ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

ลองขับ New GWM ORA Good Cat เจ้าแมวไฟฟ้าประกอบไทยแบตฯ เล็กลง แต่ราคาก็น่าเลี้ยง!

icon 13 มิ.ย. 67 icon 2,662
ลองขับ New GWM ORA Good Cat เจ้าแมวไฟฟ้าประกอบไทยแบตฯ เล็กลง แต่ราคาก็น่าเลี้ยง!
New GWM ORA Good Cat เจ้าเหมียวไฟฟ้าขวัญใจชาวไทยถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ที่จะเริ่มทำการผลิตแบบจำนวนมาก (Mass Production) จากโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จังหวัดระยอง เพื่อส่งออกขายสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทย โดยรถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ภายใต้แบรนด์ "ORA" ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่ออกแบบและถือกำเนิดขึ้นเพื่อสร้างกระแสความนิยมในหมู่ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชื่นชอบความเป็นเอกลักษณ์มีสไตล์ รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยมากมาย ตอบโจทย์ทุกการขับขี่อย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
 
 
New GWM ORA Good Cat ใหม่เปิดตัวพร้อมกับการประกอบในประเทศไทย ปรับสเปคใช้แบตเตอรี่เป็น LFP (ลิเธียมไอออน ฟอสเฟต) ทุกรุ่นมีระยะวิ่งไกลรุ่น Pro,Ultra 480 กม. และ 460 กม. ในรุ่น GT กม. ทดลองขับเส้นทาง กทม.- สระบุรีกว่า 300 กม. สบาย ๆ พละกำลงเท่าเดิมเพิ่มเติม TopSpeed 160 กม./ชม.
มาพร้อมราคาน่าเลี้ยง 
ORA Good Cat PRO ราคา 799,000 บาท  
ORA Good Cat ULTRA ราคา 899,000 บาท
ORA Good Cat GT ราคา 1,099,000 บาท
ในทริปนี้ใด้ขับรุ่น Ultra สลับกับสื่อมวลชนไปและกลับ ออกสตาร์ต จากโชว์รูม GWM ICONIC รามอินทรา กม. 7  ระดับแบตเตอรี่ 96% ถึง The barnery สระบุรี คงเหลือ 70% ระยะทาง 105 กม. และเมื่อรวมทั้งหมดประมาณ 240 กม. จนกลับจุดเริ่มต้น ระยะขับคงเหลือ 215 กม. ระดับไฟคงเหลือ 43% นับว่าใกล้เคียงกับระยะที่เคลมไว้ 
 
*โดยส่วนตัวใช้งานเจ้า Goodacat Ultra 500 เป็นประจำอยู่แล้ว จึงอาจจะเปรียบเทียบได้ชัดเจนมากขึ้น 
 

สมรรถนะคันเร่งเนียนและนุ่มนวล

 
New ORA GOODCAT Ultra สัมผัสได้ถึงความสมูทของคันเร่ง การตอบสนองแบบไม่มีอาการ “ดีเลย์“ ถือว่าขับง่ายขึ้นเนียนขึ้นไม่มีการหน่วง แต่อัตราเรางกลับมาแบบนุ่ม ๆ ค่อย ๆ ไต่นะดับความเร็ว ไม่กระชากกระตุกเหมือนรุ่นก่อนหน้า ที่กดคันเร่งลึก ๆ จะกระชากกว่า อาจเกิดจากน้ำหนักแบตฯ มากขึ้นจากเดิมราว ๆ 100 กิโลกรัม เหมือนมีผู้โดยสารเพิ่ม จึงทำให้การเร่งดูแผ่ว ๆ ลงไปบ้าง แต่ก็แทบไม่รู้สึกมากนัก 
 
คันเร่งมาไว้ขึ้น ในทุกโหมด 
การตอบสนองคันเร่งทำงานได้เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า การตอบสนองไว้นี้ หมายถึง คันเร่งจะไม่มีอาการ ดีเลย์มากเท่ารุ่นก่อนหน้า แม้จะเป็นโหมด ECO,NORMAL หรือทุกโหมดก็ตาม มอเตอร์ไฟฟ้าตอบสนองอัตราเร่งทันทีที่แตะคันเร่งลงไป รุ่นเดิมเมื่อกดคันเร่งจะต้องรอการดีเลย์เล็กน้อย แล้วรถจึงเร่งไป และเมื่อยกคันเร่งจะรู้สึกว่ามีระยะรอสั้น ๆ ก่อนที่มอเตอร์ไฟฟ้าจะหยุดตาม แต่ในรุ่นประกอบไทยนั้นกลับไว้ตามเท้าทั้งกดคันเร่งหรือยกออก ทำได้แบบเรียบไทม์มากขึ้นครับ 
 
ส่วนการตอบสนองอัตราเร่งของโหมดการขับขี่แต่ละแบบนั้น ก็ตามชื่อเลย ECO เมื่อกดไปรถออกออกตัวทันที แต่มีความหน่วยให้ค่อย ๆ เพิ่มความเร็วเพื่อเน้นการขับขี่แบบประหยัด ในโหมดอื่นๆ เช่น Narmal ก็จะหน่วงน้อยลง ยิ่งในโหมด Sport ก็จะเร่งได้ตามเท้าทันใจมากที่สุด ส่วนโหมด ECO+ ใหม่ที่เพิ่มใน Pro และ Ultra ก็จะเป็นการหน่วยคันเร่งให้ค่อย ๆ ขึ้นช้า ๆ และล็อคความเร็วไว้ที่ไม่เกิน 85 กม./ชั่วโมง เพื่อเป็นการประหยัดแบบสุด ๆ เข้าไปอีก (โหมดนี้ไม่สามารถเปิดขณะวิ่งความเร็วสูงเกินกว่า 50 กม./ชม. ต้องเปิดใช้ที่ความเร็วต่ำ ๆ ก่อนเสมอ) และไม่ว่าจะอยู่ในโหมดใด หากจำเป็นต้องเร่งแซงอย่างรวดเร็ว ก็เพียง "คิกส์ดาวน์" รถก็จะตอบสนองตามเท้าได้คล้าย ๆ กัน เพื่อให้แซงได้อย่างปลอดภัยครับ     
 
 
อัตราเร่งไม่ดุดันเท่าเดิม! 
การเร่งออกตัวและแซงนั้น รู้สึกถึงความ "หนืด" และนุ่มนวล อากรกระชากลดลงจากรุ่นก่อนหน้านี้ และช่วงความเร็วกลาง ๆ ถึงปลายจะขึ้นแบบไต่ระดับความเร็วช้า ๆ ไปเรื่อย ๆ อาการชุดน้อยลง คาดว่าเป็นเพราะน้ำหนักแบตฯ ที่เพิ่มมา ทำให้เหมือนมีน้ำหนักบรรทุกมากขึ้น ในขณะที่กำลังและความแข็งโช้คกับสปริงเท่าเดิม ส่งผลให้การเร่งเหมือน "รถมีน้ำหนักถ่วงเล็กน้อย"
 
ช่วงล่างปรับสปริงยาวขึ้น...แต่นุ่มนวลกว่า....นิดหน่อย
ส่วนระบบช่วงล่างก็แตกต่างไม่มาก จากรุ่นก่อนหน้าที่จะออกแนวแข็ง เด้ง กระโดด ตึงตัง แต่ใน New GWM ORA Good Cat ใหม่ กลับมีบางจังหวะที่นุ่มสบายกว่า ไม่เขย่าเท่ารุ่นเดิม และเมื่อขับผ่านถนนขรุขระ คอสะพานต่าง ๆ มีความนุ่มนวลกว่า (แบบไม่ตั้งใจหรือเปล่า) ซึ่งระบบช่วงล่างที่มีการปรับปรุงเพียง "เพิ่มความสูงของสปริงรับน้ำหนัก" เพื่อให้รองรับแบตฯ ที่หนักขึ้น และให้ความสูงใต้ท้องรถลงมาเท่าเดิม ไม่ต่ำเกินไป จึงมีส่วนช่วยให้ช่วงล่างนุ่มขึ้น และยังคงความแข็งแน่นหนึบบ้าง แต่เมื่อลองขับเข้าโค้งจับอาการรถ เอียงหรือเอนมากกว่ารุ่นก่อนหน้าอยู่บ้างครับ             
 
