ซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้า บริษัทไหนครอบคลุมดีที่สุด?

สำหรับผู้ที่กำลังให้ความสนใจใน รถยนต์ไฟฟ้า หรือท่านที่มีรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ในครอบครอง ก็คงจะชื่นชอบข้อดีของรถยนต์ประเภทนี้เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน นั่นก็คือ เป็นรถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, ต้นทุนเชื้อเพลิง (ค่าไฟ) ถูกกว่า (น้ำมัน), ประสิทธิภาพของรถดีกว่า (ทั้งกำลัง และแรงบิด), เทคโยโลยี และนวัตกรรมล้ำสมัย ที่สำคัญนั่นก็คือ สิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่จะได้รับ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่ด้วยเหมือนกัน อาทิ ระยะทางในการขับขี่จำกัด, ระยะเวลาในการชาร์จ, ราคาซื้อเริ่มต้นที่สูงกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง, การเข้าถึงสถานีชาร์จ, อายุการใช้งาน รวมถึงความสามารถในการเก็บประจุของแบตเตอรี่ และที่สำคัญเลยก็คือ ค่าเบี้ยประกันภัยที่มีราคาสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป แต่แม้จะมีข้อจำกัดเหล่านี้ แต่รถยนต์ไฟฟ้าก็มีเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว หลายจุดที่เป็นข้อด้อยก็ค่อย ๆ ถูกปรับแก้ไขไปในทุก ๆ วันที่ผ่านไป 

 

 

ไม่เพียงแต่รถยนต์ไฟฟ้าที่จำเป็นต้องทำประกัน จริง ๆ แล้วรถยนต์ไม่ว่าจะใช้เชื้อเพลิงแบบใดก็ควรมีประกันภัยติดรถไว้ เพราะเป็นข้อบังคับทางกฎหมาย ว่ารถทุกคันต้องมีประกันภัยภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. ที่รถทุกคันจเป็นต้องมี หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ และทำให้ไม่สามารถเสียภาษีได้อีด้วย โดยประกันภัยภาคบังคับนี้ จะให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลที่ 3, ลดความเสี่ยงในเรื่องของการชดเชยความเสียหาย,ค่ารักษาพยาบาลต่อบุคคลที่ 3

ส่วนประกันภัยที่เรานิยมซื้อกันกับบริษัทประกันนั้นจะเป็นประกันภัยภาคสมัครใจ โดยประกันประเภทนี้ไม่ได้มีกฎหมายมาบังคับว่าจะต้องทำ แต่เจ้าของรถก็เลือกที่จะทำเพื่อเพิ่มความคุ้มครองต่อ รถยนต์, บุคคล ซึ่งก็จะมีหลายชั้นประกันให้เลือก (ชั้น 1, ชั้น2, ชั้น 2+, ชั้น 3 เป็นต้น) เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายจาก อุบัติเหตุ, การโจรกรรม, ภัยธรรมชาติ ฯลฯ การมีประกันภาคสมัครใจก็จะช่วยให้ผู้ที่เป็นเจ้าของรถนั้นลดความเสี่ยงไปได้ 

 

แต่สิ่งที่ รถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความคุ้มครองมากกว่ารถยนต์ทั่วไปเมื่อทำประกันภัยชั้น 1  นั่นคือจะให้ความคุ้มครองเหมือนอย่างที่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง แต่จะมีความแตกต่างในบางจุดที่เป็นเรื่องเฉพาะของรถยนต์ไฟฟ้า อาทิ 

 

แล้วทีนี้..จะเลือกทำประกันภัยภาคสมัครใจให้กับรถยนต์ไฟฟ้า บริษัทไหนดี บริษัทไหนถึงจะครอบคลุมที่สุด ก็คงจะต้องบอกว่า มีหลายเรื่องที่ต้องพิจารณาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการ นั่นก็คือ

 

 

โดยปกติแล้วการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าก็จะมีการแถมประกันภัยมาให้ แต่ถ้าเกิดความคุ้มครองไม่ตรงกับความต้องการล่ะ ก็คงต้องเลือกใหม่ ทีนี้จะมาดูกันว่า ซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้า บริษัทไหนครอบคลุมดีที่สุด? 

 

และนี่ก็เป็นตัวอย้างของบริษัทประกันภัย ฉะนั้นการเลือกประกันภัยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าควรพิจารณาถึงความคุ้มครองที่เฉพาะเจาะจงสำหรับคุณลักษณะของรถยนต์ไฟฟ้า และเจ้าของรถควรตรวจสอบรายละเอียดและเงื่อนไขของกรมธรรม์อย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสม