ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

New Toyota Fortuner GRsport แต่งเท่เต็มคันอับพลัง 224 ม้า ช่วงล่างเฟิร์มขับมันขึ้นเยอะ

icon 28 ส.ค. 66 icon 8,848
New Toyota Fortuner GRsport แต่งเท่เต็มคันอับพลัง 224 ม้า ช่วงล่างเฟิร์มขับมันขึ้นเยอะ
Toyota Fortuner GRsport (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จีอาร์สปอร์ต) ปี 2023 รถอเนกประสงค์ มาพร้อมการตกแต่งรอบคันสไตล์ GRsport ที่ยังเน้นว่า.... ไม่ใช่แค่ใส่ชุดแต่งแล้วก็มาเพิ่มราคาเท่านั้น แต่คราวนี้เพิ่มกำลังขึ้นและระบบช่วงล่างให้เฟิร์มมากขึ้นอีกจากรุ่นก่อนหน้านี้ เพื่อรองรับ 224 ม้าแรงบิด 550 นิวตันเมตร อย่างชิว ๆ ถูกใจคนเท้าหนักแน่นอนครับ มาดูว่า Toyota Fortuner GRsport ราคา 1,939,000 บาท และFortuner อีก 2 รุ่น LEADER กับ LEGENDER มีอะไรเพิ่มเติมขึ้นมาบ้างมาชมกันครับ
 
ในการทดสอบ New Toyota Furtuner 2023 รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่ ขับจริงหลังเปิดตัวก่อนหน้านี้ กับ 3 รุ่นย่อยทั้ง LEADER , LEGENDER และ GRsport บนเส้นทางกรุงเทพ - ระยอง พร้อมเข้าศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติชลบุรี รวมระยะทางประมาณ 400 กม. 
 
Toyota Fortuner ใหม่ เพิ่มอุปกรณ์ให้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น โดยมีเครื่องยนต์สมรรถนะเท่าเดิมให้เลือกคือ 2.4 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร และ 2.8 ลิตร 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร แต่มีการเพิ่มเติมออปชั่นจากเดิมอีกเล็กน้อยให้พอทันสมัยบ้างได้แก่   
 
LEADER  2.4
Wireless charger (เว้นรุ่น G)
ระบบแจ้งเตือนลมยาง
จอบันเทิง 9 นิ้ว

LEGENDER 2.4/2.8 
มาพร้อม Toyota Safety Sense เต็มระบบทั้ง เตือนออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับ เบรกฉุกเฉิน ควบคุมความเร็วแบบแปรผัน ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ เป็นต้น 
เพิ่มจอสัมผัสรองรับระบบ AppleCarPlay/AndroidAuto แบบ Wireless 
แถมด้วยปรับปรุงระบบช่วงล่างหน้าหลัง ให้ดูดซับแรงสะเทือนและเพิ่มความนุ่มนวลขึ้น 
 
