Suzuki Swift รถประหยัด เที่ยวประหยัดแบบอีโค่ 20 กม./ลิตร!

ในตอนนี้ประเทศไทยเข้าสู่ยุคน้ำมันแพง ข้าวของขึ้นราคาอย่างโหด แม้แต่จะเดินทางไปทำงาน ทำธุระหรือท่องเที่ยวก็มีแต่ค่าเดินทางที่แพงขึ้น รถสาธารณะก็ไม่ได้รับความสะดวกสบายเท่าที่ควร หลายคนจำเป็นจะต้องหารถยนต์ราคาเบา ๆ ประหยัดน้ำมัน ดูแลง่ายไม่จุกจิกไม่ต้องมีเทคโนโลยีอัจฉริยะมากนักจะได้ไม่ต้องระแวงว่าจะต้องเรียกรถสไลด์

หากต้องการรถที่ใช้งานง่าย ดูแลง่าย ขับขี่ง่ายคล่องตัว ประหยัดคงคันนี้เลย Suzuki Swift GLX (ซูซูกิ สวิฟต์) ที่เค้าปรับปรุงออปชั่นเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย อย่างเช่น หน้าจอความบันเทิงแบบสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบควบคุมความเร็วหรือ Cruise Control กับค่าตัว 632,000 บาท กับอัตราสิ้นเปลืองระดับ 20 กิโลเมตรต่อลิตร ที่ความเร็ว 100++!

Suzuki Swift 1.2 ลิตร (ซูซูกิ สวิฟต์) จึงเป็นตัวเลือกในการจะขับรถไปชิวเอ้าร้านดังแถวหาดวอนนภา บางแสนใกล้ ๆ กรุงเทพฯ ด้วยน้ำมันเต็มถังไป-กลับเหลืออีกเพียบ แม้สวิฟท์จะตัวเล็กแต่เมื่อขับอยู่ทางด่วนบูรพาวิธีที่ขึ้นชื่อว่า "ลมแรง" มาก แต่สวิฟท์ก็สามารถขับได้อย่างชิวด้วยความเร็วเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแบบไม่มีอาการร่อนแต่อย่างได้ เพียงแค่ต้องแกร็งมือในการควบคุมพวงมาลัยอยู่บ้าง

แม้บนทางด่วนจะขับความเร็วเฉลี่ยที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้สูงสุดอยู่ที่ 20.8 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ถ้าขับแบบเร่งแซงบ่อยหรือขับแบบทั่วไปจริง ๆ จะอยู่ราว 18 กิโลเมตรต่อลิตร และในขณะเดียวกับขับขี่ถนนทั่วไปมีรถติดสลับหยุดนิ่งบ้างจะตกลงมาที่ 17 กิโลเมตรต่อลิตร และมีระบบ IDLING-STOP ซึ่งก็นับว่าประหยัดอยู่พอสมควรเลยครับ

เคยจำได้ว่าบริเวณเขาสามมุกทีร้านอาหารสวยริมทะเล จึงแวะไปขอถ่ายรูปสวย ๆ ก่อนและเมื่อไปถึงร้านยังไม่เปิดเอาไงละทีนี้ งั้นก็ขอขับวนดูรอบ ๆ ซึ่งต้องบอกว่ามีการปรับภูมิทัศน์ใหม่สวยและเหมือนอยู่ต่างประเทศเลครับราวกับว่าขับรถเที่ยว "เกาะเจจู" (ขนาดนั้นเลย)

หลังจากอดกินกาแฟร้านนี้ก็ต้องขับรถไปร้าน "Nomisuke Matcha Cafe" ที่ตั้งใจจะไปฝากท้องกับเมนูราเมงอันหลากหลายกับปลาน้อย "Taiyaki" ในบรรยากาศญี่ปุ่ง ๆ แต่เมื่อมาถึงกลับมีนักท่องเที่ยวเยอะกว่าที่คิดทั้งที่เป็นวันธรรมดา จึงได้แต่ขับผ่านและเดินเฉี่ยวถ่ายรูปและน่าเสียดายที่ไม่ได้สั่งอะไรกินเลย แต่ก็ได้ภาพประกอบสวย ๆ กลับมาแบบ อีโค่ ๆ แทน แต่ถ้ามาบางแสนอีกครั้งหน้าจะไม่ผลาดแน่

ขับรถย้อนกลับมาเรื่อยเพื่อหาอาหารกลางวันกินก็ไปพบกับร้านก๋วยเต็ยวเรือแห่งหนึ่งใกล้ ๆ กัน ชื่อว่า "เตี๋ยวเรือ พรบ ณ มอบูรพา" เข้าให้ในใจคิดว่ามาทะเลจะกินเพื่อ! แต่สรุปแล้วทนหิวไม่ไหว เลยจัดไปชุดใหญ่ไฟกระพริบเลยครับ บอกเลยอร่อยประหยัดแบบอีโค่ (อีกแล้ว)

