ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

รีวิว new Subaru Forester Eyesight4.0 SUV ตัวตึงทางเรียบทางลุยมีอะไรเปลี่ยนบ้าง?

icon 4 ม.ค. 67 icon 4,215
รีวิว new Subaru Forester Eyesight4.0 SUV ตัวตึงทางเรียบทางลุยมีอะไรเปลี่ยนบ้าง?
new Subaru Forester รถอเนกประสงค์พลังเบนซินสูบนอน 2.0 ลิตร CVT ขับเคลื่อ 4 ล้อ Symmetrical All-Wheel Drive อับเกรดระบบ Eyesight4.0 ที่มีระบบความปลอดภัยเกือบครบเทียบเท่าใน Outback แถมติดตั้งมาให้ทุกรุ่นย่อยคือ 2.0i-L และ 2.0i-S แล้วในรุ่นใหม่นี้มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างนอกจากหน้าตาดุดันขึ้น ทีมงานเช็คราคาได้ร่วมลองทดสอบระบบทั้งในทางเรียบและทางฝุ่น ซึ่งนับเป็นครั้งที่มีการไถ่ที่ดินข้าง ๆ สนามปทุมธานีสปีดเวย์แห่งเพื่อให้เจ้าป่าลุยโดยเฉพาะ!
 
 

ลอง ADAS - Eyesight4.0 ใหม่แตกต่างตรงไหน?

 
เริ่มต้นการทดสอบเน้นเรื่องระบบความปลอดภัยที่อับเกรดจากเดิม Eyesight3.0 เป็น 4.0 กับอีก 9 ระบบและ 3 ระบบใหม่ ซึ่งปรับปรุงรายละเอียดมากมายนั่นคือ
  1. กล้องคู่หน้าแปะแนบกับกระจกหน้าที่มีมุมที่กว้างขึ้นทั้งแนวนอนและแนวตั้ง และตรวจจับได้ระยะไกลขึ้นจากเดิม 110 เมตร เป็น 130 เมตร แม่นยำกว่าจากเดิมที่ติดลอยบนเพดาน 
  2. เพิ่มระบบควบคุมพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลนหรือดึงกลับเมื่อออกนอกเลนเมื่อใช้งาน ACC หรือ อเดปทีฟครุซคอนโทรลจากเดิมไม่มี   
  3. X-MODE ใหม่ มีโหมดย่อยให้เลือก Snow/Dirt และ Deep Snow/Mud ที่เพิ่มความละเอียดในการทำงานมากขึ้น และมีโหมด Special เพียงเปิดลุย "X-MODE" ระบบก็จะเตรียมพร้อม Stand by ทำงานตลอดไม่ว่าจะขับผ่านทาง Off-Road แล้วขับบนทางเรียบ หากขับผ่านเส้นทางแบบ Off-Road อีกรอบที่ความต่ำกว่า 35 - 40 กม./ชม. ระบบจะเปิดใช้งานอัตโนมัติ (เว้นรุ่น 2.0i-L ที่ต้องเปิด-ปิดเอง) 
  4. Hill Descent Control ใน X-MODE ช่วยชะลอหรือควบคุมความเร็วขณะลงทางชันแบบเดียวกับในรถ Off-Road  
  5. รุ่น 2.0i-S ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ลายใหม่ ส่วนรุ่น 2.0i-L ขนาด 17 นิ้วลายเดิมจากรุ่นก่อนหน้า   
  6. มี 3 สีใหม่ Brilliant Bronze Metallic / Cascade Green Silica / Magnetite Gray Metallic  
  7. ภายนอกชุดไฟหน้า กันชนหน้า ใหม่ จอกลางใหญ่ขึ้นเป็น 8 นิ้ว
  8. ขอเกี่ยวสัมภาระที่เพดานส่วนท้าย 
 

3 ระบบใหม่ใน Eyesight4.0 มีอะไรบ้าง?