GR SPORT
ชุดตกแต่ง GR sport 
ภายนอก
  • กระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่ เพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นไม่เน้นหรูหรา พร้อมสัญลักษณ์ GR
  • กันชนหน้าพร้อมชุดตกแต่งสีดำเงาดุดัน ถ้าเป็นรถทรงเตี้ยน่าจะเกือยเป็นรถแข่งได้เลยนะครับ
  • มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ จากรุ่นปกติเป็นโครเมี่ยม
  • สปอยเลอร์หลังดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ต อันนี้สวยขึ้นและดูขลังมีพลังมากขึ้นครับ
  • ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว สีดำพิเศษเฉพาะรุ่น GR Sport แต่ยังเป็นลายเดิม 
ภายใน
  • ภายในดีไซน์สปอร์ตโทนสีดำสลับแดง ให้ความรู้สึกแบบรถแข่ง คงไว้ซึ่งความหรูหราไว้อย่างลงตัวเบาะนั่ง Suede แบบเจาะรู และหนังสังเคราะห์เดินด้ายตกแต่งสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ GR แผงคอนโซลหน้าตกแต่งด้วยแถบสี Smoke silver พร้อมบุหนังสังเคราะห์สีดำเดินด้ายแดง 
  • ช่องปรับอากาศด้านหน้าตกแต่งด้วยแถบสี Smoke silver และโครเมียม
  • แผงข้างประตู สีดำบุหนังสังเคราะห์พร้อมตกแต่งด้วยแถบสี Smoke silver
  • พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ Soft Touch แบบเจาะรู พร้อมตกแต่ง Center mark สีแดง และเดินด้ายสีแดง/ สี Smoke silver และสัญลักษณ์ GR
  • หัวเกียร์หุ้มหนัง พร้อมตกแต่งด้วยแถบสี Smoke silver น่าจะให้สัญลักษณ์ GR บนหัวเกียร์มาด้วย 
  • ฐานเกียร์ลาย Carbon Fiber พร้อมตกแต่งด้วยแถบสี Smoke silver
  • กล่องเก็บของหุ้มหนังสังเคราะห์ เดินด้ายตกแต่งสีแดง
  • แป้นคันเร่งและเบรคแบบสปอร์ต
  • พรมรองพื้นห้องโดยสารดีไซน์เฉพาะรุ่น GR Sport
  • กุญแจรีโมท Smart key ดีไซน์พิเศษเฉพาะรุ่น GR Sport และสตาร์ทอัจฉริยะพร้อมสัญลักษณ์ GR
นอกจากนี้ก็เปลี่ยนมาใช้ช่อง USB แบบ Type C 2 แต่คนที่มีสายรุ่นเก่าแบบเดิม (เช่นผู้ทดสอบ) ก็ไม่ต้องเสียใจสามารถใช้งานช่อง USB บนหน้าจอวิทยุได้อยู่ครับ และสามารถเชื่อมต่อ Apple CarPlay/Android Auto ได้ง่ายมาก มีข้อแม้ว่ารถต้องจอดสนิทและใส่เกียร์ "P" ก่อนเพื่อความปลอดภัยนะครับ 

GRsport ใหม่ เพิ่มพลัง 224  แรงม้า ช่วงล่างดีอับเกรดอีก

เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.8 ลิตร กำลังสูงสุด 224 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร พร้อมกับ 3 โหมดการขับขี่ Eco/Narmal/Sport เกียร์ 6 จังหวะ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระแบบปีกนกคู่ (Double Wishbone Suspension) และระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบโฟร์ลิงค์ พร้อมคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง โดยใน GRsport เลือกใช้โช้คแอพซอพเบอร์ใหม่แบบโมโนทูบ (Monotube Shock Absorber) ที่หนึบหนืดเกาะและไม่กระด้างเกินไป ส่วนระบบเบรกหน้า-หลังแบบดิสก์เบรกมีครีบระบายความร้อน พร้อมคาลิปเปอร์สีแดงและสัญลักษณ์ GR 
 
นอกจากนี้ทั้งตัวคอยล์สปริงคู่หน้า ที่แข็งขึ้นจากการปรับค่าความให้รับกับกำลังที่เพิ่มขึ้น และโช้คอับทั้ง 4 ตัว ที่ออกแบบและปรับค่าความหนืดใหม่หมด โดยใช้ขนาดแกนประมาณ 32 มม. ซึ่งฝ่ายเทคโนโยโยต้าบอกว่า เลขนับเบอร์อะไหล่ก็คนละตัวกับใน GRsport รุ่นก่อนหน้านี้อีกด้วย แต่ก็สามารถเบิกมาใส่ด้วยกันได้ครับ 
 
และอีกจุดที่ถูกปรับปรุงเพิ่มนั่นคือ ระบบ EBD ปรับแรงดันน้ำมันเบรกที่ ปั้มน้ำมันในเต็มระบบเบรกตลอดเวลา จึงทำให้ระบบเบรกทำงานรวดเร็วและยัง เบาเท้าใช้น้ำหนักน้อย แต่รถก็เบรกได้ดีมากขึ้น แบบฟิลลิ่งรถยุโรปอีกด้วย  

