ขับแล้วชอบของ CarGuru of the year 2020
2020 เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับค่ายรถยนต์พอสมควรเพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้แผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ชะงักไปตามๆ กัน นอกจากนี้เรื่องการจัดงาน การทดสอบ และการส่งเสริมการขายก็ต้องชะลอตัวไปด้วย แต่หลังจากผ่านช่วงปลดล็อคมาได้ หลายแบรนด์ก็ทยอยเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ กันอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดวิถีใหม่ของการเปิดตัวทางออนไลน์ ไล์ฟสด ที่ไม่ต้องให้ผู้คนมารวมตัวกัน บางแบรนด์อยากเปิดตัวแบบให้สัมผัสรถจริงก็ต้องแบ่งเป็นรอบ เพื่อจำกัดจำนวนนักข่าว นอกจากนี้การทดสอบรถแบบกลุ่มจึงพอทำได้ช่วงหลัง แต่ล่าสุดท้ายปีสถานการณ์โควิดก็กลับมาตึงเครียดอีกรอบ อย่างไรก็ตาม เราได้รวบรวมรถใหม่ที่ขับแล้วชอบของทีมงานเพจคาร์กูรู เว็บไซต์เช็คราคา.คอม
1. กูรูหมิว
Ford Ranger Raptor
สำหรับ Raptor กระบะสำหรับสายลุยที่ชอบเพราะด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร (1,996 ซีซี) ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบที่ใช้ใน F150 และ Mustang พร้อมส่งมอบความแรงระดับ 213 แรงม้า และ แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร มันเป็นรถที่เหมาะกับการลุยเข้าป่า ทางดิน ทางขรุขระ หมดห่วง ด้วยโช๊คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ Fox Racing Shox และช่วงล่างที่ถูกยกสูงขึ้นช่วยเรื่องการทรงตัว ทำให้ขับขี่ออฟโรดได้อย่างมั่นใจ ขับบนถนนถ้ามาเร็วยังสามารถใช้ แพทเดิลชิพช่วยลดความเร็ว ถือว่ารถขับสนุกเอามากๆ รวมทั้งตัวช่วยภายในที่จัดเต็มทุกโหมดการลุย หมดกังวลว่าสาวๆ ยุคใหม่จะขับกระบะไม่ได้ไปเลย....จะตัวเล็กแค่ไหน ถ้ามันขับได้ ไปได้ จะเนินแบบไหน เข้าป่าไปลึกเท่าไหร่ ถ้ามั่นใจและเข้าใจระบบของรถดีพอ คุณก็ขับรถคันใหญ่ได้หมดห่วง Ford Ranger Double Cab 2.0L Bi-Turbo Raptor 4x4 10AT ราคา : 1,699,000 บาท
Toyota Fortuner
สำหรับ Toyota Fortuner Legender 2.8 4wd เป็นอีก 1 รุ่น ตัวท็อปที่ชอบมากๆ ด้วยรูปลักษณ์แตกต่างจากรุ่นธรรมดา ที่สังเกตง่ายๆ คือ สีรถแบบทูโทน หลังคาดำ รับกับกระจังหน้าคมเข้ม พิถีพิถัน ซึ่งดูแตกต่างจากรุ่นมาตรฐานอย่างชัดเจน และที่สัมผัสกันได้นั่นก็คือ ระบบความปลอดภัยที่เพิ่มเข้ามาให้จนรู้สึกว่ารถคันนี้ตอบโจทย์ครบทุกอณูประการ (เพราะผู้เขียนเองก็ใช้ ฟอร์จูนเนอร์ หน้าแชมป์ 3.0 ตัวเก่า) จึงทำให้รู้ว่าโฉม 2020 นี้มันน่าใช้ และปลอดภัยกว่าเดิม ทำให้ผู้ขับอุ่นใจได้หลายเท่า ซึ่งโดยรวมเทคโนโลยีที่จัดเพิ่มให้ในฟอร์จูนเนอร์ตัวใหม่ และทุกๆ อย่างที่ปรับมาครั้งนี้บอกเลยว่า ถ้าไม่ติดว่าตัวคุณเล็ก ขึ้นลงลำบาก ก็จัด! ไม่ต้องคิดเยอะ Toyota Fortuner 2.8 Legender 4WD AT MY2020 ราคา 1,839,000 บาท
MG ZS 2020
