และ Flying Spur Hybrid อัครยนตรกรรมสปอร์ตซีดานแบบ 4 ประตู ที่ได้รับการขนานนามจากสื่อสายยานยนต์ชั้นนำว่าเป็น ยนตรกรรมสปอร์ตซีดานที่ดีที่สุดในโลก เป็นครั้งแรกในประเทศไทย สัมผัสประสบการณ์ใหม่ภายใต้แนวคิด The Future of Luxury Mobility, the Sustainable Journeys จากแผนแม่แบบ BEYOND100 กลยุทธ์ที่ว่าด้วยเส้นทางสู่ผู้ผลิตอัครยนตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนขององค์กรจาก เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประเทศอังกฤษ
BMW
BMW M440i xDrive Coupe รถสปอร์ตรุ่นท็อปของตระกูลซีรีส์ 4 คูเป้ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่แนวตั้งขนาดใหญ่ ที่ช่วยตอบโจทย์ด้านการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ประกบด้วยไฟหน้าเทคโนโลยี BMW Laserlight ที่ติดตั้งระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติมาด้วย ส่วนหน้าต่างทั้งสองข้าง เสริมความเนี้ยบด้วยกรอบดำวาวสะดุดตาจากชุดแต่ง BMW Individual high-gloss Shadow Line เข้ากับเส้นสายด้านข้างที่สะท้อนถึงสมรรถนะและความคล่องตัว เช่นเดียวกับอุปกรณ์เสริมสไตล์ M ที่จัดมาให้ครบชุด ไม่ว่าจะเป็นชุดแต่ง M Aerodynamics, สปอยเลอร์แบบ M, ล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้วในแบบ Double-spoke และเบรก M Sport พร้อมคาลิเปอร์สีแดงแบบ high-gloss
ด้านสมรรถนะมอบพลังแบบเต็มพิกัดจากเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบขนาด 2,998 ซีซี พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ส่งพละกำลังสูงสุดถึง 387 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ทำงานควบคู่กับระบบเกียร์ 8 จังหวะแบบ Steptronic Sport เพื่อให้ตัวรถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 4.5 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ BMW xDrive ก็ทำงานผสานกับช่วงล่างระบบ adaptive M เฟืองท้ายแบบ M Sport และระบบบังคับเลี้ยวแบบแปรผันตามการหมุนของพวงมาลัย (variable sport steering)
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย เชิญชวนร่วมชมและสัมผัสนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต ภายใต้แนวคิด Leading The Future ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ด้วยทัพรถยนต์ไฟฟ้าฟ้าถึง 7 รุ่น พร้อมไฮไลท์สุดพิเศษ นำทัพโดยเอสยูวีออฟโรดสไตล์โมเดิร์นขวัญใจขาลุย TANK 300 HEV ซึ่งจะนำมาจัดแสดงในตลาดต่างประเทศเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทย พร้อมด้วย ORA Good Cat GT เจ้าเหมียวไฟฟ้าแนวสปอร์ตที่จะมาเผยโฉมให้แฟนๆ ชาวไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรกภายในงานเช่นกัน และพลาดไม่ได้กับข้อเสนอสุดพิเศษและสิทธิประโยชน์มากมายสำหรับลูกค้าและผู้สนใจซื้อรถยนต์เกรท วอลล์ มอเตอร์ โดยสามารถร่วมชมการถ่ายทอดสดบรรยากาศการแถลงข่าวเปิดบูธของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ทาง Facebook หรือ YouTube หรือ TikTok : GWM Thailand ในวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2565 ตั้งแต่เวลา 12.15 น. เป็นต้นไป