ระบบจ่ายไฟใช้ภายนอก V2L นับว่าใช้ได้คุ้มค่ามาก จ่ายกำลังไฟถึง 3,300 W ในกิจกรรมนี้มีการจัดแสดงการใช้งานเครื่องไฟฟ้าให้ดูกับแบบจริงจัง ดดยมีตั้งแต่ ตู้แอมปฺ กี่ต้าร์ คีย์บอรด์ พัดลม ตู้แช่น้ำเย็น ลำโพงบลูทูธ รวมกำลังไฟกว่า 2,000 W แบบสบาย ๆ โดยที่ใช้ไฟจากเจ้าแมว GT มีไฟในแบตฯ อยู่ 90% ที่ผ่านการใช้งานกิจกรรมนี้มา 2 วันกว่า ๆ ถือว่าจ่ายไฟได้เยอะแถมประหยัดแบตฯ อีกด้วยครับ 
 
ทริปนี้ได้ขับเพียงรุ่น ULTRA เท่านั้น รุ่น GT อาจจะมีการนำมาทดสอบเพิ่มเติมในโอกาสต่อไปครับ 

ความปลอดภัย ADAS เท่าเดิม

ระบบความปลอดภัย ฟังก์ชันต่าง ๆ เปลี่ยนไม่เยอะ ยังมี เช่น สวิตช์เบรกมือไฟฟ้าและเลือกโหมดขับขี่อยู่บนหน้าจอแทน หรือการเพิ่มโหลด ECO+ ในรุ่น Pro/Ultra กับ Individual ในรุ่น GT ที่ปรับค่าคันเร่ง การหน่วง และความเร็วสูงสุดได้แบบละเอียดขึ้น ยังคงระบบความปลอดภัยต่าง ๆ มากมาย คือ 
  • ระบบอัปเกรดระบบผ่านออนไลน์ (FOTA) ระบบดังกล่าวมาพร้อมกับความสามารถในการอัปเกรดเฟิร์มแวร์สำหรับการควบคุมระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกำลัง และระบบการขับขี่อัจฉริยะต่าง ๆ รวมถึงระบบ Infotainment และระบบควบคุมอื่น ๆ ภายในรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย
  • ระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ สามารถควบคุมการใช้งานฟังก์ชันได้ตลอดเวลาด้วยเสียง รวมถึงควบคุมเครื่องปรับอากาศ ซันรูฟ ระบบนำทาง และมัลติมีเดีย เพื่อลดความเสี่ยงในการขับขี่ และมอบความปลอดภัยอย่างไร้กังวล
  • การสั่งการและควบคุมรถจากระยะไกล เป็นระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการท างานบางฟังก์ชันของรถยนต์ได้ แม้ผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถยนต์รวมไปถึงการสร้างระบบความปลอดภัยให้กับรถยนต์
  • ฟังก์ชันด้านการเข้าถึงข้อมูลแบตเตอรี่รถไฟฟ้า เช่น ระบบตรวจสอบสถานะปริมาณแบตเตอรี่ ระบบตรวจสอบสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ ระบบตรวจสอบระยะทางวิ่งคงเหลือ และระบบช่วยเตือนเมื่อแบตเตอรี่ 12V ต่ำ
  • ฟังก์ชันด้านการใช้งานที่สามารถสั่งการและควบคุมได้จากระยะไกล เช่น การควบคุมระบบปรับอากาศ การล็อกและปลดล็อกประตู การค้นหารถยนต์ และการสั่งปิดหน้าต่าง
  • ฟังก์ชันด้านความปลอดภัยที่สามารถสั่งการและควบคุมได้จากระยะไกล เช่น การแสดงตำแหน่งรถยนต์ การกำหนดรัศมีการใช้งานรถ และการแสดงผลการตั้งค่าต่าง ๆ ของรถยนต์
ระบบความบันเทิงแบบมัลติมีเดีย 
  • รองรับ Apple CarPlay และ Siri
  • รองรับ Android Auto และ Google Assistant
  • รองรับแอปพลิเคชันเพลง เช่น JOOX
ระบบนำทางระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย (Driver Assistance and Safety Systems) สำหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติในระดับ L2+
  • ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Active Safety) 
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ที่ประสานกับชิปควบคุมการขับเคลื่อนอัตโนมัติ EYEQ4 ของโมบายอาย เพื่อช่วยควบคุมในช่วงความเร็วเต็มพิกัดที่กำหนดไว้ รวมถึงการหยุดและกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า โดยรถจะลดความเร็วลงและหยุดตามคันหน้า และเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัวหลังจากเบรกภายใน 3 วินาที รถจะเคลื่อนตัวตามคันข้างหน้าอัตโนมัติและควบคุมระยะห่างการติดตามให้อยู่ในระยะที่ปลอดภัย
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) เป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อใช้ความเร็วต่ำโดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดและรถเคลื่อนตัวได้ช้า ระบบจะควบคุมให้รถติดตามรถด้านหน้าหรือขับต่อไปด้วยความเร็วคงที่เพื่อลดภาระของผู้ขับขี่
  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ระบบนี้ถือเป็นหนึ่งในระบบที่ดีที่สุดในระดับ L2+ ที่มาพร้อมระบบการตรวจจับคนเดินถนนและทางแยก โดยสามารถคำนวณระยะทางระหว่างรถและคนเดินถนนได้แบบเรียลไทม์ รวมทั้งยังมีสัญญาณเตือนด้วยเสียงและการเบรกอัตโนมัติเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทก
  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่า (MEB) เมื่อระบบช่วยจอดรถยนต์และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำทำงาน จะมีเรดาร์ตรวจพบสิ่งกีดขวางที่หยุดนิ่งในเส้นทางการถอยหลังและมีความเสี่ยงที่จะเกิดการชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการจราจรมีการเปลี่ยนแปลงและมีความชุลมุน เพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุโดยความเร็วขณะถอยจะต้องไม่เกิน 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบจะช่วยควบคุมพวงมาลัยเพื่อบังคับให้รถอยู่ในเลน โดยจะระบุเส้นแบ่งเลนถนนผ่านกล้องที่กระจกหน้ารถเมื่อคนขับเบี่ยงเลนโดยไม่รู้ตัว และเมื่อระบบตรวจสอบพบว่าผู้ขับขี่มีลักษณะการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย ระบบจะแจ้งเตือนด้วยเสียง
