ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

ลองพลังมอเตอร์ 170 ม้า NEW MG4 ELECTRIC แฮตช์แบ็กขับหลังตัวแรงช่วงล่าง 5-Link

icon 20 มิ.ย. 66 icon 8,382
ลองพลังมอเตอร์ 170 ม้า NEW MG4 ELECTRIC แฮตช์แบ็กขับหลังตัวแรงช่วงล่าง 5-Link
NEW MG4 ELECTRIC รถแฮทช์แบ็ค 5 ประตูขนาดกลางพลังงานไฟฟ้า 100% นวัตกรรม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ระบบความปลอดภัย ADVANCED SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor ขนาด 170 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลังได้ฟิวลิ่งยุโรปแท้ แบตเตอรี่เทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY ขนาดความจุ 51 kWh สามารถวิ่งในระยะทาง 425 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC 
 

เทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่บางเล็กแต่จุเยอะ 

เทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY ขนาดความจุ 51 kWh มาตรฐานความปลอดภัย IP67 จัดเรียงเซลล์แบบแนวนอนและระบายความร้อนด้วยระบบ Liquid Cooling system สามารถวิ่งในระยะทางไกลสูงถึง 425 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) และช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ในขณะชะลอรถ ด้วยระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับ ต่ำ กลาง สูง และ แบบแปรผันตามการขับขี่ (ADAPTIVE) เพื่อให้เข้ากับการขับขี่ในทุกรูปแบบ ผสมผสานกับการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตรที่ 50:50 พร้อมตัวถังมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ (LOW CENTRE OF GRAVITY) สอดคล้องกับช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังอิสระแบบ 5-Link Suspension 
 
รองรับการชาร์จไฟฟ้า AC Type 2 และ DC ในแบบ Quick Charge DC สูงสุด 88 kW 
AC 6.6 kW 0 - 100% ในเวลา 8.5 ชม.
DC 88 kW 10 - 80% ในเวลา 35 นาที 
 
ภายนอกล้อ 17 นิ้วพร้อมฝาครอบ!
NEW MG4 ELECTRIC เกิดมาแบบตั้งใจทำเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจึงมีรูปลักษณ์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ทำมาเพื่อให้ประหยัดพลังงาน คุ้มค่า และเน้นเรื่องความปลอดภัยมากที่สุด 
•    ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS 
•    ไฟเลี้ยว LED ที่ช่องดักลมในกันชนหน้า (รุ่น X) / ไฟเลี้ยวหลอดธรรมดาในโคมเดียวกับไฟหน้า (รุ่น D) 
•    ไฟท้าย LED ลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT (รุ่น X) 
•    หลังคาแบบทูโทน พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING 
•    ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว พร้อม AERO WHEEL COVER 
•    มิติตัวถัง 4,287 x 1,836 x 1,516 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
•    ระยะความยาวฐานล้อ 2,705 มิลลิเมตร
•    ระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มิลลิเมตร
 
ภายในห้องโดยสารเรียบหรูดูสปอร์ตใช้งานง่ายที่วางของเยอะมาพร้อมฟังก์ชั่นใช้งานเพียบ
 
•    คอนโซลกลาง FLOATED CENTRAL CONTROL PLATFORM พร้อมอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless charger) 
•    พวงมาลัย ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ - วางสายโทรศัพท์
•    กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ
•    หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen แบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ลำโพง 6 จุด
•    ช่องจ่ายไฟ Power Outlet 12V
•    รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ สมาร์ทโฟนระบบ Android 
•    พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE A และ C 
•    ระบบกรองอากาศ PM2.5
•    เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง 
•    เบาะนั่งด้านหลังพนักพิง ปรับ 60:40 
•    โหมด Intelligent Smart Access เมื่อผู้ขับขี่อยู่ในตำแหน่งคนขับ เพียงเหยียบเบรกระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ
 
เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางทุกรุ่นย่อย แบ่งออกเพียงรุ่น "X" จะมีสีทูโทน ส่วนกระจกไฟฟ้าขึ้น-ลงอัตโนมัติทั้ง 4 บาน และในรุ่น "D" ลงอัตโนมัติทั้ง 4 บานแต่ฝั่งคนขับมีขึ้น-ลงครบ ระบบแอร์อัตโนมัติแต่ไม่มีช่องแอร์ตอนหลัง เบาะหลังพับได้ 60 : 40 เรียบเกือบแบนราบเป็นเส้นตรง สิ่งที่อาจขัดใจอยู่คือ ช่วงเพดานหรือพื้นที่บนศรีษะด้านผู้ดดยสารหลังจะเตี้ยและอาจดูอึดอัด แต่ยังดีตัวของเบาะนั่งใหญ่นั่งสบาย ส่วนพื้นที่วางขานั้นไม่ใหญ่ไม่เล็กอยู่ในระดับใกล้เคียงกับใน MG3
 
