การใช้รถบนถนนมีความเสี่ยงที่จะเกิด อุบัติเหตุ ขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่ได้มีแค่รถยนต์คู่กรณีแต่ยังมีความเสี่ยงรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อีกด้วย ในกรณีนี้สิ่งที่มีชีวิตนอกเหนือจากคนแล้วยังรวมถึง หมา, แมว หรือสัตว์ประเภทอื่น ๆ สมมุติว่าเกิดเหตุขึ้นแล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ แล้วรถของเรานั้นจะสามารถเคลมกับบริษัทประกันได้หรือไม่นั้น..มาดูกันครับ
การขับรถชนสัตว์ เช่น หมา, แมว, หรือสัตว์อื่น ๆ นั้น บริษัทประกันก็จะให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่รถคุณมีอยู่ โดยปกติแล้ว ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุต่าง ๆ รวมถึงความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ของคุณเองและรถยนต์ฝ่ายตรงข้าม รวมถึงบุคคลภายนอกรถ แต่กับกรณีชนสัตว์นั้นอาจมีข้อจำกัดที่ไม่ครอบคลุใฝนบางกรณี เพื่อความชัดเจนจึงควรตรวจสอบเอกสารกรมธรรม์ว่ามีรายละเอียดอะไรบ้าง หรือไม่ก็ติดต่อสอบถามกับบริษัทประกันโดยตรงเพื่อทำความเข้าใจข้อกำหนดต่าง ๆ
ขับรถชนสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ
การขับรถชนสัตว์อย่างเช่น หมา, แมว นั้น อาจต้องแบ่งแยกให้ชัดเจน เริ่มด้วยสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของกันก่อน หากรถของคุณได้ทำประกันชั้น 1 ไว้ การคุ้มครองก็อาจจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไข
- ความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ : ประกันชั้น 1 โดยทั่วไปจะครอบคลุมความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ของคุณไม่ว่าจะเกิดจากอะไรก็ตาม รวมถึงการชนสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ
- ความรับผิดต่อบุคคลภายนอกและสัตว์ : สำหรับความเสียหายหรือความรับผิดที่เกิดกับบุคคลภายนอกหรือสัตว์, ความครอบคลุมอาจจะมีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขพิเศษ
- ข้อกำหนดและเงื่อนไข : ต้องตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขในกรมธรรม์ของคุณ เพราะบางกรมธรรม์อาจมีข้อยกเว้นหรือข้อจำกัดเฉพาะเกี่ยวกับการชนสัตว์
- การแจ้งเหตุและการเคลม : หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ควรแจ้งเหตุการณ์กับบริษัทประกันโดยเร็วที่สุด และให้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับกระบวนการเคลม
- ระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎหมาย : สิ่งสำคัญคือการขับขี่อย่างระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎหมายจราจรเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
สรุป รถคันนี้จะได้รับความคุ้มครอง สามารถเคลมค่าเสียหายต่าง ๆ ได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก เรียกว่า สบายใจหายห่วง
ขับรถชนสัตว์ที่มีเจ้าของ
ในกรณีที่รถของคุณนั้นเกิดชนเข้ากับสัตว์ที่มีเจ้าของ ก็มีกฏหมายออกมาควบคุมในส่วนนี้ว่า ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 111 ระบุไว้ว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดขี่จูงไล่ตอนหรือปล่อยสัตว์ไปบนทาง ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรและไม่มีผู้ควบคุมเพียงพอ หากฝ่าฝืนอาจต้องรับโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ตามมาตรา 148" ทำให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะสัตว์ เจ้าของสัตว์ตัวนั้นหรือบุคคลที่รับเลี้ยงไว้แทนเจ้าของจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เว้นแต่ว่าจะไกเรับการพิสูจน์ได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การเลี้ยงและนี่คือข้อควรพิจารณาในเรื่องของการเคลมประกันรถยนต์ชั้น1
- ความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ : ประกันรถยนต์ชั้น 1 มักจะครอบคลุมความเสียหายที่เกิดกับรถของคุณ ไม่ว่าจะเกิดจากการชนสัตว์หรือสิ่งอื่นใด
- ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกหรือสัตว์ : หากสัตว์ที่คุณชนมีเจ้าของ คุณอาจมีความรับผิดชอบทางกฎหมายหรือภาระค่าเสียหายที่เกิดกับสัตว์นั้น บางกรมธรรม์ประกันรถยนต์อาจครอบคลุมความรับผิดนี้ภายใต้ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอก.