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบจะแจ้งเตือนเมื่อรถกำลังออกนอกเลน เมื่อรถเบี่ยงออกจากเลนโดยไม่รู้ตัว ระบบจะส่งเสียงเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่มีเวลาตอบสนองมากขึ้น
  • ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ระบบจะช่วยควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) หากระบบตรวจสอบแล้วพบรถอีกคันกำลังแล่นมา หรือมีรถแซงขึ้นมาจากอีกเลน ระบบจะทำการแทรกแซงการทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดความเสี่ยงในการชน (เฉพาะรุ่น ULTRA และ GT)
  • ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) ระบบจะตรวจสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือรถที่มีขนาดยาว ระบบจะรักษาช่องว่างระหว่างรถตามระยะที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะในระหว่างการแซง และจะประคองรถให้กลับสู่เลนเดิมอัตโนมัติ
  • การเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent cornering) เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องระบบจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้อัตโนมัติ
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) เมื่อรถออกจากจุดที่หยุดนิ่งบนเนินสูงชัน เบรกจะยังคงค้างอยู่ราว 2 วินาที จนกระทั่งคันเร่งทำงาน เพื่อป้องกันการถอยหลัง
  • ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM) รถจะพยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
  • ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) รถจะทำการวัดแรงดันลมยางอย่างต่อเนื่องและเตือนผู้ขับขี่หากมีแรงดันลมยางล้อใดล้อหนึ่งลดลง
  • กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัว มีความละเอียดคมชัด 4 เมกะพิกเซล โดยระบบจะรวมเอามุมมองภาพทั้ง 4 กล้องมาสร้างภาพที่มีมุมมอง 360 องศา เพื่อแสดงให้เห็นมุมมองของรถในแบบ “เฮลิคอปเตอร์” และเปิดการทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่โหมดการถอยหลัง โดยสามารถดูได้เมื่อรถมีความเร็วต่ำกว่า 15 หรือ30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP)
ระบบจะใช้เซนเซอร์และกล้องในการตรวจสอบเพื่อตรวจจับวัตถุและเครื่องหมายบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถ และช่วยทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวเฉียง โดยเมื่อระบุช่องว่างที่จะนำรถเข้าจอดแล้ว รถจะทำการจอดด้วยตัวเองด้วยการควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง (เฉพาะรุ่น ULTRA และ GT)
  • ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA&RCTB) ระบบจะมีเซนเซอร์ช่วยตรวจสอบจุดอับสายตาด้านหลังของตัวรถทั้งด้านซ้ายและขวาของช่องทางเดินรถในขณะถอยหลัง เมื่อรถกำลังถอยหลังออกจากช่องจอด เซนเซอร์หลังของรถจะทำการเช็กด้านซ้ายและขวาของช่องจราจร และส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียง หากผู้ขับขี่ยังเพิกเฉย ไม่หยุดรถ ระบบเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินจะเริ่มทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการชน (เฉพาะรุ่น ULTRA และ GT)
  • ระบบความปลอดภัยเชิงปกป้อง (Passive Safety)
  • โครงสร้างตัวถัง ทำมาจากเหล็กกล้า IronBone™ ที่มีความแข็งแรงสูง 65% และเหล็กเทอร์โมฟอร์ม 18 ชิ้น ซึ่งสามารถดูดซับและลดแรงกระแทกเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหลัก
  • ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง เพื่อปกป้องผู้โดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ในกรณีที่ถุงลมนิรภัยทำงาน สัญญาณเตือนอันตรายจะทำงาน ประตูจะถูกปลดล็อก และรถจะโทรติดต่อศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน และสามารถส่งตำแหน่งเพื่อขอความช่วยเหลือได้
  • ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยในระดับ Good จาก China Insurance Research Institute (C-IASI)
  • ระบบโทรหาเบอร์ฉุกเฉิน เมื่อผู้ขับขี่เจ็บป่วยกะทันหันหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้แตะที่ปุ่มเพื่อติดต่อกับหน่วยงานในการช่วยเหลือ หรือในกรณีที่ถุงลมนิรภัยระเบิด ผู้ประสบภัยหมดสติ ระบบจะติดต่อเบอร์ฉุกเฉินอัตโนมัติ
 

สรุปความคุ้มค่า 

 
สรุปภาพรวมจากคนใช้งานจริง Goodacat  ULtra 500 อยู่ ขอสรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า ในแมวรุ่นใหม่นี้ บอกเลยว่าคุ้มค่ามาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่น PRO ที่เดิมวิ่งได้ 400 กม. ในรุ่นใหม่เพิ่มเป็น 480 กม. ต่อชาร์จ ส่วนในรุ่น Ultra 500 แม้ระยะทางจะลดลง แต่ราคาก็ถูกลงจากเดิมแบบสมน้ำสนเนื้อ!!!  
 
สมรรถนะการขับขี่ควบคุมง่ายขึ้นคันเร่งไม่กระชากมากทำให้ควบคุมง่าย ออกตัวนุ่มนวลกว่าเดิม พวงมาลัยที่ปรับได้ 4 ทิศทาง ทำให้ชีวิตเปลี่ยนท่านั่งสบายและลงตัวมากขึ้น จากเดิมปรับได้ 2 ทิศทางเพียงขึ้นลงเท่านั้น ไฟกระจกส่องหน้าแบบฟรุ้งฟริ้งพร้อมรูปหัวแมว เก๋น่ารัก ยกมาจากรุ่น GT เลย นอกจากนี้ระยะทางที่วิ่งได้ก็ใกล้เคียงที่ตั้งเอาไว้ บวก-ลบ ไม่เกิน 80 กม. หมดกังวลเรื่องการใช้งานได้มากขึ้น 
 
ก้านเปลี่ยนเกียร์เกียร์อัตโนมัติแบบใหม่ด้านข้างพวงมาลัยเปลี่ยนง่ายกว่าเดิม ที่เป็นแบบหมุนและไม่มีล็อกใช้งานยากกว่า ส่วนเรื่องระบบความปลอดภัยที่เต็มคันเทียบเท่ารถญี่ปุ่นหรือยุโรปที่ค่าตัวสูง ๆ แต่น้องแมวจัดให้ครบถ้วนแบบไม่กั๊ก ระบบชาร์จไร้สายเพิ่มกำลังเป็น 50W จากเดิมเพียง 15W      
 
สุดท้ายอย่าลืมประเมินความพร้อมในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ความต้องการที่แท้จริง และลักษณะการใช้งานในชีวิตประจำวันว่า ว่าสะดวกและรับได้กับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าล้วนหรือไม่? หากตรงกับใจคุณหรือเปิดใจในรถยนต์(จีน)ไฟฟ้า บอกเลยว่า "New ORA Goodcat เหมาะสมกับราคาที่ต้องจ่ายแน่นอนครับ"  
 
แท็กที่เกี่ยวข้อง New GWM ORA Good Cat ora evcar
CAR GURU
เขียนโดย สินธนุ จำปีศรี CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)