NEW MG 4 ELECTRIC D

ความปลอดภัย 26 ระบบนับว่าครบคุ้มครอบคลุมที่สุดในเซกเมนต์นี้ 

NEW MG 4 ELECTRIC มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) และ Advanced Synchronized Protection System 26 ระบบได้แก่
•    ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
•    ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
•    ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) 
•    ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
•    ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
•    ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) 
•    ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist)
•    ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
•    ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) 
•    ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
•    ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK* (Emergency Lane Keeping System)  โดยผสานรวมระบบ LDP* (Lane Departure Prevention) LKA (Lane Keep Assist) และ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เข้าไว้ด้วยกัน 
•    ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
•    ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
•    ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA* (Lane Change Assist)
•    ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD* (Blind Spot Detection)
•    ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA* (Rear Cross Traffic Alert)
•    ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW* (Rear Collision Warning)
•    ระบบช่วยเบรกขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Braking) 
•    ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
•    ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
•    ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW* (Door Open Warning)
 
พร้อมกับเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ* (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME) และระบบ i-SMART* 
(*หมายเหตุ ยกเว้นรุ่น "D")  
 
NEW MG4 ELECTRIC มาพร้อม 2 รุ่นย่อย ได้แก่
รุ่น NEW MG4 ELECTRIC D ราคา 869,000 บาท
รุ่น NEW MG4 ELECTRIC X ราคา 969,000 บาท
 
โดยมีสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี คือ สีฟ้า (Brighton Blue) สีดำ (Black Knight) สีแดง (Scarlet Red) สีเทา (Andes Grey) และสีขาว (Arctic White) ตกแต่งภายในด้วยสีดำ (Black) ในรุ่น D และสไตล์ทูโทนเทา-ดำ (Grey & Black) ในรุ่น X 
 
 
ทีมงานเช็คราคาได้ร่วมขับทดสอบ NEW MG4 ELECTRIC ที่เอ็มจี ปะรเทศไทยจัดขึ้นในสนามปิด ณ ปทุมธานีสปีดเวย์ ที่สามารถสัมผัสถึงความแรง การควบคุม และระบบความปลอดภัยของ NEW MG4 ELECTRIC ได้อย่างครบถ้วน ที่เหลือเพียงแค่การขับบนถนนจริงเท่านั้น 
 
 
การทดสอบแบ่งเป็น 3 รูปแบบหลักคือ การเข้าโค้งต่าง ๆ ทั้งแบบแคบและหักศอกในความเร็วกว่า 60 กม./ชม. (นับว่าเร็วกว่าปกติในการทดสอบขับขี่ในสนามนี้) ต่อเนื่องด้วยทาวโค้งกว้างสามารถทำความเร็วเกิน 80 กม./ชม. ซึ่งก็ยังนับว่าความเร็วเกินกว่าระดับปกติที่ใช้ทดสอบทั่วไปอยู่ดี และสุดท้ายนับเป็นสเตชั่นที่สนุกที่สุดอีกอันคือ การเปลี่ยนเลนกระทันหัน (Lane Change) ที่มีใช้หักหลบต่อเนื่องถึง 2 จุดด้วยกัน ถือว่ารูปแบบและความเร็วที่ใช้นั้นสนุกมันและเร้าใจกว่าที่เคยทดสอบจากในสนามนี้พอสมควรครับ
 

NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM+ 

NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM โครงสร้าง "เนบิวลา"ออกแบบเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ และยิ่งใน NEW MG 4 ELECTRIC ที่ควบคุมได้ดั่งใจ และให้ความสนุกในการขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อล้อหลังที่ห่างหายไปนานในรถระดับนี้ และยิ่งเป็นพลังมอเตอร์ไฟฟ้าแบบไม่รอรอบพร้อมที่จะปั่นล้อให้พุ่งไปข้างหน้า ยิ่งทำให้ MG 4 ELECTRIC กลายเป็นรถที่ขับสนุกที่สุด ส่วนตัวมองว่าแม้อัตราเร่งจะไม่ได้แรงมากมายนักเหมือนรถไฟฟ้าหรู แต่การตอบสนองของทั้งคันเร่ง เบรก พวงมาลัย ช่วงล่างที่ลงตัว เหมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน คือหักเลี้ยวเป็นเลี้ยว เข้าดค้งแคบในความสูงก็สามารถไปได้อย่างสบาย
 
