มีงบเท่านี้!!. kicks vs Cross vs CX-30 vs HR-V vs HS รถยนต์ SUV ราคาไม่เกินล้าน คันไหนเหมาะกับคุณ
หากต้องการซื้อรถครอบครัวเอสยูวีขนาดกลางคล่องตัวและราคาไม่สูงนัก ขับสะดวกสบาย ดูแลง่ายและประหยัด และที่สำคัญ
"มีงบเท่านี้" ในราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันมีรถเอสยูวีไซต์นี้เข้าร่วมประชันและเป็นคู่แข่งตลอดกาล เท่าที่ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท และอยู่ในระดับเซ็กเมนต์เดียวหรือใกล้เคียงกันมากที่สุดเห็นจะมีอยู่ 5 รุ่นที่น่าสนใจได้แก่
Nissan kicks V,
Toyota Corolla Cross 1.8 sport,
Mazda CX-30 C,
Honda HR-V E และ
MG HS C โดยทุกรุ่นต่างก็มี "ของดี" ในสไตล์ที่แตกต่างกันไป มาดูว่าแต่ละรุ่นให้อะไรคุ้มค่าแค่ไหน จากการเปรียบเทียบสเปคต่าง ๆ ออปชั่นและระบบความบันเทิงกับความปลอดภัย ว่ารุ่นไหนจะตอบโจทย์และตรงใจกับคุณมากที่สุดครับ
Nissan kicks 1.2 V ราคา 999,000 บาท
Nissan Kicks รุ่น 1.2 V นับเป็นรุ่นที่มีราคาใกล้เคียงในกลุ่มรถทั้งหมดที่นำมาเทียบในความนี้ คิกส์เป็นรถยนต์คอมแพ็คเอสยูวี เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ (e-POWER) รถยนต์ไฟฟ้า 100% มีเครื่องยนต์ไว้ปั่นไฟเก็บเข้าแบตฯ โดยไม่ต้องยุ่งยากในการเสียบปลั๊กหรือกังวลเรื่องระยะทางที่จำกัด เพราะวิ่งได้ตราบที่มีปั้มน้ำมันให้เติม รับประกันระบบ e-Power 5 ปี 100,000 กม. แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน และแบตเตอรี่นาน 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
สเปคเครื่องยนต์ HR12DE 3 สูบ 12 วาล์ว กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 103 นิวตันเมตร ที่ 3,600 - 5,200 รอบ/นาที ความจุน้ำมัน 41 ลิตร รองรับ E20 ทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ส่วนที่ขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ EM57 ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (PS) มีแรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร (Nm) ขับเคลื่อนล้อหน้า แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) มีจำนวน 4 โมดูล อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากโรงงาน 23.8 กม./ลิตร
ช่วงล่าง ด้านหน้าแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลังทอร์ชันบีม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ยาง 205/55R17
ความบันเทิง Nissan Connect หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ Bluetooth, USB, AUX IN, MP3 ช่องต่อ ipod, ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ รองรับ Apple CarPlay, ลำโพง 6 ตำแหน่ง
ความสะดวกสบายและความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัย 4 จุด คู่หน้า, ด้านข้าง
- ไฟหน้า ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) และไฟตัดหมอกแบบ LED ไฟเลี้ยว Signature Light/ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ/ปรับระดับไฟหน้า/ Follow-me-home
- ระบบเพิ่มแรงเบรกฉุกเฉิน EBA (Emergency Brake Assist) และระบบเบรกอัตโนมัติ BOS (Brake Override System)
- ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
- เทคโนโลยีสัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Forward Collisio)
- เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking - IEB)
- เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor - IAVM)
- เทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection - (MOD)
- เทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HSA
- ระบบเบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold
- แอร์อัตโนมัติ
- ระบบคันเร่งเดียว One-Pedal
- เบาะหลังแบบแยกพับ 60 : 40
- Push Start
คอมเมนท์