TANK 300 HEV รถยนต์ออฟโรดสไตล์โมเดิร์นที่มาพร้อมรูปทรงสง่างามและเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ภายในเมืองได้อย่างครบครัน และการผจญภัยของผู้ขับขี่ขาลุยอย่างลงตัว ซึ่งผู้บริโภคชาวไทยจะได้สัมผัสความแข็งแกร่งกันอย่างใกล้ชิดภายในงานนี้เท่านั้น
ครั้งแรกของประเทศไทยกับการเผยโฉม ORA Good Cat GT เจ้าเหมียวไฟฟ้ารุ่นยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่นจากแบรนด์ ORA โดดเด่นด้วยดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวและอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ พร้อมแล้วที่จะนำมาจัดแสดงให้คนไทยได้สัมผัสกันภายในงานนี้โดยเฉพาะ
เริ่มต้นปีเสือ มาสด้า ทำการส่งข่าวเป็นทางการถึงการแนะนำรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ล่าสุดนั่นคือ NEW MAZDA2 ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ใหม่ LIVE LESS ORDINARY ไม่ธรรมดาในแบบที่เราเป็น โดยยังมาพร้อมขุมพลังสกายแอคทีฟคลีนดีเซลและขุมพลังสกายแอคทีฟเบนซิน กับตัวถัง 2 แบบ นั่นคือ ซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบค 5 ประตู ทั้งยังมีการเพิ่มอุปกรณ์ที่ดีที่สุดในคลาสกับสีใหม่ แพลตทินั่ม ควอตซ์ วางราคาจำหน่ายเท่าเดิมเริ่มต้นเพียง 546,000 บาท
NEW MAZDA2 ยังคงมาพร้อมกับดีไซน์ที่สง่างามด้วยแรงบันดาลใจในการออกแบบและการพัฒนาจากแนวคิด Kodo – Soul of Motion ด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความโฉบเฉี่ยวทรงพลังราวกับมีชีวิต ภายใต้คอนเซ็ปต์ Less is More ส่วนภายในห้องโดยสารถูกยกระดับให้มีความหรูหราพรีเมี่ยมยิ่งขึ้น
พร้อมเพิ่มออฟชั่นที่ทันสมัยและครบครันมากยิ่งขึ้น อาทิ wirless Charger โดยเฉพาะเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำที่เพียบพร้อมใน NEW MAZDA2
โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ยังเตรียมโปรโมชันพิเศษ Mercedes-Benz Reinvention of Tomorrow Offers กับข้อเสนอที่พลาดไม่ได้สำหรับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์หลายรุ่น และสิทธิประโยชน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟมากมาย
MINI
MINI Electric Collection Edition เสริมความโดดเด่นด้วยหลังคาเฉดสีพิเศษ กับตัวถังสีใหม่ ได้แก่ สีเทา Rooftop Grey Metallic และ สีน้ำเงิน Island Blue Metallic ให้ความสปอร์ตมากขึ้น และการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมความสนุกเร้าใจสไตล์โกคาร์ทในตำนาน และยังคงผสานประสิทธิภาพแห่งการขับขี่ โลดแล่นไปสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้นด้วยพลังงานสะอาด โดย มินิ Electric Collection Edition นี้มาให้ลูกค้าในไทยได้เป็นเจ้าของ จำนวนจำกัดเพียง 40 คันเท่านั้น
เทคนิคการทำสีแบบใหม่ทำให้เกิดปรากฏการณ์การสร้างสรรค์สีของหลังคาแบบไล่โทนสี หรือ multitone roof โดยเริ่มจากการลงสีอ่อนอย่างสีฟ้า Pearly Aqua เป็นสีแรก จากนั้นจึงใช้สีน้ำเงิน San Marino Blue แต่งแต้มบริเวณด้านหน้าของหลังคาและสีดำ Jet Black ที่ด้านหลัง การไล่โทนสีในแต่ละคันอาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยจากขั้นตอนการลงสีในกระบวนการผลิต MINI Electric Collection Edition ราคา 2,459,000 บาท พร้อมแพ็คเกจ MSI standard