จบของคาวต้องปิดท้ายด้วยกาแฟ จึงวนหาร้านเก๋ ๆ มีสไตล์และถ่ายรูป (รถ) ได้ จึงมาสะดุดตากับร้าน "ARTORY cefe & crafts" ร้านสีขาวดูสะอาดตาตัดกับสวิฟต์สีแดงสดแถมมีที่จอดด้านหน้าให้ถ่ายรูปแบบสวย ๆ พร้อมกับเมนูที่ราคาไม่แพงเลยและแปลกน่าชิม นอกจากนี้ภายในร้านยังตกแต่งได้อย่างลงตัวอีกด้วย เหมาะกับคู่รักมาพักผ่อนก่อนลงเล่นน้ำทะเล 

ก่อนเดินทางกลับก็ต้องใช้ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ให้คุ้มด้วย Android Auto ถามอากู๋เพื่อหาทางกลับบ้านที่สะดวกรถไม่ติดและใกล้ที่สุด แม้ระบบนี้จะต่อง่ายแต่ก็มีบางครั้งที่จอชอบดับไปเฉย ๆ โดยเฉพาะเวลารับสายโทรศัพท์แล้ว จะมีการมึน ๆ งง ๆ เล็กน้อยก่อนหน้าจอจะกลับมาปกติอีกครั้ง พูดถึงหน้าจอเครื่องเสียงแล้วในสวิฟต์เองก็มีกล้องมองขณะถอยหลังมาให้ แต่เส้นกระยะไม่หักเลี้ยวตามพวงมาลัย แต่ก็ถือว่าใช้งานได้ดีมองเห็นชัดเจน

ความคุ้มค่าของ Suzuki Swift GLX (ซูซูกิ สวิฟต์) ใน "Eco Trip" ครั้งนี้เท่ด้วยไฟหน้าแบบ FULL - LED แถมปรับระดับได้ ไฟท้ายก็ LED มีครุซคอนโทรลแก้เมื่อยตอนขับยาว ๆ พวงมาลัยเบาเลี้ยวง่าย วงเลี้ยวแคบคล่องตัวไปได้ทุกตรอกซอกซอย เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ประหยัดน้ำมันแต่แรงจัดสั่งได้ไม่รอนาน น่าจะมีผลจากระบบ "หัวฉีดคู่" เมื่อเทียบกับรถในพอกัด 1.2 ลิตรไม่มีหอย จี๊ดจ็าดกว่าเยอะ และระบบไม่ซับซ้อนดูแลง่ายซ่อมไม่แพงไม่จุกจิก ช่วงล่างแน่นกระชับโครงสร้างแบบ "HEARTECT" แข็งแรงน้ำหนักเบา มั่นใจแม้จะความเร็วสูง ๆ เมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกันก็ไม่น้อยหน้าใคร

และเมื่อจบทริปไปกลับกรุงเทพฯ - บางแสนร่วมกว่า 300 กิโลเมตร น้ำมันเหลือใช้ขับในเมืองอีกเยอะเลย ซึ่งก่อนหน้านั้น 1 วันขับไปถ่ายรูปแถวสนามบินสุวรรณภูมิอีกด้วยและรวมระยะทางทั้งหมดกว่า 490 กิโลเมตร เหลือระยะทางวิ่งได้อีก 71 กิโลเมตร 

Suzuki Swift GLX มาพร้อมราคาที่ไม่สูงนัก 632,000 บาท เมื่อ หากมองภาพรวมแล้ว ราคานี้อาจจะได้เพื่อนต่าง ๆ ค่ายพิกัด 1.0 ลิตรเทอร์โบ แต่ก็เป็นรุ่นเริ่มต้นหรือรุ่นกลางที่ยังได้ออปชั่นไม่ครบ แต่ถ้ามองในรูปทรงความน่ารักและการที่จะนำไปตกแต่งในสไตล์ "เรซซิ่ง" หรือ" เรโทร" นับว่า "ซูซูกิ สวิฟท์" นั้น ได้เปรียบกว่าชาวบ้านหลายขุม เพราะความที่รูปทรงแฮชกแบ็ก 5 ประตู ขนาดพบพา และประกอบกับทางซูซูกิประเทศไทยและโชว์รูมอีกหลายแห่งจับมาเพิ่มเติมเสริมความแนวให้กับสวิฟท์จนกลายเป็นรถที่น่าซื้อมาใช้งาน และไม่แปลกใจที่ทำไมสวิฟท์จึงยังได้รับความนิยมต่อเนื่องไม่แพ้รถระดับเดียวกันจากค่ายอื่น ๆ เลยครับ