเสร็จมาพร้อมจากโรงงาน โดยได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่งระดับโลกอย่าง Toyota Gazoo Racing ด้วยกระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถและสีดำเมทัลลิกดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ GR และ GR Sport พร้อมชุดตกแต่ง และสเกิร์ตรอบคัน ด้านเบรกก็จะได้คาลิปเปอร์เบรกสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ GR รวมถึงภายในก็จะมีการตกแต่งสัญลักษณ์ GR ในหลาย ๆ จุด ทั้ง พวงมาลัย, มาตรวัด, ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์, เบาะนั่งทรงสปอร์ตที่มีสัญลักษณ์ GR อยู่ด้วยนั่นเอง พร้อมขุมพลัง 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร จากเครื่องยนต์ รหัส 1GD-FTV (High) (2,755 ซีซี) 
 

กระบะ...ที่พร้อมเคียงคู่บนเส้นทางธุรกิจ

SUZUKI

รุ่น : Carry
ราคา : MT ราคา 395,000 บาท

 

Carry เป็นรถกระบะคันจิ๋วแต่แจ๋ว มั้ยยังเป็นขวัญใจของผู้ที่คิดจะเริ่มทำธุรกิจ SME (Small and Medium Enterprises) หรือ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นที่จดจำได้จากการเป็นรถ Food Truck ถึงขั้นเคยจัดงาน Suzuki Carry Food Truck Fest มาแล้ว และในช่วงที่รคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทาง  ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ก็ได้นำ Carry มาดัดแปลงให้เป็น รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย (Biosafety Mobile Unit) มาแล้วเรียกได้ว่าเป็นรถที่พร้อมดัดแปลงเพื่อรองรับในทุกภารกิจของคุณในราคาจับต้องได้ง่าย
 
 
และตัวกระบะท้ายมีความยาวอยู่ที่ 2,450 มิลลิเมตร, กว้าง 1,670 มิลลิเมตร ขนถ่ายสัมภาระได้อย่างสะดวกสบายเพราะความสูงจากพื้นถึงท้ายกระบะอยู่ที่ 750 มิลลิเมตร รับน้ำหนักบรรทุกได้มากถึง 945 กิโลกรัม พร้อมพาคุณและกิจการของคุณไปถึงทุกพื้นที่ด้วยพลังจากเคครื่องยนต์ K15B (1,462 ซีซี)  ให้กำลัง 71 กิโลวัตต์ (95.21 แรงม้า) จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เพียงพอที่จะพาร้านของคุณไปเปิดในทุกทำเลที่คุณต้องการ
 

TOYOTA 

รุ่น : Hilux Champ
ราคา : 

 

Hilux Champ เป็นรถกระบะที่สามารถเปิดฝาท้ายได้ 3 ด้าน เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ถูกเปิดตัวออกมาเพื่อความต้องการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสายบรรทุก, สายแคมป์ ทั้งยังสามารถดัดแปลงเห็นรถบ้าน, ร้านค้า ะร้อมที่จะมาต่อยอดธุรกิจในปัจจุบัน โดยจะมีตัวเลือกให้ 2 แบบ คือ ช่วงล้อสั้น และช่วงล้อยาว พร้อมเครื่องยนต์ที่มามาให้เลือกถึง 3 แบบ ประกอบด้วย เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ให้กำลัง 139 แรงม้า กับเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร ให้กำลัง 166 แรงม้า และยังมีเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ให้กำลัง 150 แรงม้า ตอบสนองฉับไว เร่งจังหวะได้ดั่งใจ เพิ่มความมั่นใจในทุกการขับ กับโครงสร้างแชสซีส์สุดแกร่งด้วยการขึ้นรูปจากเหล็กกล้าแข็งแรงสูง (High Strength Steel) ทำให้ทรงตัวได้อย่างมั่นคงทั้งทางตรง และเข้าโค้ง ในเวลาที่บรรทุกหนัก
 

นอกจากรถกระบะที่ได้กล่าวมาด้านบนแล้ว ก็ยังมีกระบะที่น่าใช้อีกหลายรุ่นที่มีจำหน่ายอยู่ในตลาด จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันดีกว่าครับ

 