 

เติมคันเร่งในโค้ง "เอาอยู่" ไม่หลุด 

 
ในช่วงทดสอบขับเข้าทางโค้งทั้งแคบและกว้างในความเร็วราว ๆ 70 กม./ชม.เกินที่กำหนดให้ลองในสนามนี้คือ 60 กม./ชม. แต่อินสตักเตอร์บอกว่าเกินได้นิดหน่อยเพราะรถเอาอยู่ เมื่อได้ขับในสนามสามารถให้เลือกว่าจะเปิดใช้ระบบควบคุมการทรงตัว (TCS-Traction Control System) หรือปิดก็ได้ แต่เมื่อทีมงานเช็คราคาได้ลองขับหาสวิตช์ปิดไม่เจอและต้องขับวนตามไลน์สนามเรียงกันไปตามคิวจึงขับต่อเนื่องโดยไม่ได้ปิดระบบนี้ แต่ว่าในขณะเข้าแต่ละโค้งนั้น กดคันเร่งเกือบสุดตลอด ผลคือ "เอาอยู่" แบบชิว ๆ เลยครับ ไม่ว่าจะหักพวงมาลัยหมุนหรือเติมคันเร่งไปมากแค่ไหนระบบควบคุมต่าง ๆ ก็ช่วยให้รถสามารถทรงตัวและขับต่อได้แบบเฉย ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกินขึ้นครับ นับว่าระบบความปลอดภัยดีตามที่เป็นจุดเด่นของรถยนต์ MG ทุกรุ่นรวมถึง NEW MG 4 ELECTRIC คันนี้ด้วย 
 
 
มาถึงส่วนทางโค้งยาวของสนามนี้ที่กำหนดความเร็วไว้ที่ 80 กม./ชม. แต่ MG 4 สามารถเติมคันเร่งเพิ่มขึ้นไปเกือบถึง 90 กม./ชม. โดยที่มีเพียงเสียงยางที่ดังแต่ตัวรถมีอาการไถลออกน้อยมาก ระบบควบคุมการทรงตัวที่ทำงานร่วมกันระหว่างกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบเบรก พวงมาลัย สามารถทำให้รถขับผ่านไปได้แบบสบายเลยครับ
 

ย้ำ "พวงมาลัย DUAL PINION ช่วงล่างหลัง 5-Link กระจายน้ำหนัก 50:50 และ RWD" เค้าดีจริง!

 
NEW MG 4 ELECTRIC ถูกออกแบบมาเป็น EV CAR แท้ ๆ จึงทำให้แบบเตอร์รี่วางต่ำ และขนาดบาง 110 มม.ระบบพวงมาลัย DUAL PINION ที่เพิ่มการควบคุมล้อหน้าให้แม่นยำและกระชับขึ้น การกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ที่บาลานซ์ด้านหน้าและหลังจากการจัดวางแบตฯ และมอเตอร์ไฟฟ้าบนชุดเพลาล้อหลังและขับเคลื่อนล้อหลัง เสริมด้วยช่วงล่างอิสระ 4 ล้อหลังเป็นแบบ 5-Link อีกด้วย เทคโนโลยีเยอะขนาดนี้ ขับดีจริงไหม?
 
การขับในสนามครั้งนี้ถูกจัดวางรูปแบบให้ได้ซัดหรือจะเรียกว่าถลุง MG 4 ก็ว่าได้ครับ เพราะพี่ ๆ สื่อหลายคนอัดกันเสียงยางดังลั่นสนามแบบร้องขอชีวิตเลยครับ เรียกว่าใส่กันยับเหมือนเอารถมาให้ขยี้จำหน่ำใจกว่า 20 นาที แบบฟรีสไตล์ โดยหนึ่งในสถานีขับที่ชอบมากคือ "Lane Change" การเปลี่ยนเลนอย่างกระทันหันเป็นการจำลองการหักหลบ "moose test" เหมือนในต่างประเทศนั่นแหละครับ 
 
