รวมรถยนต์เด่น น่าใช้ งบไม่เกิน 1 ล้าน! โดย แอดมินหมิว (Car Guru thailand by Checkraka.com)
จะเรียกว่าแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว หรืออุตสาหกรรมการส่งออกหรือนำเข้ารถยนต์ยอดเฉลี่ยจะลดลงจากเดิมไปมาก แต่มองดูแล้วน่าจะสวนกระแสกับคนไทยที่ยังต้องการยานพาหนะไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน จนเหมือนจะเป็นปัจจัย 4 ที่ขาดไม่ได้ เพราะข่าวการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ตลอดทั้งปี 2562 และยอดจองในงาน Motor Show และ งาน Motor Expo ก็ทำให้สังเกตุได้ว่าคนไทยยังมีกำลังซื้อ เพียงแต่รู้จักเลือกซื้อ! สินค้าเหล่านั้น หรือพิถีพิถันมากกว่าเดิม
และสำหรับรถยนต์ในปีนี้ ก็มีหลากหลายรุ่น หลากหลายเซคชั่นที่ยกทัพมาเสิร์ฟให้คนที่ต้องการซื้อรถ หรืออยากจะเปลี่ยนรถยนต์ ได้ปวดหัวกุมขมับ ว่าจะกำเงินเข้าค่ายไหนดี? ผู้เขียนเลยขอสรุปรถยนต์น่าใช้ปี 2019 โดยที่ผู้เขียนได้ไปสัมผัสและทดลองขับ และพิจารณาว่า คุ้ม! แถมราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท! มาให้ผู้อ่านได้กุมขมับ! เฮ้ย! ไม่ใช่!! ได้ไปประกอบการพิจาณาเลือกคันที่ใช่.... เผื่อจะช่วยให้พ่อบ้าน แม่บ้านมือใหม่ ตัดสินใจง่ายขึ้นค่ะ
1. MG HS ราคาเริ่มต้น 919,000 บาท
เปิดตัวมาแรงกับรถยนต์สายพันธุ์อังกฤษแท้ๆ กับ
MG HS และล่าสุดได้รับรางวัลการันตี 5 ดาว ว่าเป็นหนึ่่งในรถที่มีระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุด เป็นรถ SUV เครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ 162 แรงม้า ที่ลูกเล่นแพรวพราว แม้ราคาตัวท็อปสำหรับ MG HS จะเกินล้าน แต่ยังขอยกให้เป็นรถที่มีความคุ้มค่ามากๆ และขอยกให้เป็นเบอร์ 1 ในดวงใจ ณ ตอนนี้ (ราคาตัวท็อปถูกกว่ารถ SUV ในระดับเดียวกัน) นอกจากนี้ระบบความปลอดภัยก็เยอะเอามากๆ ที่สำคัญ ดีไซน์ภายนอกเน้นออกแบบรูปทรงแบบรถยุโรป ห้องโดยสารบวกกับออพชั่นภาพในที่ไม่มีกั๊ก ในรุ่นเริ่มต้นรุ่น C ซื้อใช้งานก็ยังถือว่าซื้อไปและใช้คุ้ม ห้องโดยสารกว้างระบบความปลอดภัย 25 จุดให้มาตั้งแต่ตัวเริ่มต้น และถ้าหากหลายคนยังกังวลเรื่องศูนย์บริการ ขอบอกเลยว่าเขามีแพลนที่จะขยายเพิ่มไปอีกแน่นอน ทุกจังหวัดจะต้องมีศูนย์บริการ MG
อ่านบทความรีวิวรถยนต์ New MG HS เพิ่มเติม
-
MG HS รุ่น C ราคา 919,000
-
MG HS รุ่น D ราคา 1,019,000
-
MG HS รุ่น X ราคา 1,119,000
2. SUZUKI ERTIGA ราคา 695,000 บาท