MINI Cooper S Brick Lane Edition ที่ได้แนวคิดในการออกแบบมาจากผลงานสตรีทอาร์ทบนถนน Brick Lane ของลอนดอน โดยมินิรุ่นพิเศษนี้มีจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 22 คันเท่านั้น โดยนำเอารถ MINI Hatch 3 Door รุ่นมาตรฐาน มาแต่งแต้มลวดลายแบบสตรีทไม่ว่าจะเป็นแถบลายบนฝากระโปรงหน้าและด้านข้างตัวรถ ที่ได้ไอเดียมาจากอาคารอิฐที่เรียงรายกันอยู่บนถนน Brick Lane ตัดกับหลังคาสีน้ำเงินเข้ม San Marino Blue และสปอยเลอร์สีดำ แถบลายที่ว่านี้ยังถูกนำไปเป็นส่วนประกอบของดีไซน์ในจุดอื่น อีกหลายแห่ง
รถยนต์มินิเปิดประทุนสี่ที่นั่งรุ่นพิเศษมาพร้อมกับดีไซน์และอุปกรณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ MINI Cooper S Convertible Sidewalk Edition มอบรูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตาสู่ท้องถนนในตัวเมือง สีตัวถังที่สร้างสรรค์มาให้ตัดเฉดกันอย่างลงตัวและการเลือกใช้วัสดุเน้นย้ำถึงการสร้างสีสันที่สดใหม่ เสริมเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนที่ไม่เหมือนใครและความเพลิดเพลินอันเหนือชั้นให้กับผู้ขับขี่ รูปลักษณ์ภายนอกที่เตะตาและการตกแต่งภายในอย่างมีสไตล์ มอบที่สุดแห่งประสบการณ์การขับขี่แบบเปิดประทุนอย่างเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์มินิ
MINI John Cooper Works Anniversary Edition เป็นการเฉลิมฉลองตำนานกว่า 60 ปีกับครอบครัว Cooper MINI โดยผลิตมาในจำนวนจำกัดเพียง 740 คันทั่วโลก และมีจำหน่ายในประเทศไทยในจำนวนจำกัดเพียง 22 คันเท่านั้น มาในสีตัวถังสีเขียว Rebel Green ตัดกับสีขาวของหลังคา มือจับประตู กระจกมองข้าง และกรอบไฟหน้า รวมถึงแถบสีขาวบริเวณฝากระโปรงหน้าพร้อมเส้นสายสีแดง อุปกรณ์อื่น ๆ บนตัวรถยังประกอบไปด้วย ล้อลาย John Cooper Works Circuit Spoke แบบสลับสี ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางรันแฟลต และสัญลักษณ์ “COOPER” แบบคลาสสิก ที่ติดอยู่บริเวณขอบประตู เสา C และแกนกลางพวงมาลัยหนังแบบสปอร์ต การตกแต่งภายนอกโดดเด่นด้วยหมายเลข 74 บริเวณฝากระโปรงและบานประตู ส่วนภายในห้องโดยสารมาในสีดำ Piano Black พร้อมเบาะหนัง Dinamica แผงหน้าปัดสะดุดตาด้วยลายเซ็นจากสมาชิกสามเจเนอเรชั่นของครอบครัว Cooper ขับเคลื่อนจากขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ควบคู่กับโครงสร้างน้ำหนักเบาและเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 จังหวะ ส่งกำลังสูงสุด 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร โลดแล่นจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.1 วินาที สู่ความเร็วสูงสุด 246 กิโลเมตรต่อชั่วโมง MINI John Cooper Works Anniversary Edition ราคาจำหน่าย: 3,450,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
โตโยต้า ทำการเปิดตัว All new Toyota Veloz เป็นรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง โดยจะมากับดีไซน์ล้ำสมัยกับห้องโดยสารกว้างขวางเทียบเท่ารถระดับ C-segment เบาะที่นั่งสามารถปรับได้ถึง 7 แบบ พร้อมตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ใช้รถที่เป็นครอบครัว รวมถึงกลุ่มธุรกิจ SME สมัยใหม่ ในราคาที่ง่ายต่อการเป็นเจ้าของ โดยมีให้ลูกค้าเลือกทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Premium และ รุ่น Smart