ในการทดสอบเข้า Lane Change ในสนามนี้วางรูปแบบเอาไว้ให้หักหลบถึง 2 ครั้งติดต่อกัน และกำหนดให้ความเร็วไม่เกิน 50 - 60 กม./ชม. แต่เมื่อขับจริงบางที่ก็เลยบ้าง เมื่อความเร็วแล้วปล่อยไหลเข้าไปโดยไม่ต้องเบรกและหักพวงมาลัยทางซ้ายอย่างเมามันตามช่องไพล่อนและดึงกลับขวาทันที รถค่อนข้างนิ่งและตอบสนองได้รวดเร็วมาก หลังจากนั้นก็ปล่อยความเร็วให้ไหลพร้อมหักขวาต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ โดยในจุดนี้บางรอบก็เติมคันเร่งเพิ่มไปด้วยให้ "มันยิ่งขึ้น" และหักหลบต่อเนื่องไปทางซ้ายและหักกลับขวาทันทีอีกหนึ่งรอบ ซึ่งยอมรับว่าช่วงล่าง+ระบบควบคุมการทรงตัว+พวงมาลัย+ผู้ขับ รวมกันเป็นหนึ่งเดียว แทบไม่มีอาการหน้าดื้อท้ายปัด และยังหักเลี้ยวได้ตามช่องทางกำหนดได้อย่างคล่องเคล่ว ง่าย ๆ แค่ถึงจุดเลี้ยวก็ ซ้าย-ขวา-ซ้าย ไม่ให้ชนไพล่อน เป็นอันจบ 
 
การลอง Lane Change แบบ 2 สเตปนี้นับว่าได้ลองระบบความปลอดภัยได้เต็ม ๆ เหมือนกับในสถานการณ์จริง ที่ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องทักษะขับรถมานัก ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Advanced Synchronized Protection System 26 ของ  NEW MG 4 ELECTRIC 
 

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เท่าไหร่ไม่สำคัญเท่าระบบเบรกจาก Continental (มาได้ไง?)

 
สำหรับช่วงทดสอบอัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. ไม่สามารถบอกตัวเลขจากการขับจริงได้เพราะไม่มีเครื่องมือและทาง MG เองไม่ได้เน้นเรื่องนี้มากนัก โดยคาดว่าจะได้ราว ๆ 7 - 8 วินาทีครับ ซึ่งเอารู้สึกนั้นไม่ถึงกับดึงหน้าหงาย ไปแบบนุ่ม ๆ เรียบ ๆ ไม่หวืดหวานัก แต่ความเร็วก็พุ่งขึ้นไปที่ 100 กม./ชม. ไม่นานนัก ซึ่งระยะจากจุดออกตัวถึงป้ายบอก 100 กม./ ชม. และกำหนดให้ทดลอง "กระทืบเบรก" แบบสุดตัว รถไม่มีอาการซะบัดหรือส่ายไปมาและไม่มีเสียงยางร้องดังมากนัก นับว่าระยะเบรกดีไม่ยาวเกินไปนัก ซึ่งเป็นผลจากทาง MG 4 คันนี้ได้ร่วมกับบริษัทยางคอนติเนนทัล พัฒนาผ้าเบรกเพื่อใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า MG 4 รุ่นนี้และออกแบบให้เหมาะสมกับยาง Continental รุ่น PremiumContact C ที่ติดรถมาให้อีกด้วย นับว่าปลอดภัยในทุกมิติจริง ๆ ครับ
 

สรุปการทดลองในสนาม NEW MG 4 ELECTRIC เกาะหนึบและปลอดภัยสุดในรถระดับนี้

 
NEW MG 4 ELECTRIC รถยนต์ซี-เซกเมนต์ แบบคอมแพ็ก 5 ประตู ที่นอกจากจะได้เรื่องความประหยัดด้วยการใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อนแล้ว สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ ระบบความปลอดภัยที่ถือว่าดีกว่ารถยนต์ทั่วไปในหลาย ๆ รุ่น และอาจจะเทียบเท่าได้กับรถยนต์ระดับ ดี-เซ็กเมนต์ สิ่งอำนวยความสะดวกสบายก็ไม่น้อยหน้าให้มาอีกเพียบ และระยะทางใช้งานจริง ๆ ตาดว่าจะอยู่ช่วง 320 - 350 กม. ต่อชาร์จ ซึ่งนับว่าเกินพอในการใช้งานในเมืองแบบสบาย ๆ อีกด้วย และยังมีระบบ i-SMART อาวุธประจำการของรถยนต์ MG ที่ทันสมัยเช่นเดิม สำหรับราคา+สมรรถนะ+ความปลอดภัยระดับนี้น่าจะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปเพื่อได้เทคโนโลยีกลับมาจอดในโรงรถของคุณครับ   
 
แท็กที่เกี่ยวข้อง MG4 New MG4 Electric
CAR GURU
เขียนโดย สินธนุ จำปีศรี CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)