จุดเด่น - ขับสนุกอัตราเร่งดีเหมือนรถยนต์ไฟฟ้า ระบบคันเร่ง (One Paddle) เดียวควบคุมการเร่งและชะลอความเร็วสะดวกมาก ประหยัดน้ำมัน ค่าบำรุงรักษาต่ำ ขับง่ายคล่องตัวเทคโนโลยีคุ้ม
จุดด้อย - วัสดุภายในดูไม่สมกับราคาเท่าไหร่ เบาะหลังแคบอึดอัด ระบบแป้นเบรกแข็งต้องออกแรงเยอะ
Toyota Corolla Cross 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท
Toyota Corolla Cross 1.8 Sport รถยนต์อเนกประสงค์เซ็กเมนต์ใหม่ C-SUV ของโตโยต้า รุ่นเริ่มต้นที่เรียกว่ามีไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการรถ SUV ใหม่ ๆ ของโตโยต้าแต่ไม่ชอบระบบไฮบริด ซึ่งในรุ่นนี้ก็ตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดี มาพร้อมความอเนกประสงค์แบบ 5 ประตู เป็นรถที่คร่อมกลางระหว่างคอมแพ็กต์เอสยูวีและเอสยูวี แต่ยังไม่ถึงระดับ RAV4 ของโตโยต้าเอง
สเปคเครื่องยนต์ เบนซินขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FBE 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า (PS) มีแรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร (Nm) ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมัน E85 อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากโรงงาน ไม่ระบุ กม./ลิตร
ช่วงล่าง ด้านหน้าอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง ทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า ล้ออัลลอย 17 นิ้ว และฝาครอบล้อ พร้อมยางขนาด 215/60 R17
ความบันเทิง จอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Bluetooth และ USB ระบบ Apple CarPlay ระบบโทรออกด้วยเสียง ระบบ T-Connect ลำโพง 6 ตำแหน่ง
ความสะดวกสบายและความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่าน และหัวเข่าคนขับ
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-Start Assist Control)
- ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน (Drive Start Control)
- สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Brake Signal)
- ไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ฮาโลเจน
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบธรรมดา
- ไฟตัดหมอกหลัง LED
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
- แอร์อัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์หลัง
- เบาะหลังแบบแยกพับ 60 : 40 ปรับเอนได้ 1 ระดับ
- กระจกแต่งหน้าบริเวณแผงบังแดดคู่หน้าพร้อมไฟส่องสว่าง
- แผงกั้นสัมภาระด้านท้าย
- Push Start
- เบรกมือแบบใช้เท้า
คอมเมนท์
จุดเด่น - นับเป็นรุ่นย่อยเดียวที่เป็นเครื่องเบนซินล้วนไม่ใช้ระบบไฮบริด (แต่ในอนาคตไม่แน่) ซึ่งเป็นรุ่นที่เหมาะกับคนไม่ชอบหรือไม่ต้องการระบบไฮบริด หรืออาจจะต้องการใช้ด้านความอเนกประสงค์ยกสูงขับสบายผ่านได้ทุกอุปสรรค โดยไม่สนเทคโนโลยีมากนักเพราะราคาไม่เกินล้านบาท หรือบางคนอาจนำไปตกแต่งให้ดุดันมากขึ้นไป และยังดูแลบำรุงรักษาง่ายประหยัดอีกด้วยเมื่อเทียบกับรุ่นไฮบริด
จุดด้อย - ล้อที่หลายคนไม่ถูกใจสิ่งนี้ เพราะเป็นล้ออัลลอยที่มีลายคล้ายกระทะเหล็ก แถมแปะด้วยฝาครอบ ทำให้ดูกลายเป็นรถรุ่นประหยัดทั้งที่ราคาไม่ได้ต่ำมากนัก ไม่มีระบบเบรกมือไฟฟ้าแต่ให้แบบเหยียบเท้ามาแทน ซึ่งส่วนตัวชอบแบบมือดึงที่ใช้งานง่ายกว่า
Mazda CX-30 2.0 C ราคา 989,000 บาท
Mazda CX-30 2.0 C รถเริ่มต้นราคาไม่ถึงล้านบาทก็นับว่าได้เทคโนโลยีหลายอย่างเทียบเท่ากับรุ่นสูง ๆ ทั้งระบบเครื่องยนต์และช่วงล่าง Skyactiv โดยปรับลดออปชั่นลงเล็กน้อยแต่ก็ยังคงความสะดวกสบายปลอดภัยที่ไม่ด้อยไปกว่ารุ่นอื่น ๆ
สเปคเครื่องยนต์ สกายแอคทีฟเบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร กำลังอัดสูงถึง 13.0:1 ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที เกียร์ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากโรงงาน 15.9 กม./ลิตร
ช่วงล่าง ด้านหน้าอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลังกึ่งทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า