สมรรถนะ แรงดึงมันทุกย่านความเร็ว+ช่วงหนึบมั่นใจกว่า

ในทริปนี้ของเล่าถึงตัวแรง GR SPORT ในการลงแทร็ก โดยในการทดสอบในสนามทดสอบยานยนต์และยางล้อ ในทริปนี้จะขอเล่าถึงรุ่น GR sport พระเอกของงานนี้ ที่อับพลังใหม่แรงขึ้น ด้วยการขับขี่ใน 3 สถานีทดสอบ
สถานีที่ 1 ทดสอบระบบควบคุมการทรงตัว TRC ทั้งแบบปิดและเปิดระบบเพื่อสัมผัสถึงความแตกต่าง บนผิวถนนเปียกลื่น
โดยเมื่อปิดเมื่อเริ่มออกตัวล้อหลังหมุนฟรี และรถมีอาการทัายปัดไปมา แม่จะพยายามแก้ก็คุมยาก และเมื่อเปิดระบบอาการล้อหมุนฟรีก็ลดน้อยจนเกือบไม่มี และควบคุมรถได้ง่ายชึ้น แต่ก็ยังไม่อาการท้ายปัดบ้างเล็กน้อย ซึ่งระบบยังช่วยให้ควบคุมทิศทางรถได้ดีกว่าปิดระบบ 
 
รอบถัดไปปรับระบบ 4WD Zigma4 และปิดระบบ TRC เมื่อเริ่มออกตัวรถสามารถเคลื่อนออกไปได้โดยแทบไม่มีอาการท้ายปัด เนื่องจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ช่วยให้รถทรงตัวได้ระบดับหนึ่งแต่ก็ยังออกตัวไปได้ช้าเพาระล้อฟรีทิ้งตลอด เมื่อเปิด TRC รถสามารถเคลื่อนออกไปได้ดีขึ้น นิ่งไม่มีอาการปัด และล้อแทบไม่ฟรีทิ้งเลย
 
สถานีที่ 2 ความคล่องตัว
จุดนี้ทดสอบการออกตัว เข้าโค้งแคบและกว้าง ขับไปตามไพบ่อนที่วางไว้ลักษณะหักเลี้ยงไปมา กับฝนตกถนนเปียกลื่น จุดนี้สามารถควบคุมรถได้ดั่งใจ แม้จะใช้ความเร็ว และการควบคุมทิศทางพวงมาลัยก็ได้ถือว่าไม่ยากนัก แต่ยังมีระยะฟรีของพวงมาลัยบ้างเล็กน้อย แต่ช่วงล่างที่หนึบและยางหน้ากว้างทำให้เข้าโค้งได้ง่ายและสบาย ๆ แม้เสียงยางรถจะร้องดังลั่นแต่ก็ขับผ่านได้ตามทิศทาง ถือว่าระบบควบคุมการทรงตัวทำงานได้ดีน่าพอใจครับ
 
สถานนีที่ 3 อัตราเร่งและเลยเชนจ์
เป็นการเร่งออกตัวถึงความเร็ว 100 กม./ชม. และลดความเร็วลงที่ 80 กม./ชม. ปล่อยไหลพร้อมหักหลบไพล่อนลักษณะ "moose test" หรือ หักหลบอย่างกะทันหัน ด้วยช่วงล่างที่ติดตั้งแบบ monotube นับว่าควบคุมรถได้ง่ายดาย พวงมาลัยมีอาการหน่วง ๆ และตัวรถก็ยังมีการโตลงบ้างแต่ก็ยังทรงตัวได้ดีไม่มีอาการปัดไปมา 
 
ส่วนอัตราเร่งแบบคิกดาวน์แรงสะใจ ให้อารมณ์กระชากเบา ๆ ตอนเปลี่ยนเกียร์เหมือนรถเกียร์ธรรมดา แต่เมื่อลองค่อย ๆ ไล่เพิ่มคันเร่งแบบช้ากลับให้ความนุ่มนวลมากกว่า และยังให้อัตราเร่งไม่แตกต่างแถมอาจช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย เรียกว่าแรงบิด 550 นิวตันเมตร ทำให้มีกำลังตั้งแต่รอบต่ำประมาณ 1,600 - 2,800 รอบต่อนาทีขึ้นไป ทำให้ไม่จำเป็นต้องกดคันเร่งเยอะก็เร่งได้ทันใจแล้วครับ
 
ระบบเบรกนุ่มเท้า ใช้แรงน้อยก็ลดความเร็วลงได้อย่างง่ายดาย โดยรวมนิ่งและเนียนมากกว่ารุ่นธรรมดามาก ๆ จากการปรับตั้งระบบปรับแรงดันน้ำมันให้เต็มระบบตลอดเวลามากขึ้นกว่าเดิม กำให้เบรกเบาเท้า ใช้แรงน้อย และเอาอยู่สบาย ๆ เลยครับ 
 