Ford

รุ่น : Ranger 

 
Next-Gen Ranger เป็นรุ่นที่ทาง Ford ส่งลงมาสู้ตลาดรถกระบะ โดยสื่อว่าเป็นรถกระบะที่แกร่งที่สุด, สมบุกสมบันที่สุด และชาญฉลาดที่สุดในตระกูล Ranger ที่พร้อมเป็นเพื่อนลุยในทุกเส้นทาง ที่ได้รับการพัฒนาทั้งตัวรถ และประสบการณ์ในการเป็นเจ้าของให้พร้อมตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการรถกระบะทั้งเพื่อใช้ในการทำงาน เป็นรถสำหรับครอบครัว และการท่องเที่ยวผจญภัย ทั้งยังได้นำเอาความคิดเห็นจากลูกค้ามาเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนารูปลักษณ์ภายนอกจากการสัมภาษณ์ผู้ใช้จริงกว่า 5,000 ครั้ง รวมถึงจัดเวิร์กช็อปอีกหลายสิบครั้ง เพื่อทำความเข้าใจการใช้งานรถกระบะของลูกค้าชาวไทย ส่วนรุ่นย่อยของ Rager อย่าง Sport ที่มากับลุคพร้อมลุยได้ในแบบสมบุกสมบัน และWildtrak เหมาะกับผู้ชื่นชอบการผจญภัย สะท้อนความต้องการด้านการใช้งานได้ในแบบที่หลากหลาย ด้านเครื่องยนต์ก็มีเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบเดี่ยวที่มีสมรรถนะให้เลือกสองแบบ พร้อมมอบกำลัง แรงบิด และการประหยัดน้ำมัน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีความสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กหรือผู้ประกอบการธุรกิจขนส่ง และเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร ที่จะมอบประสบการณ์ที่เหนือชั้นขึ้นไปอีกสำหรับลูกค้าที่ต้องการกำลังที่แรงกว่า แต่ยังคงไว้ซึ่งการประหยัดเชื้อเพลิง 

ราคา :

 

รีวิว

 

ISUZU

รุ่น : D-Max

 

D-Max จาก Isuzu เป็นรถกระบะที่เพิ่งจะถูกปรับโฉมไปเมื่อปลายปี 2023 ที่มากับนิยามใหม่ที่ว่า D-Max  เหนือลิมิต…พิชิตโลก ที่ปรับดีไซน์ใหม่หมด ให้สะกดทุกสายตา ตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมจัดเต็มทุกไลน์อัพ นำทัพมาโดย V-Cross ซึ่งเป็นรถที่มีระบบ 4x4 ในทุกรุ่นย่อย กับสีใหม่ล่าสุด Namibu Orange Mica (ส้ม นามิบู ไมก้า) กับดีไซน์ใหม่หมด ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้าจดสเกิร์ตด้านล่าง พร้อมชุดแต่ง V-Cross Package แล้วก็ยังมี Hi-Lander 4 ประตู ที่พร้อมมาปลดล็อกกระบะระดับ Top Class ที่ผสมผสานความหรูหราเอาไว้ได้อย่างลงตัวกับดีไซน์ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด กับสมรรถนะการขับเคลื่อนที่ทรงพลัง และเทคโนโลยีที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น และ Hi-Lander 2 ประตู ที่จะพาคุณไปได้ไกลกว่าที่ถูกออกออกแบบให้สอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ผสานสมรรถนะความทนทาน และความประหยัดน้ำมันขั้นสุด รวมถึงรุ่น Cab 4 พื่อชีวิตที่สะดวกลงตัว, Spacecab ออกแบบให้สอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น และ Spark ที่จะมาเปลี่ยนนิยามคำว่าบรรทุกหนักให้แตกต่างจากไปจากเดิม ไม่ว่าจะรุ่นไหนไม่ว่าสภาพถนนแบบไหนก็มั่นใจได้ พร้อมด้วยความประหยัดน้ำมันขั้นสุดของ D-Max ด้วยพลังจากเครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power 190 แรงม้า และเครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power  150 แรงม้า ที่ให้ความทนทานขั้นสุด (น่าเสียดายที่ไฟท้ายรุ่นนี้ถอดง่ายไปนิดเลยมีข่าวหายบ่อย)

ราคา :

V-Cross

 

Hi-lander 4 ประตู

Hi-lander 2 ประตู

Cab 4

Spacecab

 

Spark

 