All New SUZUKI ERTIGA รถยนต์ MPV 7 ที่นั่ง แรงดี ราคาประหยัด คันนี้เป็นรถนำเข้าจากอินโดทั้งคัน เครื่องยนต์ 1.6 ซีซี 105 แรงม้า ที่คุ้ม และราคาถูกที่สุด หากไม่เน้นเรื่องงานดีไซน์ แต่ถ้าเน้นใช้งานหรือออกเดินทางกันทั้งครอบครัว คันนี้ถือว่าตอบโจทย์ครบองค์รวม ทั้งเรื่องที่นั่ง 7 ที่นั่ง ไม่สูง ไม่เตี้ยเกินไป ใส่ของได้เยอะ เครื่องยนต์กำลังพอเหมาะกับการใช้งานในเมือง เกียร 4 สปีด ถ้าไม่ซิ่งก็วิ่งชิลๆ หรือจะไปเที่ยวกันตามต่างจังหวัด แต่อาจขัดใจวัยรุ่นขาซิ่ง หรือคนที่ชอบงานดีไซน์ฟังก์ชั่นเยอะไปบ้าง
แต่ไม่ขัดใจเงินในกระเป๋าแน่นอน อ่านบทความรีวิวรถยนต์ All New SUZUKI ERTIGA เพิ่มเติม
3. Honda BR-V ราคา 7 ที่นั่ง 835,000 บาท
สำหรับ
Honda BR-V 2019 ยนตกรรมแอคทีฟสปอร์ตครอสโอเวอร์ เครื่องยนต์ Honda BR-V 1500 ซีซี SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 141 แรงม้า ดีไซน์สปอร์ต คันนี้ทำมา 2 แบบ คือ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง คือรูปทรงกึ่งๆ แนวพร้อมให้เราออกทำกิจกรรมเพราะเน้นด้านท้ายที่กว้างใส่ของได้จุ ใส่จักรยานได้ทั้งคันถึง 2 คัน ยัดกระเป๋าสัมภาระได้เต็มที่ และฟังก์ชั่นภายในที่ให้มาก็ไม่ขี้เหร่ อาจจะไม่หวือหวาเทียบรถเปิดตัวใหม่ ก็ยังคงขับสนุกตามสไตล์ เกียร์ CVT และช่วงล่างที่รู้สึกได้เลยว่าหนักแน่น และเบรคที่ค่อยๆ ละมุนละเมียดไม่กระโชกจนรู้สึกตกใจ ตอนเร่งแซงใครว่าไมไหวขอเถียงสุดพลัง เพราะกดคันเร่งปุ๊บพละกำลังก็มาได้ทันที
ถึงจะไม่ใช่รุ่นใหม่ทั้งหมด ดีไซน์อาจจะยังไม่โดนใจวัยรุ่น เพราะรถจะเน้นคนวัยทำงานที่ชอบทำกิจกรรม ก็ยังถือว่า Honda BR-V 2019 ยังเป็นรถที่ราคาดีและน่าใช้ที่สุด อ่านบทความรีวิวรถยนต์ Honda BR-V เพิ่มเติม
4. Toyota Artis ราคารุ่นไฮบริด เริ่มต้น 939,000 บาท
สำหรับ
Corolla Altis เจนเนอเรชั่นล่าสุด รุ่นที่ 12 หลายคนชอบมองว่าน้องเป็นรถแท๊กซี่ เอาจริงๆ ก็ใช้แหละ แต่! รถที่ใช้เป็นรถแท๊กซี่เข้าไม่มีรุ่นไฮบริดนะจ๊ะ และเข้าใช้แค่ตัวรุ่นล่างเท่านั้น ออฟชั่นยังไงก็ต่างกันแน่นอน ในเจเนอร์เรชั่นนี้ทำเครื่องยนต์มา 2 แบบคือ 1.6 และ 1.8 (รุ่น Hybrid และ GR) เกียร์เป็นแบบ E-CVT 7 สปีด 98 แรงม้า ภายนอกโฉมนี้อาจจะดูแคบลงกว่าเดิมไปสักหน่อย แต่ความยาวมีเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ฟังก์ชั่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น Cruise