 
ระบบที่เพิ่มเติมจาก Eyesight เดิมมี 3 ระบบด้วยกันได้แก่ 
1.Autonomous Emergency Steering ระบบบังคับพวงมาลัยฉุกเฉินอัตโนมัติ ช่วยหักหลบรถหรือวัตถุด้านหน้าเลี่ยงการชน ที่ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.
2.Adaptive Cruise Control (ACC) with Lane Centering Function ควบคุมความเร็วตามคันหน้าจนถึงจุดหยุดนิ่งและไปต่อได้ และเพิ่มระบบตรวจจับเส้นขอบทางและควบคุมทิศทางรถให้อยู่กลางเลนพร้อมยังช่วยเลี้ยวโค้งในกรณีที่เป็นโค้งกว้าง ๆ และตรวจจับและเลี้ยวตามรถคันในกรณีไม่มีเส้นถนน 
3.Lane Departure Warning include Lane Departure Prevention สั้น ๆ คือ เตือนรถออกนอกเลนพร้อมดึงกลับที่ 60 กม./ชม.ขึ้นไปนั่นล่ะฮ่ะท่านผู้ชม 
 

สมรรถนะดีเช่นเคยทั้งทางเรียบและลุย

 
การทดสอบขับแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ ทดลองใช้ระบบ Eyesight ใหม่, ทดลองระบบควบคุมการทรงตัว และลุยทางโคลนแบบ Off-Raod ซึ่งต้องบอกก่อนครับว่าการลองระบบขับขี่ของ Eyesight4.0 นั้นอาจเห็นไม่ชัดเจนนักเพราะเป็นระยะทางสั้น ๆ ส่วนการขับสลาลอมและหักหลบนั้นยังพอสัมผัสได้ถึงความหนึบของช่วงล่างและระบบช่วยควบคุมในรถฟอร์เรสเตอร์ แต่ที่น่าสนใจคือการได้ลองลุยบนโคลนลื่น ๆ แบบออฟโร้ด ที่ต้องบอกว่า "ระบบเค้าดีจริงในรถระดับนี้และอาจลุยได้สะดวกกว่ารถ PPVด้วยซ้ำไปครับ"
 

ลองระบบหักหลบวัตถุอัตโนมัติ..เกือบไป!

 
หนึ่งในการทดลองระบบ Eyesight นั้นคือ การขับตรง ๆ พุ่งใส่หุ่นเป่าลมความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม.เพื่อลองระบบหักหลบวัตถุอัติโนมัติ ในช่วงรอบแรก ๆ ที่อินทรักเตอร์ขับสาธิตนั้น สามารถหลบได้จริง ๆ ครับ โดยระบบเบรก พวงมาลัยและระบบควบคุมการทรงตัว ทำงานได้อย่างดีและรถไม่มีอาการไถล 
 
ส่วนในรอบหลัง ๆ ระบบเกิดอาการตรวจจับวัตถุไม่ได้ เนื่องจากมีลมแรงทำให้หุ่นเป่าลมเอนไปมา และหากระบบนี้ทำงานเกิน 3 ครั้ง รถจะเตือนว่าควรจอดและต้องดับสตาร์ทเครื่องใหม่เพื่อรีเซต เมื่อถึงคราวที่ทีมงานเช็คราคาลองขับ ระบบจึงเอ๋อ ๆ ไม่หับหลบให้ แต่ระบบเบรกก่อนชนด้านหน้าทำงาน และเมื่อหักพวงมาลัยหลบด้วยตัวเอง ก็มีระบบควบคุมการทรงตัวช่วยเอาไว้อีก จึงทำให้รถไม่เสียอาการมากนัก อย่างน้อยก็ยังมีความปลอดภัยให้อยู่ครับ
 
นอกจากนี้ยังมีทดลองระบบ Eyesight อีก 2 - 3 ระบบ เช่น ควบคุมความแปรผันตามคันหน้าพร้อมบังคับทิศทางอัตโนมัติ แม้ว่าจะมีไม่เส้นขอบถนนแต่ระบบก็จับตามรถคันหน้าและเลี้ยวตามได้ แต่มีข้อจำกัดคือ ต้องเป็นโค้งกว้าง ๆ หากมีการเลี้ยวมาก ๆ กล้องก็จับไม่เจอ ซึ่งตรงนี้ผู้ขับขี่ต้องเป็นผู้ควบคุมทั้งหมดอยู่แล้ว ระบบนี้ทำมาเพื่อป้องกันกรณีหลับใน เหมอลอย เม้ามอย หรือก้นหยิบของ ยังอย่างคนขับต้องมีสมาฺะในการควบคุมรถตลอด 100% ด้วยครับ ต่อมาลองขับระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมดึงกลับซึ่งไม่ค่อยว้าวเท่าไหร่ เพราะรถหลาย ๆ ค่ายในระดับนี้ก็มีกันเกือบหมดแล้ว
 