LEADER และ LEGENDER ต่างที่ความแรง นอกนั้นต่างกันเล็กน้อย

สำหรับอีก 2 รุ่น มีความแตกต่างในเรื่องของขุมพลัง 2.4 และ 2.8 ลิตร กับระบบขับ 2 และ 4 ล้อ แต่ถ้า คือ 
LEADER  จะออกสุภาพนุ่มนวล อัตราเร่งเพียงพอ ขึ้นนุ่ม ๆ ไม่กระชาก และระบบช่วงล่างเน้นการเดินทางแบบสบาย ๆ ทำให้เมื่อใช้ความเร็วสูง ๆ และเปลี่ยนเลนหรือเข้าโค้งมีอาการโยนและยวบมากหน่อย แต่เรื่องอัตราสิ้นเปลืองนั้น เคยทำได้ระหว่างทริปสูงสุดที่ 15.5 กม./ลิตร        
 
LEGENDER ได้ความแรงแบบจัดจ้านมากขึ้น เร่งทันใจ และช่วงล่างจะเฟิร์มขึ้นกว่าเล็กน้อย เน้นทั้งขับแบบชิว ๆ และต้องการความหนึบ วิ่งความเร็วต่ำมาอาการกระเด้งมากกว่า แต่ไมถึงกับดีดนัก ยังให้ความนุ่มนวลผสมกันได้อยู่ ส่วนการเข้าโค้งก็ให้ความมั่นใจกว่า สำหรับอัตราสิ้นเปลืองนั้นไม่ประหยัดเท่า LEADER แต่ก็ถือว่าไม่สูงนักราว ๆ 11 - 12 กม./ลิตร 
 

สรุปความคุ้มค่า Fortuner GRsport

Toyota Fortuner GRsport มาดสปอร์ตใหม่ชุดแต่งพิเศษไม่เหมือนใคร ภายในอารมณ์สปอร์ตเต็มคราบ สิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมี่ยมและเพิ่มเติมความปลอดภัยมากขึ้นอีกขั้น ความแรงระดับ 204 ม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมช่วงล่างแบบสปอร์ต นับว่าอยู่จุดบนสุดแล้วสำหรับรถอเนกประสงค์ PPV/SUV ในไทย
 
 
new Toyota Fortuner GRsport กับขุมพลังที่เพิ่มกล้ามโตขึ้น นับว่ามากที่สุดในรถระดับเดียวกันในไทยแล้ว หรือว่า "แรงสุด" ฉุดไม่อยู่พร้อมเป็น "ตัวตึงเต็งหนึ่ง" อีกยาว ๆ กับช่วงล่างปรับปรุงใหม่อีกรอบ และระบบเบรกที่เอาอยู่แน่ ๆ นอกจากคนขับจะเบรกไม่ทัน.......
 
แต่กระนั้น ฟอร์จูนเนอร์ใหม่นี้ยังมีอีกหลายอย่างที่ขาดหายไปอย่างเช่น ระบบเบรกมือไฟฟ้ากับโฮลดเบรก ที่น่าจะติดตั้งมาให้ แต่ก็ยังมีหลายคนถนัดกับการใช้เบรกมือแบบดึงอยู่ ส่วนของระบบพวงมาลัยหากเป็นผ่อนแรงไฟฟ้าน่าจะช่วยให้ขับในเมืองสะดวกมากขึ้น เบาะแถวที่สามปรับให้พับแบนราบไปเลยก็จะเข้าท่ามากขึ้น รวมถึงจุดวางของกระจุกกระจิกยังน้อยไป เมื่อวางแก้วน้ำเต็มแล้วจุดวางโทรศัพท์ก็จะหายไปด้วย แต่ทว่าทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้เป็นจุดที่ทำให้ตัดสินใจซื้อฟอร์จูนคุกกี้น้อยลงแต่อย่างได้ครับ แลกกับความทนทานและแรงขึ้น ช่วงล่างที่ปรับหนึบขึ้น และยิ่งรุ่นพิเศษแบบนี้ราคา 1,939,000 บาท (หลังคาดำเพิ่ม 20,000 บาท) สำหรับผู้ที่สนใจอาจจะตัดสินใจซื้อโดยไม่ต้องคิดมากเลยล่ะครับ
แท็กที่เกี่ยวข้อง Toyoto Fortuner GR
CAR GURU
เขียนโดย สินธนุ จำปีศรี CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)