GURU Ratings : 4.5/10 คุ้มไม่คุ้ม เช็กก่อน! ORA 07 รถยนต์ซีดานไฟฟ้าล้วนที่มาโชว์ตัวให้คนไทยเห็นหลายงานแล้วเงียบไป ความจริงกำลังปรับคุณภาพในหลาย ๆ จุดรวมถึงเซตอับออปชั่นต่าง ๆ ให้ทำราคาได้ (รอคู่แข่งประกาศราคาหรือเปล่าหนอ?) แต่เอาเป็นว่า มีแล้ว มาแน่ มาชัวร์ รอราคาอย่างเป็นทางการ โดยจุดเด่นของ ORA 07 น่าจะเป็นรูปทรงที่สารพัดเหมือน แต่ก็มีการปรับ ตบ ให้เข้ากับความเป็น ORA เอาไว้ได้ดี ทั้งภายนอกและภาพในที่ยิ่งเหมือนซูเปอร์คาร์ ให้อารมณ์ดุดัน แต่ก็แอบไฮโซเบา ๆ และแน่นอนว่าคู่แข่งโดยตรงคือ "BYD SEAL" ที่ขายดีเกินต้าน! ORA 07 รุ่น LONG RANGE อยู่ที่ 1,299,000 บาท และ ORA 07 รุ่น PERFORMANCE อยู่ที่ 1,499,000 บาท มาพร้อมกับเฉดสีภายนอกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว (Jade White) สีเทา (Amethyst Grey) และสีพิเศษ ม่วง (Crystal Purple) ในรุ่น PERFORMANCE เฉดสีภายในมีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และสีน้ำตาล ซึ่งเบาะสีน้ำตาลจะเป็นสีพิเศษสำหรับรุ่น PERFORMANCE ซึ่งเลือกจับคู่ได้กับสีภายนอกสีม่วงและสีเทาเท่านั้น นอกจากนี้ ORA 07 ยังมาพร้อมการรับประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือระยะทาง 180,000กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) จุดเด่น | จุดสังเกต | - ดีไซน์แบบรถสปอร์ตหรูยอดฮิต
- หลังคาแก้ว 2 ตอน
- ระบบความปลอดภัยเต็มคัน
- มีกล้องรอบคัน เตือนออกนอกเลนระบบช่วยจอด 3 รูปแบบ
- ภายในสปอร์ตสวย
- จอกลางสัมผัสไหลลื่น
- สปอยเลอร์เปิด-ปิดอัตโนมัติหรือสั่งเปิดเองได้
- พลังมอเตอร์ไฟฟ้ากว่า 400 แรงม้า
- วิ่งไกลกว่า 500 กม./ชาร์จ
- ภายในกว้างขวางโปร่ง
- กระจกประตูไร้ขอบแบบสปอร์ต
- งานประกอบและวัสดุค่อนข้างดี..ผ่าน!
| - แม้หน้าตาเป็นเอกลักษณ์แต่ก็คุ้น ๆ ตาอยู่
- กำลังมอเตอร์ยังไม่สุดเท่าคู่แข่ง
- หลังคาเปิดไปไม่ได้สวยอย่างเดียว
- มือจับประตุเท่ แต่ความทนทานยังไม่รู้
- ที่วางแก้วน้ำเล็กมากเหมือนคู่แข่ง
- ช่องเสียบชาร์จไร้สายขนาดเล็ก ๆ แบน ๆ อาจใช้ได้กับมือถือบางรุ่น
- ล้ออัลลอยลายมุ้งมิ้งเกินความสปอร์ตพรีเมี่ยม (อันนี้แล้วแต่มุมมอง)
- ช่องลมแอร์ต้องปรับในจอเท่านั้น
- หนังหุ้มพวงมาลัยให้สัมผัสที่แข็งไปหน่อย
- มีความคล้ายกับยุโรปหรูหลายจุด
| |
ORA 07 รถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูง โดยก่อนหน้านี้มาโชว์ตัวในไทยในชื่อ "Grandcat" แต่แล้วก็เปลี่ยนใหม่โดยใช้เป็นตัวเลขเพื่อบ่งบอกถึงความเป็นลำดับเซกเมนต์ของรถยนต์ ORA นั่นเอง ด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากความงามแห่งธรรมชาติผสมผสานกับความสปอร์ต ที่พร้อมให้ทุกขณะของการขับขี่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ และยังดื่มด่ำไปกับสุนทรียภาพแห่งการดีไซน์ ด้วยวัสดุคุณภาพชั้นเยี่ยมและผิวสัมผัสต่าง ๆ ที่ถูกคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อันโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของผู้ขับขี่ชาวไทย
ออกแบบทั้งภายนอกและภายในด้วยความปราณีตขั้นสูง โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการผสมผสานองค์ประกอบของธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกันอย่างงดงามและลงตัว เปรียบเสมือนดังงานศิลป์ชิ้นโบว์แดงเมื่อรถหยุดนิ่งอยู่กับที่ ในขณะขับขี่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ด้วยเส้นโค้งที่ลื่นไหลไปตามมาตรฐานการออกแบบทางอากาศพลศาสตร์ สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของธรรมชาติที่มอบความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย รถยนต์รุ่นนี้จึงถือเป็นศูนย์รวมของความละเอียดอ่อนและความสปอร์ตที่ผสมกลมกลืนกันได้อย่างลงตัวและสมบูรณ์แบบ