การทรงตัวดีเหมือนเคย

 
โซนทดสอบต่อมาเป็นการลอง การควบคุมรถ พวงมาลัย การทรงตัวในสลาลอมที่ความเร็ว 45 กม./ชม. และการหักหลบแบบ "Moose test" ที่ความเร็ว 45 - 50 กม.ชม. (บางรอบเกินไป 60 กม./ชม.) โดยให้สื่อขับ 2 รอบ แต่หากเวลาเหลือสามารถเบิ้ลได้ส่วนผมเองจัดไป 4 รอบเลยครับ 
 
 
ในการสลามลอมหลบไพล่อน แน่นอนว่าเคยได้ทดสอบขับรุ่นก่อนหน้านี้มาหลายเจนฯ แล้ว ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Symmetrical เค้าดีจริง บวกกับเครื่องนอนยันวางต่ำเกือบติดพื้น แม้ว่าตัวรถจะดูโปร่งโย่งสูงกว่าชาวบ้านแต่กลับมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้การทรงตัวดี การบังคับพวงมาลัยนับว่ากระชับแม่นยำและเบามือ ขับง่าย โดยที่ไม่ต้องมีทักษะใด ๆ ก็สามารถลองขับขี่ในรูปแบบนี้ได้อย่างสบายเลยครับ
 
"Moose test"
"หักหลบน้องกวาง" หรือการเปลี่ยนเลนอย่างกระทันหันนิ่งมากโยกพวงมาลัยให้ไปตามช่องทางเท่านั้นไม่ต้องแก้อาการใด ๆ รถจะช่วยควบคุมและทำให้ขับต่อไปได้แบบง่าย ๆ เลยครับ นี่คือ ข้อดีของการมีระบบควบคุมการทรงในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ในหลาย ๆ รุ่น แต่ในฟอร์เรสเตอร์เพิ่มระบบ AWD เข้ามาช่วยเสริมอีกก็ยิ่งปลอดภัยขึ้นครับ
 
Off-Road ของชอบเลย
โดยทั่วไปนั้นรถ SUV ระดับนี้ที่มีระบบ AWD ที่อาจจะเผื่อเอาไว้ว่าในการเดินทางอาจพบเจอเส้นทางที่เป็นอุปสรรคหรือทางลูกรัง ดินโคลน ทราย ฝนตกถนนเปียกลื่น โดยเฉพาะในการโค้งหรือขึ้น-ลงทางชัน หากมีระบบ AWD ก็จะช่วยให้ขับขี่ได้อย่างราบรื่นปลอดภัย แต่ถ้าหากว่าในการท่องเที่ยวบางเส้นทางต้องการจะ "ลุยทางออฟโร้ด" หรือจำเป็นต้องผ่านเส้นทางดินโคลน หิน หรือร่องที่ลึกมาก ๆ บางครั้งก็เกิดข้อจำกัดในการลุยได้ หากใต้ท้องหรือระบบการกระจายกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ไม่แม่นยำพอหรือทำงานไม่ฉับไวก็อาจทำให้ไปต่อไม่ได้หรืออาจจะต้องใช้รถคันอื่นช่วยดึง
 
 
ในโซนการลุยนั้น อาจเป็นอุปกสรรคที่ดูไม่ยากนักเพราะจำลองให้ได้สัมผัสความรู้ของการปรับกำลังและแปรผันของล้อทั้ง 4 ให้ขับผ่านอุปสรรคไปได้ ความจริงแล้วจากสนามจำลองนี้ก็นับว่ารถที่มีระบบ AWD ผ่านได้หมดครับไม่แปลกอะไร แต่สิ่งที่ Forester ใหม่ ทำให้ประทับใจคือ การตอบสนองของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ การควบคุมพวลมาลัย ระบบช่วงล่างและกำลังเครื่องยนต์ที่ทำงานได้รวดเร็ว เงียบไม่สะดุด นุ่มนวล และไม่ยุ่งยากอีกด้วย 
 