เป็นอีก 1 รุ่นที่ชอบเพราะเทคโนโลยีสุดล้ำ กับราคาที่ย่อมเยา สำหรับ MG ZS 2020 รถยนต์ SUV 5 ที่นั่ง เห็นชัดคือรูปลักษณ์ทั้งภายนอกภายในที่แต่งหรู ดูเด่น เกินราคา และเทคโนโลยีในรถที่ล้ำสมัย ให้มาไม่มีกั๊ก มีการปรับเปลี่ยนเกียร์จากเดิมแบบ 4 สปีด เป็น เกียร์ CVT 8 สปีด NEW MG ZS มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินดิม 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที และสามารถปรับโหมดได้ถึง 3 โหมด คือ โหมด City สำหรับการขับขี่ในเมือง โหมด Standard สำหรับการขับขี่ทั่วไป และโหมด Sport โดยรวมแล้ว New MG ZS 2020 ยังเป็นรถ SUV ที่น่าใช้ และตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่งบน้อยแต่เน้นฟังก์ชันแบบจุกๆ เพราะมีราคาเริ่มต้นที่ 689,000 บาท เท่านั้น
2. กูรูช้าง
Porsche Taycan 4S / Turbo
คันแรกที่ประทับใจไม่มีวันลืมได้ลงคือ เจ้ายานอวกาศ Taycan ที่มีพลังกระชากวิญญาณกว่า 430 แรงม้า แรงบิดระดับ 850 นิวตัน-เมตร ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ วิ่งได้ระยะทาง 381 - 450 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ซึ่งต้องบอกว่านับเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความเร็วที่สุด และอัตราเร่งดีระดับ 0 - 100 ใน 3.2 วินาที โดยไม่รอรอบและยังมีระบบเบรกที่รองรับแรงมากได้สบายๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีมากมายในตัวรถทั้งความสะดวกสบายต่างมากมาย สำหรับรถยนต์ค่ายซูเปอร์คาร์ปอร์เช่แบบ 4 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าพละกำลังและล้ำหน้าขนาดนี้ในราคาเริ่มต้น 7 ล้านกว่า นับว่าสมฐานะเป็นอย่างยิ่ง
ALL NEW VOLVO V60
ALL NEW VOLVO V60 รถยนต์ครอบครัวสไตล์แอทสเตจที่แฝงความสปอร์ตแรงกับพลัง T8 Twin Engine Plug-in Hybrid AWD เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ Turbocharged และ Supercharged กำลังสูงสุด 320 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้า 87 แรงม้า รวมแล้วกำลังสูงสุด 407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร ใช่แล้วครับ นี้คือ สิ่งที่รู้สึกว่าเราได้ใช้รถยนต์ที่ขับได้สะดวกสบายหรูหราอเนกประสงค์ แต่ความแรงระดับราวกับรถซูเปอร์คาร์ ทั้งขับสนุกและปลอดภัยในวอลโว่มั่นใจได้อีกด้วย ส่วนเรื่องราคานับว่าการที่ได้เทคโนโลยีรถยนต์ไฮบริดหรูมาดยุโรปเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท ไม่สูงมากนักแม้ว่าจะขยับไปที่เริ่มท็อป 2.69 ล้านบาท ที่เพิ่มออปชั่นอีกเพียบก็ยังคุ้มกับรถยนต์สายพันธุ์สวีเดนจริงๆ ครับ
Nissan Kicks
