ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

ขับรถแบบไหน? ที่ประกัน (อาจ) ไม่รับเคลม

icon 12 ก.ค. 66 icon 691
ขับรถแบบไหน? ที่ประกัน (อาจ) ไม่รับเคลม
เมื่อตัดสินใจซื้อรถยนต์สักรุ่นกับทางผู้แทนจำหน่าย ก็มักจะมีรายการของแถมเสนอให้มาไม่ว่าจะเป็น ฟิล์มกรองแสง, แพ็คเกจบริการหลังการขาย (ตามแต่เงื่อนไขของรถยนต์แต่ละยี่ห้อ), อุปกรณ์เสริมหรืออุปกรณ์ตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน, ส่วนลดเพิ่มเติมหรือข้อเสนอพิเศษอื่นๆ, บัตรน้ำมัน ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การแถมประกันภัยรถยนต์มาให้ด้วยนั่นเอง 
การที่ผู้แทนจำหน่ายแถมประกันภัยรถยนต์ในขณะซื้อรถยนต์ใหม่สักคัน จริงๆ ถือว่าเป็นประโยชน์ที่ผู้ซื้อได้รับ เนื่องจากประกันภัยรถยนต์เป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะ
  1. เป็นการคุ้มครองความเสี่ยง: ประกันภัยรถยนต์นั้นจะช่วยคุ้มครองคุณจากความเสียหายและความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณจาก อุบัติเหตุ(การชน), การโดนโจรกรรม, ภัยธรรมชาติ ฯลฯ
  2. ความรับผิดชอบต่อสาธารณะ: การมีประกันภัยรถยนต์นั้นไม่เพียงช่วยเจ้าของรถเองเท่านั้นแตยังครอบคลุมความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือบุคคลของบุคคลที่ 3 ที่เกิดจากการอุบัติเหตุที่คุณเป็นต้นเหตุ
  3. การคุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสาร: ประกันภัยรถยนต์บางประเภทนั้นจะคุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถยนต์ของคุณต่อการบาดเจ็บหรือการเสียชีวิตในการอุบัติเหตุ
แต่การได้แถมประกันภัยรถยนต์มาใช่ว่ารถคันนั้นจะได้รับความคุ้มครอง เพราะรถบางคันก็อาจจะถูกปฏิเสธความคุ้มครอง ซึ่งเงื่อนไขก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัทประกันภัย แต่โดยส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในหัวข้อเหล่านี้ที่จะทำให้ประกันภัยอาจไม่รับเคลม
  1. การขับขี่รถในสภาพไม่ปกติ: ในความหมายนี้ไม่ใช่ว่ารถไม่ปกติแต่เป็นผู้ขับที่ไม่มีความพร้อม เช่น ใช้สารเสพติด, แอลกอฮอล์ ไปจนถึงการขับขี่โดยที่ไม่มีใบขับขี่ ก็อาจจะทำให้การเคลมประกันนั้นของคุณอาจถูกปฎิเสธ
  2. การใช้รถที่ละเว้นการบำรุงรักษา: ถ้ารถยนต์คันนั้นที่เกิดอุบัติเหตุ แล้วมีการสืบค้นได้ว่ารถยนต์ขาดการบำรุงรักษาตามที่คู่มือของผู้ผลิตแนะนำ หรือละเว้นการซ่อมบำรุงที่จำเป็น อาจเป็นสาเหตุให้ประกันอาจไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้น
  3. การใช้งานในสถาณการณ์ที่ไม่ปกติ: เช่น การนำไปไปใช้ในการแข่งขัน หรือขับขี่ในเส้นทางที่ไม่ได้รับการรับรอง, การขนส่งวัตถุที่อันตราย ฯลฯ อาจทำให้การเคลมประกันถูกปฏิเสธ
  4. การขับขี่โดยใช้ความเสี่ยง: การใช้รถในสภาวะที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การขับรถยนต์ในทางธรรมชาติที่มีความเสี่ยง อาทิ การขึ้นเขา, การเข้าป่า หรือ เส้นทางธรรมชาติที่ดูมีอันตราย นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่บริษัทประกันอาจไม่รับเคลม
  5. การใช้งานไม่ตามวัตถุประสงค์: การใช้รถยนต์ของคุณ (คันที่จะเคลมประกัน) เกิดไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ระบุในกรมธรรม์ประกันภัย ก็จะทำให้สิทธิ์ในการเคลมของรถยนต์คันนั้นอาจถูกปฏิเสธ เช่น การนำรถยนต์ส่วนบุคคลไปใช้เพื่อการขนส่งหรือการให้เช่า เป็นต้น
