All new Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่) รุ่นท็อปสุด RS ราคา 1.799 ล้านบาท รถยนต์ซีดานสุดพรีเมี่ยมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ทุกรุ่นย่อย เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC ผสานมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัวในระบบเกียร์ E-CVT กำลังรวมสูงสุดทั้งระบบ 207 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25 กม./ลิตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 96 กรัม/กิโลเมตร และมั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อยพร้อมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) กว่า 1 กม. และเพิ่ม Charge Mode ครั้งแรก ในแอคคอร์ด
- Full Hybrid ทุกรุ่นย่อย
- Google built-in
- Head-up Display: HUD
- อัตราส้นเปลือง 25 กม./ลิตร
- เพิ่ม Charge Mode
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง
- Honda SENSING ทุกรุ่นย่อย
- ไม่มีเตือนมุมอับด้านข้าง BSM
- ภาพจากกล้องรอบคันและHonda LaneWatch
ยังไม่ชัด - รุ่น RS มีของตกแต่งน้อย
- พนักพิงเบาะหลังตั้งชัน
- ฝาท้ายไม่มีระบบไฟฟ้า
- ไม่มีรุ่น 1.5 เทอร์โบให้แต่งแล้ว

ภายนอกและภายในสวยสไตล์ยุโรป






- ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า กับปุ่ม Experience Selection Dial ที่สามารถหมุนเพื่อเลือกและบันทึกฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถปรับเลือกระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง และไฟสร้างบรรยากาศภายในรถยนต์ได้ ซึ่งจะแสดงผลบนระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสกับประสบการณ์การควบคุมได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งสามารถตั้งค่าผู้ใช้งานได้จำนวนสูงสุดถึง 8 ผู้ใช้งาน
- ใหม่ ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) ที่ได้รับการติดตั้งใน ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ เป็นครั้งแรก (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS) โดยสามารถเลือกโหมดการเปลี่ยนสีของไฟได้ ดังนี้ โหมด Recommended Color ไฟจะสามารถปรับเปลี่ยนสีได้โดยอัตโนมัติตามชุดสีที่เลือก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โหมด Theme Color ผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับไฟสีที่ต้องการได้ โดยมีสีให้เลือก 10 เฉดสี
- ใหม่ ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย
- ใหม่ เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- ใหม่ ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card (รุ่น e:HEV RS)
- ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง
- ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ
- ปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- ม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลัง
- อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)













e:HEV RS ออปชั่นเต็มคัน

- โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น กับสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้าและด้านท้าย
- ใหม่ หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา เปิดมุมมองที่กว้างขวาง ยกระดับสุนทรียภาพในการเดินทาง
- ใหม่ ไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ LED Sequential
- ไฟส่องมือจับเปิดประตูด้านนอก
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ สีดำแบบสปอร์ต
- ช่องระบายอากาศด้านข้างสีเงิน เสริมความ Contrast และพรีเมียมยิ่งขึ้น
- เสาอากาศครีบฉลามสีดำแบบสปอร์ต
- สปอยเลอร์หลังสีดำแบบสปอร์ต
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เสริมความสปอร์ตหรูด้วยสีดำแบบแมตต
- ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมเบาะหนังตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และชุดตกแต่งภายในสีเงิน Metallic ลาย 3 มิติ และสีดำ Piano Black








ระบบ Full Hybrid ทุกรุ่นย่อยแรงและประหยัด 25 กม./ลิตร








Honda SENSING มาเต็มมีกล้องรอบคันแล้ว

- ใหม่ ครั้งแรกใน แอคคอร์ด กับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
- ใหม่ ครั้งแรกใน แอคคอร์ด กับ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) โดยระบบยังสามารถปรับลักษณะการเร่งความเร็วได้ตามโหมด ACC ที่เลือก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกใน แอคคอร์ด ใหม่
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- สวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้า โดยมีการเพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรกใน แอคคอร์ด ซึ่งเป็นโหมดที่จะชาร์จแบตเตอรี่ ในขณะที่รถวิ่งด้วยน้ำมัน โดยการวิ่ง 1 นาทีที่ความเร็ว 100 กม./ชม. จะสามารถชาร์จไฟเพิ่ม เพื่อสามารถขับเคลื่อนด้วยระบบ EV เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มแรงขับเคลื่อนของ EV ในช่วงความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. ซึ่งเหมาะแก่การวิ่งในย่านชุมชน เพื่อยืดระยะของการวิ่งด้วย EV ให้ยาวนานขึ้น
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
- ใหม่ ระบบเพิ่มความเสถียรและความคล่องตัวในการขับขี่ (Motion Management System: MMS)
- ถุงลม 8 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างคู่หน้า ม่านถุงลมด้านข้าง และ ใหม่ ถุงลมหัวเข่าคู่หน้า
- เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
- ใหม่ ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า และ ใหม่ ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหลัง
- ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC) และ ใหม่ รุ่น e:HEV RS มาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับเสียงรบกวนจากพื้นถนน (Road noise ANC)
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
เทคโนโลยีเชื่อมต่ออันล้ำสมัย Google built-in