ความบันเทิง แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว เชื่อมต่อระบบ Mazda Connect สั่งการด้วยเสียง รองรับ Apple Carplay, USB 2 ช่อง, Bluetooth ลำโพง 8 ตำแหน่ง
ความสะดวกสบายและความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่าน และหัวเข่าคนขับ
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- ระบบเตือนมุมอัพสายตามด้านข้าง (ABSM)
- เตือนมุมอับขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบควบคุมการทรงตัว (DSC)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS)
- ระบบช่วยออกตัวทางลานชัด (HLA)
- สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
- ไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ LED ปรับระดับและเปิด-ปิดอัตโนมัติ
- แอร์อัตโนมัติแยกปรับซ้าย-ขวาพร้อมช่องแอร์ตอนหลัง
- จอแสดงข้อมูลสะท้อนบนกระจกหน้า
- ไฟส่องในรถ LED
- กระจกแต่งหน้าบริเวณแผงบังแดดคู่หน้าพร้อมไฟส่องสว่าง
- แผงกั้นสัมภาระด้านท้าย
- ปัดน้ำฝนหน้าอัตโนมัติ
- กระจกขึ้นลงอัตโนมัติ 4 บาน
- สปอยเลอร์หลัง
- ท่อไอเสียโครเมียมแบบคู่
- เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง หน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง
- เบาะข้างคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
- เบาะหลังแบบแยกพับ 60 : 40
คอมเมนท์
จุดเด่น - รูปทรงสปอร์ต สมรรถนะกำลังเครื่องยนต์และช่วงล่างนับว่าดีเบาะถนน แน่นหนึบที่สุดในกลุ่มนี้ อุปกรณ์มาตรฐานให้มาเยอะที่สุด คุ้มกับราคา
จุดด้อย - ห้องโดยสารโดยเฉพาะตอนหลังแคบอึดอัด ความประหยัดยังเป็นรองรถไฮบริดและ e-power การบำรุงรักษาสูงเพราะระบบและเทคโนโลยีทั้งเครื่องยนต์และช่วงล่างที่มีมาก
Honda HR-V E ราคา 949,000 บาท
Honda HR-V E รถอเนกประสงค์ที่ไม่ว่าใครจะมาใหม่ล่าสุดอย่างไรก็ยังมียอดขายที่ดี ด้วยรูปทรงที่โดยใจวัยรุ่น แม้จะออกมาหลายปีแล้วก็ยังเห็นวิ่งป้ายแดงกันอยู่มากมาย
สเปคเครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซิน SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 141 แรงม้า แรงบิด 172 นิวตันเมตร มาพร้อมกับระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับ E85 อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากโรงงาน ไม่ระบุ กม./ลิตร
ช่วงล่าง ด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง หลังทอร์ชั่นบีมแบบ H-shape พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ยาง 215/55R17
ความบันเทิง หน้าจอสัมผัส ขนาด 6.8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Smartphone, Bluetooth, USB 1 ช่อง, ช่องเชื่อมต่อ HDMI ลำโพง 4 ตำแหน่ง
ความสะดวกสบายและความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัย 4 จุด คู่หน้า, ด้านข้าง
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
- ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย (MA-EPS)
- ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
- ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
- กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ
- ปุ่ม ECON
- ไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ ระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- มาตรวัดเรืองแสงปรับเปลี่ยนได้ 7 สี
- ระบบแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน (ECO Coaching)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า ระบบ Auto Brake Hold
- เบาะหลังพับแบบ 60:40 ปรับเอนได้ 1 ระดับ
- แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกส่องหน้าแบบมีฝาปิด
คอมเมนท์
จุดเด่น - สวยลงตัวภายในกว้างโปร่งขับสบาย เบาะตอนหลังนั่งสบายกว้างขวาง ขึ้น-ลงสะดวกมาก สมรรถนะเพียงพอขับสนุก ลูกเล่นยอะทั้งปุ่ม Eco มาตรวัดเปลี่ยนสีได้ และมีวัดระดับความประหยัดบอกเป็นคะแนน