- ข้อกำหนดและเงื่อนไขของกรมธรรม์ : ควรตรวจสอบเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันของคุณเพื่อเข้าใจว่ามีการครอบคลุมความเสียหายที่เกิดกับสัตว์หรือไม่ และมีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขอย่างไร
- การแจ้งเหตุและการเคลม : หากเกิดเหตุการณ์นี้ควรแจ้งเหตุการณ์กับบริษัทประกันและขอคำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนการเคลม
- การปฏิบัติทางกฎหมาย : อาจมีความจำเป็นที่ต้องติดต่อเจ้าของสัตว์ และอาจมีการจัดการเรื่องค่าเสียหายหรือความรับผิดชอบทางกฎหมายตามที่เหมาะสม
แต่ในทางกลับกัน ถ้าสัตว์ตัวนั้นที่มีเจ้าของเกิดวิ่งตัดหน้ารถบนถนนจนเกิดอุบัติเหตุทำให้สัตว์ตัวนั้นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และรถยนต์ก็ได้รับความเสียหาย เจ้าของสัตว์ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด หากเจ้าของสัตว์ไม่รับผิดชอบ เจ้าของรถก็สามารถนำหลักฐานเกี่ยวกับอุบัติเหตุ อาทิ ภาพถ่าย, ภาพจากกล้องหน้ารถ ไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวัน แล้วนำใบแจ้งความยื่นเคลมประกันรถยนต์ได้ ในกรณีประกันชั้น 1
ขับรถชนสัตว์บนถนนส่วนบุคคล หรือ บริเวณที่พักอาศัย
ส่วนกรณีที่ขับรถชนสัตว์บนถนนส่วนบุคคล หรือ บริเวณที่พักอาศัย นั้นมีหลายประเด็นที่ต้องพิจารณา ประกอบด้วย
- ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ : ถึงแม้เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในพื้นที่ส่วนบุคคลหรือบริเวณที่พักอาศัย ประกันรถยนต์ชั้น 1 โดยทั่วไปยังคงให้ความคุ้มครองเหมือนกับเมื่อเกิดเหตุบนถนนสาธารณะ ตราบใดที่รถยนต์ของคุณถูกใช้งานตามเงื่อนไขที่ประกันระบุไว้
- ความรับผิดต่อสัตว์ที่ชน : หากสัตว์ที่ชนมีเจ้าของ คุณอาจมีความรับผิดชอบทางกฎหมายต่อเจ้าของสัตว์ ซึ่งอาจรวมถึงค่ารักษาพยาบาลหรือค่าชดเชยอื่นๆ สำหรับสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บ
- ข้อกำหนดและเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกัน : ต้องตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันของคุณเพื่อเข้าใจว่ามีการครอบคลุมเหตุการณ์ประเภทนี้หรือไม่
- การรายงานเหตุการณ์และการเคลมประกัน : คุณควรรายงานเหตุการณ์นี้กับบริษัทประกันและตำรวจตามความจำเป็น การรายงานเหตุการณ์จะช่วยในกระบวนการเคลมประกันและเป็นหลักฐานสำหรับการจัดการความรับผิดชอบทางกฎหมาย
- ความรับผิดชอบและความระมัดระวัง : ควรปฏิบัติอย่างมีความรับผิดชอบและระมัดระวังในการขับขี่ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อาจมีสัตว์เดินไปมา
- กฎหมายและข้อบังคับท้องถิ่น : ในบางพื้นที่อาจมีกฎหมายหรือข้อบังคับเฉพาะเกี่ยวกับความรับผิดชอบเมื่อชนสัตว์ ซึ่งคุณควรทำความเข้าใจและปฏิบัติตาม