โดย All new Toyota Veloz มาพร้อม 4 จุดขายหลัก คือ ดีไซน์ล้ำสมัยตามแนวคิดการออกแบบ Proud Active, ระบบมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดด้วย Toyota Safety Sense, พื้นที่ภายในกว้างขวางกับรูปแบบปรับเบาะที่นั่งโดยสารถึง 7 แบบ และ การขับขี่ที่ดีเยี่ยม โดยภายนอกเป็นสไตล์พรีเมียมที่เหนือระดับสำหรับชีวิตยุคใหม่โดยด้านหน้าของ All new Toyota Veloz โดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ขนาดใหญ่พร้อมไฟหน้าแบบ LED พร้อมด้วย Light Guiding กับไฟเลี้ยวแบบ Sequential และไฟตัดหมอกหน้า
ส่วนไฟท้ายแบบ LED Light Guiding บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่ง พร้อมแผ่นกันใต้ท้องรถสไตล์ Crossover มีแนวเส้นขอบโครเมียมตั้งแต่ด้านหน้าตัวรถ ยาวไปจนถึงด้านหลัง ล้อและซุ้มล้อขนาดใหญ่ ให้อารมณ์แบบ SUV การออกแบบด้านหลัง ตกแต่งด้วยดีไซน์แบบเส้นยาวแนวนอน ยาวไปจนถึงชุดไฟท้ายทั้งสองฝั่งของตัวรถ ให้ความรู้สึกเฉียบคม และมีความพรีเมียมมากยิ่งขึ้น
อีกรุ่นที่ทาง Toyota เปิดตัวก็คือรถที่จะมาเสริมทัพ GR Series นั่นก็คือ C-HR HEV GR Sport ที่จะมาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกแบบสปอร์ตกับแพ็กเกจชุด GR Sport (สเกิร์ตรอบคัน, ชุดตกแต่งกันชนหน้า, ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่, ไฟตัดหมอกแบบ LED, พร้อมสัญลักษณ์ GR ที่กันชนหน้า และ GR Sport บริเวณท้ายรถ) ส่วนขุมพลังจะเป็นเครื่องยนต์ไฮบริด ขนาด 1.8 ลิตร
ภายในตกแต่งด้วยสีดำ Total Look และสี Gun Metallic สปอร์ตเข้มเต็มสไตล์ GR เบาะนั่งดีไซน์พิเศษ เดินด้ายสีเทา พร้อมสัญลักษณ์ GR , พวงมาลัยหุ้มหนังแบบเจาะรูพร้อมสัญลักษณ์ GR, ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ Push Start พร้อมสัญลักษณ์ GR
เช่นเคย C-HR HEV GR Sport ยังมากับระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense และด้วยช่วงล่างปรับจูนใหม่แบบสปอร์ต ที่ผสานกับประสิทธิภาพช่วงล่างหลังอิสระแบบปีกนกคู่ ให้สมรรถนะในการขับขี่ดีเยี่ยม และขับสนุกได้มากยิ่งขึ้น
อีกทั้งรถคันนี้ยังได้มีการสื่อสารว่าปราศจากการใช้หนังสัตว์ ในการตกแต่งภายในจนถึงเบาะโดยสาร และพลิดเพลินกับระบบ Infotainment ของ Volvo with Google Built in* ที่ให้คุณใช้แอปจากกูเกิ้ลอย่าง Google Maps, Google Assistant ซึ่งเป็นระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่านคำว่า “Hey Google” เพื่อควบคุมแอป อย่าง Sportify รวมทั้ง Google Play หรือจะควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน Volvo Cars App บนสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่ก็สามารถทำได้ ส่วนใครที่สนใจสัมผัสทาง Volvo ก็จะนำไปชมตัวเป็นๆ กันที่บูธภายในงาน นอกจากนี้ยังได้มีการจัดแสดงขบวนรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมสัญชาติสวีดิช สไตล์สแกนดิเนเวียนที่มาพร้อมเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ชั้นสูงอีกหลากหลายรุ่น The All-New Volvo C40 Recharge Pure Electricราคาจำหน่าย 2,750,000 บาท
รถยนต์รุ่นใหม่ที่น่าสนใจและพร้อมไปเผยโฉมในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 หรือ Bangkok International Motor Show 2022 ยังมีอีกมาก ทีมงานจะมาอัพเดทเพิ่มเรื่อย ๆ ตลอดจนจบงานนี้ และยังมีรถยนต์อีกหลายรุ่นที่เด่นไม่แพ้กัน อย่าลืมไปเยี่ยมพร้อมสัมผัสรถคันจริงและแคมเปญโปรโมชั่นต่าง ๆ ได้ครับ