MAZDA

รุ่น : BT-50


เป็นกระบะอีกค่ายที่เรียกได้ว่า ปรับโฉมตามค่ายก่อนหน้านี้มาแบบติด ๆ (ด้วยเครื่องยนต์ที่ใช้เหมือนกัน) สำหรับโฉมนี้ Mazda ส่ง BT-50 ลงตลาด 6 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น ตัวถัง 4 ประตู หรือ Doubae Cab กับ 2 ประตู หรือ Freestyle Cab ที่ใช้การออกแบบอันสง่างามของ โคโดะ ดีไซน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Less is More ที่ดูเรียบง่าย แต่สวยงาม เหมือนอย่างรถอเนกประสงค์ตระกูล CX Series เจนเนอเรชันใหม่ของ Mazda โดยได้รวมจุดเด่นทั้งหมดรวถึงความต้องการของลูกค้ามาใส่ไว้ใน BT-50 ทั้งยังอัดแน่นไว้ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ให้มาเทียบเท่ารถในกลุ่มเอสยูวี โดยคาดหวังให้เป็นรถกระบะที่สามารถขับได้ในทุกโอกาส และยังสามารถที่จะตอบโจทย์ได้มากขึ้นตามที่คุณต้องการ ส่วนเครื่องยนต์ มีมาให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร 150 แรงม้า ให้แรงบิดสูงตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ต่ำ ทั้งยังให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม และเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 190 แรงม้า ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ตอบสนองดีเยี่ยมในทุกรอบความเร็ว ซึ่งเครื่องยนต์ทั้ง 2 รองรับน้ำมัน B20 และระบบความปลอดภัยอัดแน่นเต็มคัน

ราคา : 

Doubae Cab

Freestyle Cab 

รีวิว

 

TOYOTA

รุ่น : Hilux Revo 

 
เป็นกระบะอีกหนึ่งรุ่นที่ปรับให้ผ่านมามาตรฐาน EURO5 โดยที่ผ่านมารถกระบะ Hilux สามารถครองส่วนแบ่งในตลาดไปได้เกือบครึ่ง และมีท่าทีว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และนี่ก็คือความเชื่อมั่นที่มีในรถกระบะ Hilux ทางโตโยต้าก็เลยที่จะส่ง Hilux รุ่นปรับปรุงใหม่มาตอกย้ำความเป็นกระบะขวัญใจมหาชน สำหรับรุ่น Prerunner ได้ตอกย้ำจุดขายกระบะไลฟ์สไลต์คนเมือง พร้อมช่วงล่าง Superflex suspension ที่นุ่มสบายเพราะถูกปรับมาให้เหมาะกับการใช้งานในเมือง เพื่อเป็นการตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานของรถกระบะยกสูงซึ่งส่วนใหญ่ใช้งานเป็นรถในชีวิตประจำวัน ขับอยู่ในเมือง และมองหารถใช้งานในชีวิตประจำวัน ที่ขับขี่สะดวกสบาย มีฟังก์ชั่นแบบพรีเมียม ส่วนรุ่น Smart Cab จากความสำเร็จในดีไซน์ของรุ่น Hilux Revo-D เป็นที่ถูกใจลูกค้าในกลุ่มใช้งานส่วนบุคคล และจากการพูดคุยกับผู้ใช้จริงทุกกลุ่ม เสียงเรียกร้องจากลูกค้าในรุ่นสมาร์ทแค็บยกสูง ว่าอยากได้รูปลักษณ์แบบ Revo-D ยกสูง จึงได้ขยายดีไซน์ลงมาใน Smart Cab ยกสูงทุกเกรด เพื่อให้ได้รถกระบะที่ครองใจของคนไทยอย่าง Hilux นั่นเอง  

ราคา :
Standard Cab

 

Prerunner & 4x4

 

Rocco

 

MITSUBISHI

รุ่น : Triton

 
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ได้ออกแบบ Triton รุนใหม่นี้เรียากได้ว่ามาแบบ All-New เพื่อตอบโจทย์ความเป็นรถกระบะส่วนตัวสำหรับคนยุคใหม่ โดยเน้นไปที่ความสะดวกสบาย หรูหราของห้องโดยสาร จนเทียบเคียงได้เท่ารถเอสยูวี พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ครบครัน ตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูงให้ความนุ่มนวลทุกสัมผัสจับถนัดคล่องตัว ทั้งยังมีเบาะดีไซน์ใหม่ที่ช่วยโอบอุ้มสรีระลดความเหนื่อยล้าแม้ต้องขับในระยะไกล ผสานช่วงล่างใหม่ แชสซีส์ใหม่ที่ใหญ่ขึ้น และเฟรมใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม (เมกาเฟรม) ให้สมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มสบาย คล่องตัวทั้งในเมืองและขณะเดินทางไกล กับเครื่องยนต์ Hyper Power X2 ให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ Hyper Power กำลัง 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ให้อัตราประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม และเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไดมอนด์ เซนส์ ทีมีระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD II ที่มี 4H ฟูลไทม์ เสริมด้วยระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC), 7 โหมดการขับขี่ และเทคโนโลยี มิตซูบิชิ คอนเนค ใช้งานง่าย สั่งการตัวรถได้จากระยะไกล เพิ่มความอุ่นใจในทุกมิติ (รายละเอียดแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย)