รถยนต์ไฟฟ้าล้วน หรือ EV มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 129 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร ที่สามารถแก้ปัญหาข้อจำกัดในการระยะทางการขับขี่ได้อย่างตรงใจมากที่สุด ขับไปไม่ต้องชาร์จไฟ เดี๋ยว ePower ดูแลให้แค่เติมน้ำมันอย่างเดียวเหมือนรถยนต์ทั่วไป แต่สิ่งที่ได้และแตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าหรือความประหยัดเท่าอีโคคาร์ก็คือ พละกำลังที่เทียบเท่ารถยนต์ SUV ขนาดเครื่องยนต์ใหญ่ระดับ 2.0 - 2.4 ลิตร แต่ไม่ซดน้ำมันเท่า แถมมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำกว่ามากหรือเท่าอีโคคาร์เท่านั้น และยังมีความอเนกประสงค์ใกล้เคียงกันอีกด้วย นอกจากนี้ฟังก์ชันคันเร่งอัจฉริยะ วัน-เพดัล (One-Pedal) ก็ใช้งานสะดวกสบายยามรถติดหรือขึ้น-ลงเขา สำหรับในรุ่น VL มาพร้อมความปลอดภัย Nissan Intelligent Mobility ทั้งหมดจบที่ค่าตัว 1,049,000 บาท โดยรุ่นเริ่มต้นราคาเพียง 889,000 บาทเท่านั้น
3. กูรูบอม
เป็นปีที่มีโอกาสลองรถรุ่นใหม่ไม่มากเท่าที่อยากขับ ด้วยสถานการณ์โควิด-19 และการแบ่งส่วนไปทดสอบมอเตอร์ไซค์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม รถใหม่ที่ขับแล้วโดนใจส่วนตัวจึงมี 2 รุ่น ก็มีเหมือนกันแบบว่าถอยเองก็ได้แนะนำก็ใช่
Isuzu D-Max X-Series HI-LANDER ส่วนตัวชอบรูปโฉมดีแมคซ์ใหม่ คิดว่าเอ็กซ์-ซีรี่ส์ ต้องสวยขึ้นไปอีกแน่ พอเปิดตัวก็เป็นไปตามที่คิด ด้วยชุดแต่งสปอร์ตพรีเมียมรอบคัน และการใส่รายละเอียดดีไซน์ภายในสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ช่วยให้ดูพรีเมียมขึ้น ภายนอกได้อารมณ์สปอร์ตสวยแตกต่าง ในส่วนขุมกำลังขนาด 1,898 ซีซี คอมมอนเรลไดเร็คอินเจคชั่น พร้อม VGS เทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลัง 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที พร้อมชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ลองขับทางไกลกว่า 2,000 กม. ขึ้นภายเหนือไต่ขึ้น-ลงทางชันพร้อมบรรทุกผู้โดยสาร สรุปเลยว่าผ่าน ยิ่งปัจจุบันต้องขับตามสปีดลิมิตทางหลวงไม่เกิน 120 กม./ชม. ทำให้ได้ความประหยัดมากขึ้น ด้วยราคา 974,000 บาท D-Max X-Series จึงเป็นปิกอัพ 4 ประตูยกสูงที่สวยโดนใจที่สุดรุ่นหนึ่ง
M4 CS Coupe เป็นรุ่นพิเศษในตระกูล M ผลิตจำนวนจำกัด เน้นสไตล์การขับดุดัน สปอร์ตสุดๆ และลงสนามแข่งแบบแทร็คเดย์ได้สบายๆ แต่ยังขับใช้งานในชีวิตประจำวันได้สบาย ด้านขุมพลัง 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร M TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 460 แรงม้า เคลมอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ M แบบคลัตช์คู่ 7 จังหวะ พร้อมระบบ Drivelogic เพื่อการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วภายในเสี้ยววินาที ด้วยแป้นเปลี่ยนเกียร์ paddle shift มีระบบควบคุมเสถียรภาพการขับ (DSC) ที่สามารถทำงานในโหมดพิเศษ M Dynamic (MDM) และระบบเฟืองท้าย Active M สามารถเลือกเปลี่ยนได้ 3 โหมดขับ (Comfort, Sport and Sport+) ที่เลือกรุ่นนี้เพราะแพชชั่นล้วนๆ ด้วยราคา 11,439,000 บาท มันอยู่นอกเหนือสมการความคิดการซื้อรถใช้ ถ้าไม่ใช่เพราะชอบและหลงใหลจริง ที่สำคัญเงินต้องถึง ความแรงกับความเป็น M รุ่นแต่งพิเศษแบบนี้ ใครเห็นกับตา ขับกับตัวเองแล้วคงรู้ว่าทำไมถึงเป็นรถในฝันของหนุ่มๆ หลายคน