จุดด้อย - ช่วงล่างนุ่มมากเกินไป ไฟหน้าฮาโลเจน อัตราสิ้นเปลืองยังไม่น่าประทับใจนักเมื่อเทียบในรถระดับเดียวกัน
MG HS C ราคา 919,000 บาท
(ในรูปเป็นรุ่น HS PHEV)
MG HS C รถ SUV ที่นับว่าไซต์ใหญ่โตมากที่สุด ดูหรูหรามากที่สุด และกว้างขวางโปร่งสบายมากที่สุด (แน่ล่ะก็ใหญ่กว่าเพื่อน) แต่ก็มีระดับราคาที่นำมาเทียบอยู่ในกลุ่มนี้ได้อยู่ ด้วยรูปลักษณ์ที่ยังคงความเป็นศูนย์รวมรถยุโรปสวยสะดุดตา และสมรรถนะก็ไม่ธรรมดาทำให้ยอดขายดีพอสมควร
สเปคเครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว 1.5 ลิตร Turbo TGI กำลังสูงสุด 162 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร นับว่าแรงสุดในกลุ่ม (แต่อัตราเร่งเป็นรองคิกส์อยู่เล็กน้อย) ระบบเกียร์ Twin Clutch Sportronic Transmission (TST) 7 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า
ช่วงล่าง ด้านหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลังอิสระมัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ยาง 215/60R17
ความบันเทิง หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ ช่องเชื่อมต่อ USB (ในสเปคไม่มีระบุว่ารองรับการเชื่อมต่อ Apple Carplay) ลำโพง 4 ตำแหน่ง
(ในรูปเป็นรุ่น HS PHEV) ความสะดวกสบายและความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
- กระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อม Auto Vehicle Hold
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS
- ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน HDC
- ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน MSR
- ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้พลิกคว่ำ ARP
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ
- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ฮาโลเจนระบบปรับระดับไฟหน้าขึ้น - ลง และเปิด - ปิดไฟหน้าอัติโนมัติ
- ไฟตัดหมอกหน้า และหลัง
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน
- กล้องมองหลัง
- เบาะนั่งด้านหลัง พนักพิงพับได้ 60:40
- กระจกไฟฟ้า One Touch Up - Down
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าแบบ 6 ทิศทาง
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- แผงปิดสัมภาระด้านท้าย
- สปอยเลอร์หลัง
- ราวหลังคา
คอมเมนท์
จุดเด่น - ขับสนุกพอตัวเน้นความสะดวกสบาย กว้างขวาง และวัสดุที่หรูหรามาก และนับเป็นรุ่นที่ให้เทคโนโลยีความปลอดภัยมาเยอะมาก เหมาะกับผู้ชื่นชอบความปลอดภัยเยอะในราคาไม่สูงนัก หรือราคาต่ำสุดแล้วใน 5 รุ่นนี้!
จุดด้อย - เนื่องจากรถตัวมีขนาดใหญ่ ทำให้สมรรถนะอัตราเร่งจะรอบรอบจากเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แม้จะมีเทอร์โบก็ตาม อัตราสิ้นเปลืองก็ดุดันตามเท้าและขนาดตัวรถ
สรุปว่า รถยนต์ในกลุ่มราคาระดับนี้มีความโดดเด่นและคาร์แร็กเตอร์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความชอบคนแต่ละคนและความต้องการใช้งานในตัวตนของรถแต่ละรุ่น เช่น ถ้าชอบเทคโนโลยีเยอะ ขับสนุก เน้นสปอร์ตสวย ก็แลกกับความแคบอึดอัด หรือต้องการรถคันใหญ่ ออปชั่นจัดเต็ม แต่ก็อาจมีความประหยัดหรือการขับขี่ที่ตอบสนองไม่ได้เต็มที่นัก ดังนั้น เน้นครับว่าก่อนจะตัดสินใจต้องไปทดลองขับขี่ให้ครบและรุ่นละหลาย ๆ รอบหลายดีลเลอร์ไปเลยครับ การซื้อรถก็เหมือนซื้อบ้านต้องดูองค์ประกอบหลายอย่างร่วมกันไป โดยเฉพาะต้องให้และรายงาน ผบ.ทบ. อนุมัติก่อนเสมอ
เน้นย้ำว่ารถที่นำรถยนต์แต่ละรุ่นมาเปรียบกันไม่สามารถจะฟันธงได้ว่ารุ่นไหนดีกว่าหรือน่าใช้กว่ากันและบางรุ่นก็อาจจะมีขนาดตัวรถและเครื่องยนต์ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่อยู่ในพิกัดราคาใกล้เคียงกัน แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อว่าจะนำไปใช้งานในลักษณะใดที่ตอบสนองความต้องการมากที่สุดในราคาที่คุ้มค่าตามความสามารถของแต่ละบุคคลมากที่สุดอีกด้วยครับ