ด้านบนเป็นข้อมูลของการใช้งานรถยนต์แบบไหนที่บริษัทประกัน (อาจ) ไม่รับเคลม แต่หลังจากนี้จะเป็นการขับรถแบบไหน? ที่ประกัน (อาจ) ไม่รับเคลม บางคนคิดว่าในเมื่อรถยนต์ก็ทำประกันชั้น 1 ไว้แล้ว ก็ต้องได้รับความคุ้มครองสิเพราะ เราได้ชำระค่าเบี้ยไปแล้ว ก็ควรได้รับความคุ้มครองในทุกกรณีสิ แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้าคุณขับรถแบบนี้ก็อาจจะไม่ได้รับความคุ้มครองเช่นกัน
  1. ขับขี่โดยประมาท: การขับขี่โดยเอาไปแข่งกันตามถนนหลวง, ขับขี่เร็วเกินที่กฎหมายกำหนด
  2. ขับขี่โดยไม่มีใบบอนุญาตขับขี่: โดยใบอนุญาตขับขี่นั้นเป็นเอกสารที่กรมการขนส่งทางบกออกให้ โดยแบ่งเป็น ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล, ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อส่วนบุคคล, บอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ ฯลฯ นั่นทำให้การที่คุณมีใบขับขี่ประเภทนึงแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถขับขี่รถยนต์ได้ทุกประเภท อาทิ ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล แต่ดันไปขับรถอีกประเภทที่ใบขับขี่นั้นไม่ครอบคลุมก็จะถือว่าขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาต จะทำให้ถูกตัดสิทธิ์ประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น
  3. ขับขี่โดยใช้รถผิดประเภท: เช่นการนำรถไปลากจูงรถคันอื่นจนเกิดความเสียหาย หรือใช้รถผิดประเภทจากที่จดทะเบียนไว้ 
  4. ขับแต่ไม่ดูแล: พวกเอาแต่ใช้แต่ไม่ดูแลส่วนต่างๆ อาทิ น้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์ ก็อาจจะทำให้สารหล่อลื่นต่างๆ เสื่อมสภาพจนเป็นสาเหตุให้เกิดความเสียหายจนถึงอุบัติเหตุ
  5. ขับไปเคลมไป: ถ้าคุณเป็นคนที่เคลมบ่อยโดยเป็นฝ่ายผิด และมีค่าเสียหายมากเกินกำหนด บริษัทประกันก็อาจจะลดชั้นประกัน ไปจนถึงยกเลิกประกันเลยก็เป็นได้
  6. ขับออกนอกเขตคุ้มครอง: ก็คือการนำรถออกไปต่างประเทศโดยไม่ได้แจ้งกับทางบริษัทประกันภัยไว้ก่อนเดินทาง ถ้าคุณมีเหตุจำเป็นก็ควรแจ้งไว้สักนิดหรือซื้อประกันแยกไปเลยก็ได้ เช่น ประกันภัยการเดินทางระหว่างประเทศสำหรับรถยนต์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อคุ้มครองต่อความเสียหายขณะที่ขับขี่ในประเทศอื่น หรือคุ้มครองคุณต่อความรับผิดในการอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับบุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นที่อาจเกิดขึ้นขณะที่คุณขับขี่รถยนต์ของคุณในประเทศอื่น
  7. ขับห่วยไม่ว่าแต่ดันหัวหมอ: เมื่อเกิดอุบัติเหตุ แล้วบริษัทประกันทำการตรวจสอบแล้วเห็รว่าผู้เอาประกันนั้นจงใจสร้างสถานการณ์ทำลายทรัพย์สินตัวเอง เพื่อหาประโยชน์จากประกันภัย ก็อาจเป็นเหตุให้จะไม่ได้รับความคุ้มครองในส่วนนี้
สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันว่า ประกันภัยรถยนต์ ไว้ไม่ว่าจะประเภทไหนก็ตาม แต่ถ้าคุณทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็จะทำให้บริษัทประกัน (อาจ) ไม่ให้ความคุ้มครองไปจนถึงยกเลิกกรมธรรม์ของรถคุณไปเลยก็ได้ แต่ถึงอย่างไรก็ดีการที่รถยนต์ของคุณมีประกันภัยคุ้มครองไว้ก็ยังอุ่นใจกว่า มีไว้ไม่ได้ใช้ดีกว่า ถึงเวลาที่จะใช้แล้วไม่มี จริงมั้ยล่ะครับ
แท็กที่เกี่ยวข้อง ประกันภัยรถยนต์
CAR GURU
เขียนโดย เช็คราคา.คอม CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)