ใหม่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
- ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ขนาด 11.5 นิ้ว (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ซึ่งเป็นจอแบบ Full Graphic LCD ที่สามารถแสดงผลทั้งการทำงานของเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ข้อมูลการขับขี่ และข้อมูลต่าง ๆ ของตัวรถ ในรูปแบบของกราฟิกขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังสามารถแสดงผลการทำงานของ Maps ได้เต็มหน้าจออีกด้วย ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย แม้จะมีการทำงานของระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ก็ไม่รบกวนการนำทางบนหน้าจอ
2. Car Log ข้อมูลการขับขี่จะประกอบด้วยพฤติกรรมการขับขี่ ที่สามารถแสดงผลเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี และ บันทึกการเดินทาง ที่สามารถเลือกทริปโปรด และแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ เป็นต้น
3. Wi-Fi สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ โดยจะใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง
5 อุปกรณ์ มีระยะการส่งสัญญาณห่างจากตัวรถยนต์อยู่ที่ 40 เมตร โดยต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ด้วยการช่วยเหลือจากฟีเจอร์ Google built-in (Google Assistant, Google Maps และ Google Play)
*ลูกค้าสามารถสมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเครือข่าย (เอไอเอส) โดยลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
4. Airbag Deployment เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทำงาน กล่องอุปกรณ์ TCU จะส่งสัญญาณเตือนให้ทราบทันทีผ่านทางแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้าเพื่อทำการติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรฉุกเฉินที่ลูกค้าผู้ใช้งานระบุไว้ในระบบ เพื่อทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น
5. Car Status แจ้งเตือนสถานะรถยนต์ เมื่อเกิดความผิดปกติจากระบบของรถยนต์ และ แจ้งเตือนสัญญาณกันขโมย เมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก เช่น การเปิดประตู กระโปรงหน้า และฝากระโปรงท้ายของรถยนต์อย่างผิดปกติ
6. Remote Vehicle Control สามารถสั่งการล็อก และปลดล็อกประตูทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถสั่งสตาร์ตเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ และสั่งการดับเครื่องยนต์
ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งเปิดสัญญาณไฟ ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย และ ใหม่ สามารถสั่งการเปิดเสียงแตรรถยนต์ โดยผู้ใช้งานจะต้องกำหนดรหัสส่วนตัวเป็นตัวเลข 4 หลัก (PIN) และจะต้องป้อนรหัสส่วนตัวทุกครั้งก่อนการใช้งาน
7. Geo Fence & Speed Alert สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ และยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็วตามกำหนดได้อีกด้วย
8. Find My Car สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์ โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุด แสดงผล
บนแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก (PIN) ก่อนการใช้งาน
9. ใหม่ Light Collision Notification การแจ้งเตือนการชนเบา/ไม่รุนแรง ช่วยแจ้งเตือนและให้ความช่วยเหลือผู้ขับขี่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
10. ใหม่ Navigation Data Wipe การล้างข้อมูลการนำทาง โดยสามารถล้างข้อมูลส่วนตัวที่ถูกบันทึกไว้ในรถ เช่น ข้อมูลเสียง ข้อมูลระบบนำทาง หรือ รีเซ็ตการตั้งค่าให้กลับไปเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน
11. ใหม่ Recall notification การแจ้งเตือนและเรียกคืนผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาคุณภาพจากลูกค้า
12. ใหม่ Remote Immobilizer ระบบกุญแจนิรภัย IMMOBILIZER พร้อมสัญญาณกันขโมย ช่วยป้องกันรถถูกโจรกรรม และในกรณีที่รถถูกโจรกรรม สามารถระงับการสตาร์ตเครื่องยนต์และการเคลื่อนที่ของรถผ่านทางแอปพลิเคชันได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน
13. ใหม่ Digital Key กุญแจอัจฉริยะ ช่วยอำนวยความสะดวกให้สามารถสั่งการต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Honda CONNECT บนสมาร์ตโฟนได้ เช่น ใช้สมาร์ตโฟนเป็นเสมือนกุญแจรถ โดยลูกค้าสามารถสั่งงานปลดล็อกประตูหรือสตาร์ตเครื่องยนต์ผ่านฟีเจอร์นี้ได้ แจ้งเตือนลูกค้าในกรณีลืมล็อกประตูและกำลังเดินออกห่างจากตัวรถ เป็นต้น
สรุปความแตกต่างของ 3 รุ่นย่อย

- ไฟส่องมือจับประตูด้านนอก
- หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
- ไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ LED Sequential
- ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card
- ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (ACL)
- ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง
- มาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับเสียงรบกวนจากพื้นถนน (Road noise ANC)
รุ่น e:HEV EL

- Head-up Display: HUD
- ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC)
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS)
- เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด
- กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง
- ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- ปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า
- ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster
- ใหม่ ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้
- ล้ออัลลอย 18 นิ้ว
รุ่น e:HEV E

- ถุงลม 8 ตำแหน่งในทุกรุ่นย่อย
- ลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง
- หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ช่องเชื่อมต่อ USB type C 4 ตำแหน่ง อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
- ล้ออัลลอย 17 นิ้ว
- สีขาวแพลทินัม (มุก)
- สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)
- สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
- สีดำคริสตัล (มุก)
- พร้อมภายในสีดำ และสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
เสริมความมั่นใจในการใช้งานยิ่งขึ้น ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน และทีมงานที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ด้าน e:HEV (e:HEV Expert) จากเครือข่ายศูนย์บริการฮอนด้าที่ได้มาตรฐานและครบวงจรครอบคลุมทั่วประเทศ ดูรายละเอียด Honda Accord Hybrid