control, Wi-fi , Apple Car Play ระบบช่วงล่างแบบ TNGA ที่ได้มาตรฐาน และอื่นๆ ที่ไม่เคยมีในรุ่นนี้มาก่อน แถมราคาตอนเปิดครั้งแรกร้องว้าวทันที เพราะควักกระเป๋าจ่ายเงินไม่ถึงล้าน แต่ได้รถไฮบริดไปขับ ถือว่าก็คุ้มแล้ว สำหรับคนวัยทำงานรุ่นใหญ่ หรือใกล้เกษียณ แม้รถอาจจะไม่แรงเร้าใจ (จะเอาเร้าใจก็รุ่น GR หรือตัว 1.6) เพราะรถคันนี้เน้นประหยัด และความปลอดภัยเป็นหลัก ก็ถือว่าเวิคแล้ว
อ่านรีวิวรถยนต์ All New Toyota Corolla Altis 2019 เพิ่มเติม
Toyota Corolla Altis 2019 มี 6 รุ่น ได้แก่
5. Mazda 2 ราคารุ่นเบนซิน 690,000 บาท
จบด้วยรุ่นสุดท้ายน้องเล็กที่ห้ามพลาดกับ
Mazda 2 ปรับโฉมใหม่ล่าสุดที่หน้าตาเริ่มไปในทิศทางเดียวกันกับรุ่นพี่อย่าง Mazda 3 หรือตระกูล CX เพราะเขาต้องการให้รถมีความสวยสปอร์ตตามสไตล์แบบ Kodo ดีไซน์ มาสด้าได้รับการตอบรับจากการเป็นผู้ให้โดยแท้จริง (ให้ฟังก์ชั่นระดับรถลักชูรี่ในรถซิตี้คาร์) และยังมีให้เลือก 2 เครื่องยนต์เป็นเจ้าแรกคือแบบดีเซล 1.5 105 แรงม้า และเบนซิน 1.3 93 แรงม้า ความสวยหรู ดูสปอร์ต
ไม่ต้องอธิบายมากเพราะถ้าคนซื้อคือกลุ่มวัยรุ่น และวัยทำงานต้นๆ ถูกอกถูกใจ และคุ้มค่าที่สุด ส่วนภายในพื้นที่ห้องโดยสาร ด้วยการออกแบบที่เน้นสปอร์ตท่านั่งได้อารมณ์นั่งแบบรถแข่งหน่อยๆ ก็อาจจะแคบไปนิดถ้าเทียบเจ้าอื่นๆ แต่ที่ต้องชมและได้ยินมาหนาหู คือเรื่องของช่วงล่างที่หนึบแน่น! สมคำร่ำลือ และตัวล่าสุดมีการเพิ่มระบบความปลอดภัย Skyactiv GVC ( Plus ) เน้นมือใหม่ขับซิ่งเข้าโค้ง ระบบนี้จะช่วยเซฟตี้ไม่ไห้หลุดไถลไปไกล ถือว่าเป็นรถเล็กที่ให้ทุกอย่างคุ้มเกินค่าตัวที่ยกนิ้วให้ว่าคุ้มจริงๆ
ราคาNew Mazda2 เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 แบบ 4 ประตู และ 5 ประตู
ราคาเครื่องดีเซล 1.5 แบบ 4 ประตู และ 5 ประตู
อ่านบทความรีวิวรถยนต์ New Mazda2 เพิ่มเติม
ในทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นเพียงความรู้สึกของผู้เขียนที่ได้ไปทดลองขับมาตลอดปี 2019 การเลือกซื้อรถอย่างแรกก็คงต้องดูจากความชอบส่วนตัว และกำลังในการซื้อหรือผ่อนจ่าย และที่สำคัญความคุ้มค่า กับระบบความปลอดภัยต้องมีให้ครอบคลุมซึ่งส่วนใหญ่หลายๆ ค่ายจะชูเรื่องความปลอดภัยเป็นจุดขายหลัก ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนตัดสินใจซื้อก็ควรศึกษา และไปทดลองขับจะได้ไม่ซื้อมาแล้ว แล้วมานั่งคิดในใจว่า "ทำไมกูไม่ซื้อรุ่นนี้วะ"