 
เริ่มจากกดเปิดระบบ X-MODE ที่แป้นกลม ๆ คอนโซนกลางจากนั้นก็ลุยได้เลยครับ เส้นทางจะทำให้ขับสลาลอมหลบไพล่อนไปมาความเร็วไม่เกิน 35 กม./ชม. (หากเกินระบบ X-MODE จะตัดชั่วคราว) ซึ่งการบังคับพวงมาลัยนั้นง่าย ๆ เลี้ยวตามมือโดยแทบไม่มีอาการไถลเลย เหมือนขับบนทางดำปกติ เช่น ขับบนถนนเรียบอยู่แล้วผ่านทางแบบออฟโร้ดก็กดใช้งาน X-MODE ขับผ่านไปแล้วเจอถนนเรียบก็ไม่ต้องสนใจระบบจะตัดออกเองเมื่อความเร็วเกิน 35 กม./ชม. และเมื่อขับมาเจอถนนแบบออฟโร้ดอีกเมื่อความเร็วต่ำกว่า 35 กม./ชม. ระบบ X-MODE ก็จะทำงานให้ทันที่ไม่ต้องคอยกดเปิด-ปิดให้เสียสมาธิเลยครับ (มีเฉพาะรุ่น 2.0i-S) 
 
หลังจากนั้นก็ขับขึ้นแท่นจำลองเนินเอียงสลับที่พื้นผิวเป็นโครงเหล็กเปียก ๆ ก็ยิ่งลื่น และขับขึ้นไปจอดค้างเอาไว้ให้ล้อถูก "แขวน" หรือลอย 2 ล้อพร้อมกัน และเดินคันเร่งไปต่อ ระบบ X-MODE ก็ทำงานรวดเร็วและไปต่อได้โดยล้อแทบไม่หมุนฟรีเลยและทำงานได้เงียบมาก จนเหมือนขับทางเรียบปกติ นี่นับเป็นจุดที่แตกต่างกว่าระบบ AWD จากรุ่นอื่น ๆ หลาย ๆ รุ่นที่จะใช้เวลาในการ "หมุนฟรี" ก่อนล้อจึงจะถอยกำลังให้รถเคลื่อนตัวไปได้ครับ 
 
ในช่วงทางที่เป็นดินโคลนแฉะและเละมาก การคุมทิศทางจะยากขึ้น เมื่อขับผ่านตรงจุดนี้ แน่นอนว่ายังมีอาการไถลไปตามร่องของโคลนอยู่ แต่เมื่อเดินคันเร่งและบังคับทิศทางพวงมาลัย รถก็พยายามเคลื่อนที่ไปตามทิศทางได้อยางไม่ยากนัก และระบบก็ทำงานได้เงียบมาก นอกจากนี้เมื่อขับผ่านหลุมบ่อและร่องลึก ๆ ช่วงล่างกลับไม่เด้ง และไม่เขย่าตัวผู้โดยสารนับว่ายังให้ความสบายได้ระดับหนึ่งเมื่อต้องลุยป่า 
 

สรุปความคุ้มค่า Subaru Forester Eyesight4.0 ซื้อดีไหม?

 
ถ้าคุณชอบการเดินทางทั้งเดี่ยว คู่หรือกับครอบครัวที่มีผู้ใหญ่ รถคันนี้ให้ความโปร่งโล่งสบาย ไม่สูงมากนักขึ้นลงสะดวก หรือว่ามีกิจกรรม Extreme ขับลุยป่าเขาทางโหดแบบ Off-Road สามารถไปได้ทุกทุกที่ถ้าไม่ติดใต้ท้องรถ แต่เมื่อขับทางเรียบก็ยังต้องการความสบายหรูหรา ปลอดภัย ขับแล้วไม่เหนื่อยหรือเมื่อยล้า และยังดูภูมิฐานจบในคันเดียว new Forester น่าจะตอบสนองการใช้งานได้ครบมากที่สุด โดยในวันที่ทดสอบนั้นยังไม่เปิดราคา...รอเปิดเผยในงานมอเตอร์เอ็กซ์โบ 2022 ช่วง 1 - 12 ธ.ค.2022  
 
Subaru Forester 2.0i-L Eyesight ราคา 1,550,000 บาท
Subaru Forester 2.0i-S Eyesight ราคา. 1,450,000 บาท 
(เป็นราคามโนล้วน ๆ ครับ) 
แท็กที่เกี่ยวข้อง subaru forester Subaru Forester Eyesight4.0
CAR GURU
เขียนโดย สินธนุ จำปีศรี CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)