ราคา :

ALL-NEW TRITON ATHLETE

 

ALL-NEW TRITON SINGLE CAB 4WD

 

ALL-NEW TRITON MEGA CAB

 

ALL-NEW TRITON DOUBLE CAB PLUS

ALL-NEW TRITON 2WD

รีวิว

 

NISSAN
รุ่น : Navara 

 
Nissan Navara รุ่นปี 2024 นั้นจะสร้างความตื่นเต้นและประสบการณ์ใหม่ กับดีไซน์ภายในใหม่ สไตล์สปอร์ตพรีเมียม เสริมความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ยังคงความโดดเด่นด้านสมรรถนะ และความทนทานจากรถกระบะของนิสสันทุกรุ่น โดยมากับคำนิยาม "ทน พร้อม ลุย" ในทุกสถานการณ์ และยังให้ความมั่นใจกับมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง ด้านดีไซน์ภายนอกมีการปรับเปลี่ยนเสาอากาศเป็นครีบฉลาม ส่วนภายในลุคใหม่ ให้ความโมเดิร์นทุกมุมมองด้สนการยกคอนโซลหน้าที่มีดีไซน์เดียวกับ Nissan Terra มาใส่เอาไว้ และพร้อม ลุย กับเครื่องยนต์ทรงพลัง และสมรรถนะสูง ภายใต้มาตรฐานไอเสียยูโร 5  ด้วยเครื่องยนต์รหัส YS23DDTT ความจุ 2.3 ลิตร  4 สูบ แบบทวินเทอร์โบ ได้มาตรฐานยูโร 5 ที่มีการปล่อยไอเสียต่ำ ให้การตอบนองทันใจ ประหยัดน้ำมันเช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า โดยเพิ่มฟิลเตอร์ Diesel Particulate Filter (DPF) ช่วยกรองละอองเขม่า ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร รวมทั้งยังรองรับน้ำมันดีเซลทุกประเภท (B7, B10, และ B20) กับเครื่องยนต์ DOHC VGS เทอร์โบ  2.3 ลิตร 4 สูบ ใหม่ รหัส YS23DDT ให้พลังสูงสุด 160 แรงม้า และแรงบิด 403 นิวตันเมตร

ราคา :

PRO-4X/PRO-2X

Calibre

King Cab

Single Cab

รีวิว

 

MG
รุ่น : Extender


ถึงแม้ว่า เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จะเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยก็ตาม แต่ก็ไม่ทิ้งตลาดรถกระบะด้วยการส่ง Extender กระบะพันธุ์ยักษ์ที่ให้มากกว่าความแกร่ง มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ดุดัน ทรงพลัง ตอกย้ำความเป็นสมาร์ทปิกอัพด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ i-SMART และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรปที่ครบครันถึง 9 ระบบ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ที่ให้กำลัง 161 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ถ้าคุณชอบความแตกต่างกับดีไซน์ล้ำสมัยที่หล่อเหลาขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า โดดเด่นกว่าคู่แข่งในเรื่องของขนาดตัวรถที่กว้างกว่า ค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่าแล้วล่ะก็ Extender ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่เบา

ราคา :
Double Cab

Giant Cab 

 

และนี้คือเหล่าบรรดารถกระบะน่าใช้..ราคาดี ไม่ว่าคุณจะเป็นสายออฟโรดตัวแรง, สายซิ่ง, สายทำธุรกิจ หรือจะเลือกไว้ใช้เป็นรถประจำครอบครัว รถเหล่านี้ก็เป็นรถที่น่าเลือกใน ประจำเดือนกันยายน 2567 
 

 
หมายเหตุ :
  • ราคาที่ระบุข้างต้นเป็นการค้นหาข้อมูลมาจากเว็บไซต์ของรถยนต์แต่ละแบรนด์นั้น ๆ ณ วันที่ทำบทความ ดังนั้นราคาดังกล่าวจึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ และโปรดสอบถาม หรือตรวจสอบราคาล่าสุดจากตัวแทนจำหน่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับรุ่นนั้นๆ อีกครั้ง
  • ข้อมูลสินค้าที่จัดอันดับข้างต้นนี้เป็นข้อมูลสินค้า ณ เดือนกันยายน 2567 และเมื่อเวลาผ่านไปลำดับเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับข้อมูลสินค้าที่เปลี่ยนไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง รถกระบะน่าใช้ รถกระบะราคาดี evcar
CAR GURU
เขียนโดย วโรดม อิ้วลันตา CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)