ORA 07 มาด้วยรูปร่างซูเปอร์สตรีมไลน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการไหลของน้ำตามปรากฏการณ์ธรรมชาติ "การไหลแบบลามินาร์" ซึ่งสายน้ำจะโอบอุ้มบรรดาก้อนกรวดหินด้วยความอ่อนโยนและนุ่มนวลแทนที่จะปะทะเข้าอย่างจัง ลายเส้นโค้งพลิ้วไหวที่รวมกับความอิสระและความสมบูรณ์ มิติตัวรถ 1,862 x 4,871 x 1,500 มิลลิเมตร (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2,870 มิลลิเมตร ระยะความสูงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) 125 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 2,115 กิโลกรัม ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สัน และระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงก์ที่ให้การขับขี่ที่ยึดเกาะถนนและนั่งสบายทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อตอบสนองการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนในครอบครัว
ดีไซน์ด้านหน้าของตัวรถถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ของรถซูเปอร์คาร์เพื่อเพิ่มแรงกด ด้วยกระจังหน้าที่ถูกออกแบบตามความแวววับบนผิวน้ำยามแสงแดดตกกระทบลงมา รับฝากระโปรงหน้าทรงหยดน้ำที่เว้าลงและนูนขึ้นทั้งสองด้าน ไฟหน้า Intelligent LED ทรงกลมแบบเรโทรเพื่อเพิ่มความสปอร์ตอย่างเต็มพิกัด โดดเด่นทั้งในเรื่องให้ความสว่างและความปลอดภัยด้วยระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow Me Home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอกด้านหน้าแบบ LED
ดีไซน์ด้านข้างได้รับการออกแบบให้หน้าต่างด้านข้างโค้งสูง มีเส้นโดยรอบทั้งคัน เสริมความหรูหราและความสปอร์ตเร้าใจ มาพร้อมหน้าต่างไร้กรอบที่เป็นกระจกแบบ 2 ชั้น เพื่อช่วยในเรื่องการซับเสียง โดยจะเลื่อนลงเมื่อเปิดประตู และเลื่อนปิดโดยอัตโนมัติเมื่อปิดประตู เพิ่มความสปอร์ตไปอีกขั้น ด้านหลังของรถถูกออกแบบด้วยดีไซน์ Slip-Back ให้ตัวรถมีความสปอร์ตมากขึ้น ด้วยรูปทรงที่ดูเพรียวบางจะช่วยลดแรงต้านลมและช่วยเสริมสมรรถนะของรถยนต์ ชุดล้อที่ยื่นออกมาเสริมให้ตัวรถดูหรูหราและมีมิติมากยิ่งขึ้น เพิ่มความรู้สึกแข็งแกร่ง
สปอยเลอร์ไฟฟ้าที่มาจากการออกแบบของรถสปอร์ต มาพร้อมฟังก์ชันเปิด-ปิดอัตโนมัติที่สามารถตั้งให้เปิดเมื่อปลดล็อกรถ หรือเมื่อความเร็วถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสปอยเลอร์ไฟฟ้านี้ผสานกับรูปทรงด้านหลังที่โค้งมนอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกของเทคโนโลยีอันล้ำสมัย แต่ยังคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้อย่างพอดี เสริมความหรูหราและความสปอร์ตด้วยไฟท้ายรูปทรงวงรีแบบ LED หลังคาแก้วแบบพาโรนามิคขนาดใหญ่ (Panoramic Glass Roof) ตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้าย ที่เป็นวัสดุช่วยเก็บเสียง โดยตัวหลังคาที่เป็นกระจกยังช่วยลดแสงและความร้อน รวมถึงช่วยให้ภายในห้องโดยสารดูโปร่งและกว้างขวางมากขึ้น
ORA 07 มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/45 โดยล้ออัลลอยมีการออกแบบมีลักษณะคล้ายอุ้งเท้าแมว ยกระดับภาพลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครได้อย่างดีเยี่ยม
ที่วางแก้วแบบซ่อนได้ กับ ช่องเสียบสมาร์ทโฟนแนวตั้ง
ห้องโดยสารที่ให้ความรู้สึกแบบซูเปอร์คาร์ มาพร้อมกับคอนโซลกลางรูปตัว T เสมือนการบรรจบกันของพื้นที่ราบและภูเขาสูง พร้อมฟังก์ชันควบคุมการขับขี่ที่ช่วยให้การปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ทั้ง 6 โหมดเป็นไปอย่างง่ายดาย ได้แก่ โหมดประหยัด โหมด WELL BEING โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดสปอร์ตพลัส และโหมดส่วนบุคคล ใส่ใจทุกรายละเอียดด้วยวัสดุสีเงิน ดำ และน้ำตาล (Silver, Black, Brown) ลำโพง Infinity คุณภาพสูง 11 ตัว ที่พร้อมมอบความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบร่วมกับระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระ และระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ ฟังก์ชันไฟตกแต่งห้องโดยสารแบบหลากสีและเป็นจังหวะ เพื่อสร้างบรรยากาศภายในให้เพลิดเพลิน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อม PM2.5 filter และช่องวางสำหรับระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายที่อยู่ข้างที่วางแก้วน้ำ แต่ถ้ามือถือขนาดใหญ่มาก ๆ อาจจะวางได้ไม่สนิทนัก
เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า ระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ และเบาะหนังพร้อมผิวสัมผัสแบบปุ่มเหมือนคีย์เปียโนที่ช่วยโอบอุ้มร่างกายของทั้งผู้ขับและผู้โดยสารให้ได้รับสะดวกสบายและความอบอุ่นอย่างเต็มที่ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง มีระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat เพิ่มความสะดวกในการขึ้น-ลงรถ เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับแบบไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 มีที่พักแขนตอนกลาง และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมช่องเสียบ USB A และ USB C บริเวณแผงคอนโซลกลางที่สามารถใส่ของใช้ส่วนตัว พร้อมกับที่วางแก้วน้ำ!
หน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ซึ่งรองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth, ระบบนำทาง, และแสดงข้อมูลการขับขี่ โดยหน้าจอกลางอัจฉริยะนี้สามารถเชื่อมต่อกับหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า (Head-up display) พวงมาลัยปรับแบบไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและสวิตช์ควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ เกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic Shifter ชุดเกียร์ไฟฟ้าด้านหลังพวงมาลัย และระบบ Intelligent Quick Start System ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้พร้อมออกเดินทางได้ทันทีเมื่อขึ้นมานั่งที่เบาะคนขับและเหยียบเบรก
ความแข็งแกร่งไว้อย่างเต็มเปี่ยมด้วยการใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงสูงถึง 77.6% ของส่วนประกอบทั้งหมด ได้แก่ เหล็กที่มีความแข็งแรงสูง 30.6% เหล็กที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษ 29.4% และเหล็กขึ้นรูปร้อน 17.6% โดยการใช้งานโครงสร้างของเหล็กขึ้นรูปร้อนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับพื้นที่ส่วนสำคัญของยานพาหนะ เช่น เสา A เสา B ธรณีประตู คานด้านบน ช่องตรงกลาง และแผงหลังคา โดยในพื้นที่สำคัญเหล่านี้ เหล็กขึ้นรูปร้อนขั้นสูง 2000MPa จะถูกนำมาใช้สำหรับเสา A และ B ซึ่งภายในของเสา B จะรวมเอาวัสดุคอมโพสิตที่เสริมด้วยไฟเบอร์เข้าไว้ด้วยกัน โครงสร้างของ
ORA 07 รับน้ำหนักได้ถึง 9.5 ตัน ช่วยให้ผู้ใช้งานทุกคนรูสึกมั่นใจในความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพการโค้งงอที่ยอดเยี่ยม พร้อมปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารจากการกระแทกจากด้านหน้า ด้านข้าง และหลังคาแข็งแรงชัวร์!
ORA 07 มาพร้อมกับ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น
LONG RANGE 1,299,000 บาทและรุ่น
PERFORMANCE 1,499,000 บาท โดยมีเฉดสีรถภายนอกทั้งหมด 3 เฉดสี ได้แก่ สีขาว สีเทา และสีพิเศษ ม่วง (เฉพาะรุ่น PERFORMANCE) และเฉดสีรถภายในทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีน้ำตาล (เฉพาะสีเทาและสีม่วงในรุ่น PERFORMANCE) เตรียมพบ ORA 07 ได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์
www.gwm.co.th แอปพลิเคชัน GWM และช่องทางโซเชียลมีเดีย
Facebook, YouTube และ
TikTok ของ GWM Thailand และ GWM ORA Thailand