สรุป ในกรณีนี้สัตว์ดังกล่าวอยู่บนถนนส่วนบุคคล หรือ บริเวณที่พักอาศัย ผู้ขับถือว่ามีความผิดต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายต่าง ๆ และต้องชดใช้ค่าเสียหายให้เจ้าของสัตว์ด้วย
ส่วนประกันชั้นอื่น ๆ เช่น ชั้น 2 ชั้น 3 ฯลฯ มีความครอบคลุมที่แตกต่างจากประกันชั้น 1 โดยชั้น 2 จะมีข้อจำกัดมากกว่าในแง่ของสิ่งที่ได้รับความคุ้มครอง ส่วนชั้น 3 ก็จะมีความครอบคลุมที่จำกัดมากกว่าเมื่อเทียบกับประกันชั้น 1 และ 2 และมักจะมุ่งเน้นไปที่ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกและรถยนต์ฝ่ายตรงข้ามมากกว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณเอง สำหรับกรณีขับรถชนสัตว์ การเคลมประกันขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันรถยนต์ของคุณ:
- ความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ : ประกันชั้น 2 บางกรมธรรม์อาจไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากการชนสัตว์ คุณต้องตรวจสอบรายละเอียดในกรมธรรม์เพื่อดูว่าความเสียหายที่เกิดจากการชนสัตว์ถูกครอบคลุมหรือไม่ ส่วนประกันชั้น 3 มักจะไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณเอง รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการชนสัตว์
- ความรับผิดต่อบุคคลภายนอกและสัตว์ : โดยทั่วไป ประกันชั้น 2 จะครอบคลุมความรับผิดต่อบุคคลภายนอกและรถยนต์ฝ่ายตรงข้ามในกรณีของอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม ความรับผิดในเรื่องค่าเสียหายหรือค่ารักษาพยาบาลสำหรับสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บอาจไม่ถูกครอบคลุม ส่วนประกันชั้น 3 จะครอบคลุมความรับผิดต่อบุคคลภายนอกในกรณีของอุบัติเหตุ แต่ความรับผิดในเรื่องค่าเสียหายหรือค่ารักษาพยาบาลสำหรับสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บมักไม่ถูกครอบคลุม
- การแจ้งเหตุและการเคลม : หากเกิดเหตุการณ์การชนสัตว์ ควรรายงานเหตุการณ์นี้กับบริษัทประกันของคุณโดยเร็วที่สุดเพื่อทำความเข้าใจขั้นตอนและข้อกำหนดในการเคลม
- รายละเอียดกรมธรรม์ : อ่านและทำความเข้าใจรายละเอียดในกรมธรรม์ของคุณอย่างละเอียด เพื่อทราบถึงขอบเขตความคุ้มครองและข้อยกเว้นที่อาจมี
แต่ถ้ามีการพิสูจน์ได้ว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความตั้งใจ (เจตนา) ถึงแม้รถของคุณจะได้รับความเสียหาย เจ้าของรถหรือคนขับ ก็จะมีความผิดตาม พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 อาจได้รับโทษจำคุก หรือโทษปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ที่ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงเสียทรัพย์ อีกด้วย ดังนั้น ไม่ว่ารถของคุณนั้นจะมีประกันชั้นอะไร ก็ควรระมัดระวังในการขับขี่ทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ผู้ขับขี่จีงต้องมีสติ ไม่ประมาท และที่สำคัญมีประกันรถยนต์ไว้อุ่นใจกว่า เพื่อช่วยคุณรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันครับ